Modern tropical ใส่ศิลปะพื้นถิ่นเป็นเอกลักษณ์
ราล์ฟ เออร์สไคน์ (Ralph Erskine) สถาปนิกผู้เป็นเจ้าของรางวัล Royal Gold Medal และ Wolf Prize in Arts กล่าวไว้ว่า “หน้าที่ของสถาปัตยกรรม คือ ต้องช่วยให้สัมพันธ์ภาพของผู้ที่อยู่อาศัยดีขึ้น ไม่ใช่ทำให้แย่ลง” นั่นหมายความว่า บ้านจะต้องเป็นตัวกลางช่วยเชื่อมต่อทั้งในเรื่องพื้นที่และสายใยของคนในครอบครัว ให้สามารถเข้าถึงกันได้ง่าย ไม่ผลักให้แต่ละคนแยกออกไปใช้ชีวิตในมุมส่วนตัวจนลืมว่าอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ดังนั้นบ้านจึงควรมีความรู้สึกว่าทุกคนมีส่วนร่วม และมีพื้นที่ใช้ชีวิตทำกิจกรรมที่ซ้อนทับกันอยู่ เพื่อให้ยังคงรู้สึกถึงความอบอุ่นไม่ว่าบ้านจะกว้างหรือแคบ ตัวอย่างบ้านหลังนี้ในอินโดนีเซีย ที่เจ้าของเป็นครอบครัวเล็ก ๆ สมาชิก 4 คน แต่ก็สามารถใช้ทุกพื้นที่ร่วมกันได้อย่างลงตัว
ออกแบบ : Wahana Architects
เรียบเรียง : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพใด ๆ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่
บ้านสไตล์รีสอร์ท ผสมโมเดิร์นเข้ากับพื้นถิ่น
Batik house Dempo เป็นโปรเจ็คบ้านที่สร้างอยู่ใน South Jakarta, Indonesia เจ้าของเป็นคู่สามีภรรยาและลูกสองคน พื้นเพเดิมทั้งคู่มีเชื้อสายชวา และมีความสนใจเป็นอย่างมากในด้านศิลปะวัฒนธรรมและของเก่า จึงต้องการให้บ้านมีทั้งความโมเดิร์นในแง่ของการดีไซน์และจัดการสเปซ แต่รายละเอียดห่อหุ้มไปด้วยการตกแต่งผสมผสานศิลปะวัฒนธรรมที่แสดงให้เห็นรากเหง้าเดิม อันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ไหน
สถาปนิกศึกษาโจทย์มาอย่างดี ก่อนที่จะประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันของพื้นที่ที่มีความหลากหลายในแต่ละส่วนของบ้าน ที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับธรรมชาติและบ้านกับคน ด้วยความเชื่อว่าสถาปัตยกรรมไม่ได้เป็นเพียงรูปแบบพื้นที่ของที่อยู่อาศัย แต่มีผลต่อทุกส่วนของชีวิต ด้วยการสร้างอาคารรูปทรงสี่เหลี่ยม ใส่ช่องเปิดขนาดใหญ่และกระจกเพื่อผสมผสานตัวบ้านเข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ภายนอกใช้วัสดุตกแต่งเป็น GRC (Glass Fiber Reinforced Cement: วัสดุผสมคอนกรีตเสริมใยแก้ว) นำมาทำเป็นลวดลายดั้งเดิมของรูปแบบบาติก ซึ่งเป็นของวัฒนธรรมของเกาะชวา
ผนังบ้านที่ถูกเบรคความทันสมัยของอาคาร ด้วยแผ่นคอนกรีต GRC ลายโบราณแบบบาติก คำว่า บาติก Batik หรือปาเต๊ะ เดิมเป็นคำในภาษาชวาที่ใช้เรียกผ้าที่มีลวดลายเป็นจุด คำว่า “ ติก ” มีความหมายว่า เล็กน้อย หรือจุดเล็กๆ ดังนั้นคำว่า บาติกจึงมีความหมายว่าเป็นผ้าที่มีลวดลายเป็นจุดๆ มีส่วนที่ติดสีและส่วนที่ไม่ต้องการให้ติดสี จนเป็นลายตามที่ต้องการ ผนังบ้านหลังนี้จึงเหมือนมีลวดลายของดอกไม้ที่บรรจงวาดลงบนผืนผ้าขนาดใหญ่
ผนังกระจก ช่องแสงสกายไลท์ ทำให้บ้านโปร่งสว่าง
ชั้นล่างของบ้านโล่ง โปร่งเบา ด้วยการใส่ผนังกระจกที่เปิดออกได้กว้าง ต่อเชื่อมกับสระว่ายน้ำที่กระจายไอน้ำแสนสดชื่นเข้าสู่ภายใน ชวนให้สมาชิกในบ้านลงมานั่งเล่นนอนเล่นทำกิจกรรมด้วยกัน เส้นสายที่ไหลลื่นต่อเนื่องเข้ามาภายในอาคารเกิดเป็นสเปซภายในและภายนอกที่โล่งสบาย ตอบรับกับบ้านในเขตร้อนชื้นได้เป็นอย่างดี ภายในบ้านติดช่องแสงสกายไลท์บริเวณบันได รับแสงธรรมชาติให้ส่องลอดผ่านหลังคากระจกลงมา ทำให้บ้านสว่างและมีชีวิตชีวาในขณะที่สามารถประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าส่องสว่างได้ในช่วงกลางวัน
ภายในบ้านหลาย ๆ ส่วนเปิดออกทำให้การเข้าถึงจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่งง่ายขึ้น และใช้ตัวช่วยอย่างกระจกเป็นตัวกั้นแบ่งพื้นที่ จึงทำให้เกิดความสมูทของโครงสร้างบ้านที่ไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของบ้านก็ไม่รู้สึกว่าถูกตัดขาดหรือแยกออกไปอย่างสิ้นเชิง
บานเฟี้ยม ทำหน้าที่ช่องลมและฟาซาด
ช่องลมคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ในบ้านเขตร้อน สถาปนิกเลือกใส่หน้าต่างบานเกล็ดไม้สักเรียงเต็มพื้นที่ผนัง เพื่อให้ระบายอากาศร้อนได้ดี หน้าต่างนี้ยังทำหน้าที่เป็นฟาซาดหรือเป็นเปลือกอาคาร ช่วยกั้นกรองแสงและเติมความเป็นส่วนตัวให้บ้าน ในขณะที่ยังเห็นความเคลื่อนไหวภายนอกได้
สถาปนิกผสมผสานสีเทาของปูนเปลือย ไม้สักที่ปูในส่วนพื้นและเพดาน และผนังกระจกใส จัดวางจังหวะความขัดแย้งของความทึบ ความโปร่ง ความแข็งกระด้างและความอบอุ่นเอาไว้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ใส่ของประดับตกแต่งที่เป็นสีสันสด ๆ อย่างเช่น หมอนอิง ภาพวาด ผ้าปูโต๊ะ และที่ลืมไม่ได้คือ ชิ้นงานศิลปะ ของสะสม สไตล์พื้นเมืองที่ชื่นชอบ บรรยากาศภายในบ้านจึงเต็มไปด้วยความเป็นเอเชียที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางลไฟืสไตล์แบบโมเดิร์นในแบบที่เจ้าของบ้านชอบ
ชั้นดาดฟ้าของบ้านดูโมเดิร์นด้วยหลังคาโปร่งใสและแสงไฟที่โรแมนติก เป็นอีกหนึ่งจุดที่คนในครอบครัวมักจะขึ้นมาใช้ชีวิตชิล ๆ เก็บบรรยากาศสวย ๆ ชมท้องฟ้า วิวมุมสูงของเมือง จึงไม่ทำให้รู้สึกว่าบ้านมีความเป็นพื้นเมืองมากเกินไปจนดูล้าสมัย http://www.tb-credit.ru/kredit.html
