ความโมเดิร์นสุดคลาสสิคของอิฐแดง

วัสดุท้องถิ่น ที่คุ้นตามาตั้งแต่วัยเยาว์ สามารถสร้างเอกลักษณ์ให้กับบ้านได้มากกว่าที่คิด อย่างเช่น อิฐมอญสีแดง ที่เรามักเห็นในบ้านชนบทสมัยก่อน แต่ปัจจุบันได้มีการหยิบยกนำอิฐมาตกแต่งตามส่วนต่าง ๆ ของบ้าน สีสัน เส้นสายที่มีเอกลัษณ์ รวมถึงมีความเรียบง่ายคละเคล้ารวมอยู่ ทำให้บ้านแลดูมีเสน่ห์และขณะเดียวกันก็มีความเป็นมิตร ที่แม้ว่าดีไซน์จะสมัยใหม่แค่ไหน ก็ยังเข้าถึงจิตใจได้อย่างง่ายดาย

ออกแบบ : HGAA
ภาพถ่าย : Duc Nguyen
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่

บ้านสไตล์โมเดิร์นที่ใช้ผนังอิฐแดงเกือบทั้งหลัง สร้างอยู่ที่จังหวัดก๋วงนินห์ (Quảng Ninh) ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลกอ่าวหะล็อง ร้อยละ 80 ของพื้นที่เป็นภูเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์ในเรื่องทรัพยากร แต่ในยุคหนึ่งได้เป็นศูนย์กลางของการขุดถ่านหิน ทำให้คุณภาพสิ่งแวดล้อมต่ำลงมาก ปัจจุบันได้ทำการปรับปรุงแก้ไขจนฟื้นฟูคุณภาพสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยขึ้นมาอยู่ในระดับดี

โจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้านหลังนี้ คือ พื้นที่ที่สามารถใช้พักผ่อนในทุก ๆ วัยได้อย่างไม่มีเบื่อ มีความร่มรื่น เย็นสบายอยู่เสมอ อีกทั้งแต่ละตารางเมตรต้องใช้สอยได้อย่างเต็มที่และสอดคล้องกับวิถีชีวิตอย่างแท้จริง

อาคารสองชั้นทรงสี่เหลี่ยมหน้ากว้าง ถูกห้อมล้อมไปด้วยกำแพงอิฐแดงทึบ ทุกครั้งที่ผู้คนสัญจรผ่านไปมาต้องหันไปมองดู เพราะไม่ได้แค่เป็นบ้านที่แลดูแปลกใหม่เท่านั้น ยังเป็นที่ที่กระจายความสดชื่นไปยังรอบ ๆ ด้านด้วย

กำแพงอิฐแดง ไม่เพียงแค่สร้างพื้นที่ส่วนตัวและให้ความรู้สึกปลอดภัยเท่านั้น ยังเป็นปราการชั้นยอดที่กรองฝุ่น กรองเสียงจากภายนอกไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภายในมากเกินไป และทันทีที่เปิดประตูเข้ามาสู่อาณาจักรอิฐแดง สัมผัสแรกคือความเย็นตาและเย็นใจ ด้วยสระน้ำกว้าง ๆ ที่มีหมู่ปลาแหวกว่ายอยู่กับไม้เลื้อยที่ห้อยระโยงระยางจากด้านบนลงมาสู่ด้านล่าง

ใจกลางของบ้านหลังนี้ไม่ใช่มุมนั่งเล่นภายในบ้าน แต่กลับเป็นมุมนั่งเล่นนอกบ้าน ชานระเบียงไม้ใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้นทรงสูง จัดวางเก้าอี้สองตัวสำหรับคู่รักวัยเกษียณ ไว้นั่งมองน้ำ นั่งมองฟ้าอย่างสงบและเพลิดเพลิน

วัสดุหลักภายในบ้านคือคอนกรีตเปลือยและอิฐแดง ซึ่งเป็นวัสดุที่ช่วยให้บ้านมีความเป็นกันเอง เรียบง่ายและเป็นที่คุ้นเคยของคนรุ่นก่อนเป็นอย่างดี ผังของบ้านวางเป็นรูปตัว U ที่มีลานกลางแจ้งตรงกลางทำหน้าที่เชื่อมโยงทุกห้องเข้าไว้ด้วยกัน

ห้องนั่งเล่นออกแบบไว้ค่อนข้างโปร่งกว้าง ด้านหน้าติดผนังกระจกเต็มบานตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน ด้านข้างมีประตูกระจกบานเลื่อนกรอบอลูมิเนียมสีดำ เปิดออกไปยังระเบียงได้ เพดานโชว์เปลือยคอนกรีต เดินสายไฟตามแนวท่ออย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย บ้านจึงไม่ใช่แค่อบอุ่นแต่ยังแฝงความเท่ไว้ด้วย

โต๊ะทานอาหารวางไว้หลังโซฟาในห้องนั่งเล่น เห็นได้ว่าทุกโซนของบ้านแทบไม่มีผนังมากั้นระหว่างกันเลย จากมุมหนึ่งจะมองเห็นอีกมุมหนึ่งอยู่เสมอ ทำให้บ้านโล่งกว้างและเป็นการเสริมความสัมพันธ์ของสมาชิกในครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ช่องเปิดของแสง ตั้งใจออกแบบให้มีหลายขนาดและอยู่ในระดับที่แตกต่างกัน อาทิ ตรงโซฟานั่งเล่นเปิดช่องแสงติดพื้นเป็นช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ส่วนตรงโต๊ะทานอาหารเปิดช่องแสงเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส เป็นต้น

ห้องนอนชั้นล่างไม่เน้นความหวือหวา แต่ให้อารมณ์ที่ผ่อนคลาย สงบเย็น กรุอิฐแดงทั่วทั้งผนัง ปูพื้นด้วยกระเบื้องสีดำสนิท ในห้องมีเพียงของใช้เท่าที่จำเป็น เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง มีห้องน้ำในตัวสะดวกต่อการใช้งานในยามค่ำคืน และด้านข้างยังเว้นพื้นที่ไว้สำหรับจัดสวนกระถาง ให้ความสดชื่นทางสายตาได้ดีเลยทีเดียว

ห้องน้ำในห้องนอน เป็นห้องน้ำที่มีประตูเปิดออกไปข้างนอก โดยเลือกใช้ประตูกระจกใส ให้รับแสงเข้ามาไล่ความอับชื้นและไล่เชื้อโรคได้ตลอดเวลา มีกำแพงอิฐทึบด้านหลังคอยป้องกันสายตาและช่วยลดความเขินอายขณะที่กำลังใช้งาน

ชั้นสองของบ้าน สถาปนิกออกแบบให้มีอารมณ์เหมือนอยู่ติดดิน ด้วยการออกแบบให้มีระเบียงกว้าง ๆ สามารถจัดสวนและทำเป็นแปลงผักได้ ข้อดีของการจัดสวนบนระเบียงจะทำให้พื้นที่ด้านล่างมีความเย็นสบายมากยิ่งขึ้น เพราะสวนและแปลงผักจะช่วยลดอุณหภูมิความร้อนที่ส่องลงมาจากแสงอาทิตย์ตลอดทั้งวัน