บ้านทรอปิคอล

บ้าน ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่หลบแดดฝนเท่านั้น แต่บ้านยังเป็นพื้นที่ความสุขความทรงจำ และการเชื่อมโยงระหว่างกัน แต่เท่านั้นสำหรับบางบ้านอาจยังไม่พอ ขอเพิ่มธรรมชาติเข้าไปด้วยเพื่อให้ชุ่มชื่นหัวใจ เหมือนเช่นวิลล่า 3 ชั้นบนพื้นที่ 20×20 ม. หลังนี้ ที่ตั้งอยู่ใน Binh Tan เวียดนาม ที่นี่เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว 3 รุ่น เจ้าของต้องการบ้านที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติ โดยมีโจทย์ว่าอยากให้สีเขียวของต้นไม้ใบไม้ปรากฏอยู่ในทุกพื้นที่ ขณะเดียวกันก็การบูรณาการฟังก์ชันต่าง ๆ ในบ้านให้สะดวกสบายมากที่สุด เพื่อให้บ้านเป็นสเปซส่วนตัวที่รองรับการพักผ่อนของสมาชิกแบบสงบเงียบท่ามกลางเมืองที่พลุกพล่าน

ออกแบบ : MM architects / Mimya
ภาพถ่าย : Hiroyuki Oki
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

จากภายนอก The Lodge Villa จะเป็นอาคารที่ค่อนข้างปิด ด้านหน้าอาคารจัดวางด้วยระบบระแนงไม้ทั้ง 4 ด้าน ที่ยืดหยุ่นเปิดปิดได้ตามความต้องการใช้งาน ให้ความรู้สึกที่แตกต่างเมื่อมองจากภายนอก ระบบฟาซาดไม้ระแนงเป็นแผงขนาดใหญ่นี้ช่วยลดการดูดซับความร้อนจากสิ่งแวดล้อมให้เหลือน้อยที่สุด พร้อมกรองแหล่งกำเนิดแสงที่ส่องเข้ามาในพื้นที่ภายใน เพิ่มความเป็นส่วนตัวโดยไม่ทำให้บ้านอับชื้นหรืออึดอัด ส่วนหลังคากลุ่มสถาปนิกเลือกออกแบบหลังคาแบบปั้นหยาที่มีความลาดชันปานกลาง ใส่วัสดุโปร่งแสงตรงใจกลาง และมีกันสาดกว้างบังแดด

หนึ่งความประทับใจอยู่ที่ประตูหน้าไม้เนื้อแข็งขนาดใหญ่ที่แยกพื้นที่ภายในและภายนอก แนวคิดในการออกแบบประตูนี้คือการช่วยให้เจ้าของบ้านละทิ้งความวุ่นวายทั้งหมดไว้เบื้องหลัง ให้พบกับความรู้สึกผ่อนคลายและสงบสุขทันทีที่ถึงบ้าน ด้านล่างสถาปนิกจัดสวนเขียวๆ เอาไว้ ส่วนใต้ฟาซาดระแนงจะมีต้นลีกวนยูเป็นแถวเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ทำให้เกิดไฮไลท์ของบ้านที่ดูนุ่มนวลขึ้น แถวแนวของต้นไม้ยังช่วยจำกัดผลกระทบของแสงแดดและฝุ่นที่มีต่อพื้นที่ภายใน เหมือนเป็น “ที่พักพิง” อันเงียบสงบ ตอบสนองความปรารถนาของเจ้าของที่จะ “หลบภัย” ในธรรมชาติ

พื้นที่ภายในประกอบด้วยรูปทรงทางสถาปัตยกรรมที่จัดวางอย่างสมเหตุสมผล โดยสถาปนิกได้วางตำแหน่งสวนไว้ตรงกลางบ้าน เป็นคอร์ทยาร์ดโถงสูงทำหน้าที่เติมความสมดุลโดยรวมให้กับบ้าน รอบสวนทั้งหมดมีมุมมองที่เปิดกว้างสู่พื้นที่สีเขียวผ่านประตูกระจกใส เชื่อมโยงพื้นที่ใช้สอยจากด้านหน้าไปด้านหลัง สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และระหว่างมนุษย์กับมนุษย์

หลังคา Skylight เหนือสวน ทำให้ต้นไม้ได้รับแสงสว่างที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโต เพิ่มความสว่างให้ภายในโดยแทบไม่ต้องเปิดไฟฟ้าส่องสว่างในช่วงกลางวัน ยิ่งเดินสูงขึ้นไปก็จะเห็นว่าพื้นที่ยิ่งสว่างขึ้น เนื่องจากการอยู่ใกล้หลังคาช่องรับแสง แต่ไม่ทำให้พื้นที่ภายในร้อน เพราะช่องรับแสงออกแบบให้มีโครงหลังคาเป็นซี่ไม้บาง ๆ ช่วยทำหน้าที่กรองแสงอีกระดับ

ภายในบ้านเน้นโทนสีเข้มเป็นหลักแต่ก็ไม่ได้มืดแต่อย่างใด เนื่องจากการจัดต้นไม้ แสงธรรมชาติ และแสงไฟเข้ามาช่วยให้บ้านดูสว่างและมีชีวิตชีวา

สำหรับฟังก์ชันการใช้งาน ชั้นล่างมีโรงจอดรถ สวนขนาดเล็ก ห้องน้ำรวม 1 ห้อง พื้นที่ครัวเชื่อมต่อกับโต๊ะรับประทานอาหาร ห้องนั่งเล่น ห้องนอนสำหรับปู่ย่าตายาย และลิฟต์ มีอุปกรณ์ครบครันเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของครอบครัว 3 รุ่น โดยที่พื้นที่ใช้สอยส่วนกลางชั้นล่างเหล่านี้เชื่อมต่อกันด้วยสวนกลางบ้าน นอกจากนั้นก็ยังมีสวนด้านข้างด้วย เมื่อมองผ่านผนังกระจกทำให้รู้สึกว่าบ้านถูกล้อมไว้ด้วยธรรมชาติอย่างแท้จริง ความใสของกระจกยังทำให้รู้สึกเป็นอิสระ โปร่งสบายต่างจากภาพบ้านที่ค่อนข้างดูปิดอย่างสิ้นเชิง

บนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ส่วนที่ที่สงบเงียบมากกว่า แบ่งเป็นห้องนอนใหญ่และห้องนอนเด็ก 2 ห้อง โดยแต่ละห้องมีห้องน้ำและพื้นที่แต่งตัวเป็นของตัวเอง ชั้น 3 มีห้องแท่นบูชา ห้องคาราโอเกะ ระเบียง และห้องซาวน่า สิ่งที่พิเศษคือ ห้องนอนทุกห้องจะมีหน้าต่างหันหน้าไปทางบริเวณสกายไลท์ จึงสามารถมองเห็นสวน มองเห็นกันและกัน พร้อมรับแสงเข้าสู่ห้องนอนได้อย่างเพียงพอ

พื้นที่อาบน้ำแบบเปิดโล่งในห้องนอนใหญ่ ออกแบบให้ความผ่อนคลายทุกครั้งที่เข้าใช้งานด้วยดีไซน์สไตล์มินิมอล โดยใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น กรวด ไม้ และจัดสวนเอาไว้เหมือนจำลองพื้นที่กลางแจ้งมาเก็บไว้ข้างใน ส่วนห้องน้ำก็จะมีประตูหันหน้าไปทางสวนเพื่อการระบายอากาศ แสงสว่าง และจำกัดเชื้อราในพื้นที่ปิดพร้อมสวนเล็ก ๆ ทุกห้อง