บ้านเพงหมาแหงนที่ชวนเย็นสบาย

หลังจากขับรถผ่านถนนแคบที่คดเคี้ยวในเขต Malapuram ใน Kerala ประเทศอินเดีย จะนำทางเข้ามายังบ้านที่ประกอบด้วยเนินลาด และอาคารที่กระจายตัวอยู่เป็นจุด ๆ การเล่นระดับของพื้นที่ การแยกอาคารและการเชื่อมต่อ รวมถึงวิธีการเลือกสรรวัสดุ เปลี่ยนมุมมองให้บ้านธรรมดาดูมีความน่าสนใจ และนอกเหนือไปจากนั้น ในบ้านหลังนี้ออกแบบเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นที่เหมือน ๆ กันกับบ้านเรา แม้ผนังส่วนหนึ่งจะเป็นกระจกแต่ก็ไม่หวั่นกับความร้อน เพราะทุกจุดคิดป้องกันแก้ไขมาอย่างดี เพื่อให้คนในบ้านอยู่ได้แบบเย็น ๆ ครับ

ออกแบบ : Thought Parallels
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านโมเดิร์นทรอปิคอล ใช้พื้นที่สร้างระดับความส่วนตัว

บ้านเขตร้อนที่ทันสมัยแบบ Modern Tropical ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมหลังนี้ ออกแบบของบ้านใช้ขอบเขตของพื้นที่ที่ดีมาก โดยมีการวางแผนการกระจายอาคาร สร้างพื้นที่สำหรับแขกและครอบครัวที่โดดเด่น สิ่งนี้นำไปสู่การก่อร่างสร้างอาคารสองหลัง ประกอบด้วยอาคารสูง 2 ชั้น และบ้านชั้นเดียว ที่ทำหน้าที่แยกออกจากกันอย่างชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันก็มีส่วนที่เชื่อมต่อซึ่งกันและกันผ่านห้องผนังกระจก ทางเดิน และสวน รูปลักษณ์หลังมีลักษณะลาดเอียงแบบเพิงหมาแหงน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อโปรเจ็ค “ THE SKEW HOUSE”

ในเรื่องของความสูงช่วยสร้างสัดส่วนที่ดีในการใช้ชีวิตกึ่งส่วนตัว โดยจัดมุมพักผ่อนของเจ้าของบ้านไว้ในจุดที่เยื้องกับอาคารเล็กและบนชั้น 2 ชั้นสองของบ้านใหญ่ ในบ้านเล็กจะมีเฉลียงพักผ่อนที่หันหน้าไปคนละด้าน ต่างคนจึงต่างมีระดับความเป็นส่วนตัวที่ไม่ทำให้อึดอัด

วัสดุใหม่ๆ กับวัสดุบ้าน ๆ รวมกันอย่างลงตัว

วัสดุหลัก ๆ ของบ้านนี้เป็นคอนกรีตและเหล็กที่เรียบแข็งแบบโมเดิร์น ใส่งานไม้ลดทอนความกระด้างดิบเพิ่มความรู้สึกอบอุ่น ให้มุมมองของสวนผสมผสานความแข็งและอ่อนนุ่มเข้าด้วยกัน นอกจากนั้นยังใช้กระจกเป็นตัวเสริมให้ห้องพักทุกห้องมีแสงสว่างเพียงพอ และมีอากาศถ่ายเทสะดวก มีพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่รอบ ๆ ที่เชื่อมต่อกันเป็นพื้นที่ที่สะดวกสบาย พร้อมทางเข้าเปิดออกสู่ภูมิทัศน์จากทุกห้อง เป็นอีกมิติหนึ่งของการรวมสถาปัตยกรรมเข้ากับธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

การใช้หลังคากระเบื้อง Mangalore แบบดั้งเดิม พร้อมกับฝ้าเพดานบุด้านในด้วยไม้ช่วยในการป้องกันห้องจากความร้อนในฤดูร้อนที่รุนแรง ในจุดต่าง ๆ ของบ้านแทรกแซมด้วยงานพื้นถิ่นผนังอิฐดินเผา และพื้นหินอ่อนโมเสกธรรมชาติ ซึ่งออกแบบมาในรูปลักษณ์ใหม่ ๆ เพิ่มมุมมองที่แปลกไปให้กับบ้าน

หลังคาแบบลาดเอียงหรือที่เราคุ้นกับหลังคาเพิงหมาแหงนนั้น เป็นหนึ่งทรงหลังคาที่เรียบง่ายแต่เหมาะกับภูมิภาคแบบร้อนชื้น เพราะความลาดเอียงทำให้บ้านป้องกันแดดและระบายน้ำฝนได้ดี ระยะจากพื้นถึงเพดานที่มากขึ้นช่วยให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงได้ดี (ต้องทำช่องเปิดสำหรับระบายอากาศรับด้วย) บ้านจึงเย็นสบาย ที่สำคัญยังใช้วัสดุก่อสร้างที่น้อยกว่าหลังคาแบบอื่นๆ ในขณะที่ความสวยงามไม่น้อยกว่า

สเปซขนาดใหญ่ ผนังกว้างรับลมเต็มที่

เมื่อเดินจากสวนหรือห้องกระจกที่เชื่อมเป็นทางเดินระหว่างสองอาคาร จะเข้าสู่บ้านใหญ่สองชั้นที่ต้อนรับด้วยพื้นที่ใช้ชีวิตส่วนตัวท่ามกลางสเปซขนาดใหญ่ ในโซนนี้ประกอบด้วย ห้องรับประทานอาหาร มุมพักผ่อนสังสรรค์ ถัดไปเป็นห้องครัว ห้องเก็บของมุมทำงาน อีกด้านหนึ่งของบ้านเป็นห้องสวดมนต์ ห้องอ่านหนังสือและห้องนอน ในส่วนของผนังชั้นล่างใช้กระจกสลับกับผนังปิดทึบ ใส่ช่องว่างที่นำมาซึ่งแสงธรรมชาติและการระบายอากาศที่ดีภายใน สามารถเพิ่มระดับความเป็นส่วนตัวได้ด้วยการเลื่อนผ้าม่านโปร่ง ๆ มาปิดเอาไว้

ห้องครัวโทนสีขาว-ฟ้าอมเทา ตกแต่งผนังกันเปื้อนด้วยแผ่นกระเบื้องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ สีขาวให้ความรู้สึก Homey เข้ากันได้ดีกับโต๊ะไม้และชั้นเก็บของที่ใช้ไม้สีอ่อนลายธรรมชาติ เพิ่มบรรยากาศที่อบอุ่นน่าลงมืออาหารจานโปรดของทุกคนในครอบครัว

บันไดทางขึ้นสู่ชั้นสองทำจากเหล็ก ไม้ และคอนกรีตเปลือย ราวบันไดเหล็กใช้ CNC ใส่รูปแบบการแกะสลักไม้ลวดลายแบบดั้งเดิมเข้าไป แม้จะเป็นลวดลายเล็ก ๆ ธรรมดาไม่หวือหวาแต่ก็มีผลในการสร้างความเกี่ยวเนื่องกับความคุ้ยเคยเก่า ๆ เพียงแต่เปลี่ยนมาสร้างสรรค์ลงบนวัสดุใหม่ ๆ

คิดมาอย่างดีเรื่องการกรองแสง

โถงทางเดินที่นำไปสู่ห้องนอน เต็มไปด้วยบานประตูหน้าต่างแบบเปิดที่ออกแบบให้มี 2 ชั้น คือ ด้านนอกเป็นบานไม้ระแนงและเหล็กที่ทำหน้าที่เป็นฟาซาดหรือเปลือกบ้านไปในตัว และชั้นที่ 2 เป็นประตูบานเลื่อนกระจก วิธีนี้จะทำให้บ้านมีทางเลือกในการใช้งานที่ยืดหยุ่นกว่าการทำผนังทึบใส่ช่องหน้าต่าง เพราะสามารถเปิดรับแสงรับลมได้ในขณะที่ยังมีความเป็นส่วนตัวอยู่ ในวันที่ไม่ต้องการแสงมากก็ปิดบานระแนงให้ช่วยกรองแสงแล้วเปิดประตูบานกระจกรับลมสบาย ๆ ได้ทั้งวัน

ในห้องนอนจัดให้มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็น เพื่อให้เกิดความรู้สึก โล่ง โปร่ง สบาย ชวนให้พักผ่อน ในห้องนี้นอกจากจะมีบานเลื่อนไม้ระแนงช่วยกั้นกรองแสงแล้ว ยังมีบานกระจกฝ้าโปร่งแสง ช่วยป้องกันแสงจ้าและความร้อนจากทางทิศใต้

บรรยากาศของบ้านในช่วงค่ำ เมื่อเปิดไฟฟ้าส่องสว่างรอบ ๆ บ้านจะเห็นความพิเศษของอาคารและสวนที่เปล่งประกายคนละอารมณ์กับบบ้านช่วงกลางวัน ไฟในหลาย ๆ จุดไม่ได้ทำหน้าที่ให้แสงสว่างโดยตรง แต่ใช้เน้นให้เกิดความน่าสนใจสร้างเอฟเฟคที่ชวนมอง เช่น ไฟติดผนัง ไฟ Uplight และ Downlight ตามต้นไม้ในสวน เป็นต้น

เฉลียงขนาดใหญ่ที่มีหลังคาคลุม ถูกเชื่อมต่อกับตัวอาคารผ่านผนังกระจกโปร่งใสที่เบลอขอบเขตภายนอกภายในให้กลายเป็นพื้นที่เดียวกัน เมื่อต้องการออกมานั่งรับลมชมวิวสวนก็เพียงเลื่อนประตูก็พร้อมสูดความสดชื่น ไม่ต้องกังวลเรื่องแสงแดดและฝนเพราะหลังคาที่คลุมออกมาค่อนข้างทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ