เมนู

6 สาเหตุสำคัญ ทำให้แอร์เย็นช้า หรือ..ไม่เย็นอีกเลย

แอร์เย็นช้า หรือไม่เย็นเกิดจากอะไร

แม้กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศว่า ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่หากใครสังเกตความรู้สึกกันให้ดี ๆ บ่อยครั้งกลับพบว่า ช่วงเข้าสู่หน้าฝนจะรู้สึกร้อนอบอ้าว ไม่สบายตัวกว่าฤดูกาลอื่น ๆ นั่นเป็นเพราะช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาล สภาพอากาศจะแปรปรวน ส่งผลให้อากาศมีความร้อนอบอ้าวกว่าฤดูกาลอื่น ๆ และหากเครื่องปรับอากาศที่บ้านทำงานติดขัดในช่วงนี้ ย่อมส่งผลให้การอยู่อาศัยในบ้านรู้สึกหงุดหงิดใจ อยากจะสั่งรื้อซื้อแอร์มาเปลี่ยนใหม่ในทันที

อย่าเพิ่งใจร้อน ด่วนตัดสินใจไปครับ เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” พาไปสำรวจสาเหตุของแอร์เย็นช้า หรือไม่เย็นเลย เพื่อให้ผู้อ่านได้ลองตรวจเช็ค แก้ไขปัญหากันเบื้องต้น แต่หากใครกำลังจะซื้อแอร์ใหม่อยู่ด้วย ท้ายเนื้อหามีแอร์อึดทน ประหยัดค่าไฟมาฝากด้วยครับ

สนับสนุนโดย :  Mitsuheavythai
เนื้อหาบ้านไอเดีย

ติดแอร์ในห้องกระจก

ขนาด BTU ไม่สัมพันธ์กับขนาดห้อง

ขนาดของ BTU คือ ปริมาณความสามารถในการถ่ายเทความร้อนออกจากห้องและทำความเย็นภายในเวลา 1 ชั่วโมง ยิ่งตัวเลข BTU สูง จึงยิ่งสร้างความเย็นได้ดี แต่การเลือกขนาด BTU ต้องดูความเหมาะสมประกอบด้วย ยกตัวอย่างในห้องที่มีขนาดกว้างแต่ติดตั้งแอร์ BTU น้อย เครื่องปรับอากาศจะทำงานหนักและแผ่กระจายไอเย็นไม่ทั่วถึง ก่อนเลือกซื้อแอร์จึงควรคำนวณ BTU ของเครื่องปรับอากาศให้พอดีกับขนาดของพื้นที่ใช้งานก่อนเสมอ (ตัวอย่างการคำนวณ​ BTU)

หากตรวจเช็คแล้วว่า BTU แอร์มีน้อยเกินกว่าพื้นที่ใช้สอยจะรองรับได้ สามารถแก้ขัดปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยการติดตั้งพัดลมเสริม เพื่อให้พัดลมเป็นส่วนช่วยกระจายความเย็นได้ไวขึ้น แต่หากต้องการแก้ปัญหาในระยะยาว อาจเลือกวิธีติดตั้งแอร์เสริมอีกตัว หรือหากแอร์เดิมเก่า เสื่อมสภาพแล้วเลือกซื้อแอร์ใหม่ที่มีขนาด BTU สอดคล้องกับพื้นที่ครับ

ช่างติดตั้งแอร์ไม่ได้มาตรฐาน

เคยไหม ซื้อแอร์ใหม่มาติดตั้ง วันแรก ๆ ก็เย็นไวดี แต่ผ่านไปเพียงสัปดาห์เดียว แอร์ค่อย ๆ ลดประสิทธิภาพลงจนกระทั่งไม่เหลือความเย็นอีกเลย หากแอร์จะพังไวขนาดนี้ ให้สันนิฐานได้เลยว่า อาจเกิดจากกระบวนการติดตั้งที่ผิดวิธี ปัญหานี้เคยเจอกับผู้เขียนโดยตรง ตอนแรกเข้าใจผิดคิดว่าเครื่องปรับอากาศมีปัญหา จึงติดต่อเรียกช่างจากแบรนด์ที่ติดตั้งให้มาแก้ไขถึง 2 รอบ แต่ไม่นานอาการก็กลับมาเป็นเช่นเดิม

ท้ายที่สุดจึงลองเปลี่ยนช่างจากที่อื่นให้มาตรวจเช็ค ช่างแจ้งว่าท่อน้ำยาแอร์รั่ว เติมยังไงก็รั่วอีก จึงทำการแก้ไขปัญหารั่วให้หายขาดจากนั้นเติมน้ำยาแอร์ไปใหม่ ผ่านมา 2 ปีแล้ว ยังใช้งานได้ตามปกติ แสดงให้เห็นชัดว่า บ่อยครั้งปัญหาที่พบอาจไม่ได้เกิดจากเครื่องปรับอากาศเสมอไป แต่อาจเกิดจากช่างแอร์ก็เป็นได้ครับ

ล้างแอร์

ฝุ่นสะสมมาก ต้องล้างแอร์

การล้างทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะทุกครั้งที่เครื่องปรับอากาศทำงานอาจดูดเอาไรฝุ่น เชื้อโรคเกาะติดภายในตัวเครื่องและคอมเพรสเซอร์ หลายคนใช้งานเป็นปีโดยไม่เคยล้างแอร์เลย ทำให้แอร์มีฝุ่นและสิ่งสกปรกสะสม ส่งผลให้ระบบทำความเย็นของแอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แนะนำว่าควรจะต้องให้ช่างเข้าตรวจสอบและทำการล้างแอร์ทั้งระบบทุกๆ หกเดือน หรือปีละสองครั้ง แต่หากบ้านไหนเปิดใช้งานแอร์บ่อยทุกวันหรืออยู่ในโซนที่มีฝุ่นสะสมเยอะ ควรล้างแอร์ทั้งระบบทุก ๆ 4 เดือนครั้ง ก็จะช่วยให้แอร์กลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยให้การกระจายความเย็นเป็นไปอย่างคล่องตัว หลังล้างแอร์เสร็จใหม่ ๆ รับรองได้เลยว่า แอร์เย็นไวขึ้นทันตาเห็นครับ

ปรับฟังก์ชันแอร์ผิดโหมด

หลายครั้งที่พบว่าสาเหตุที่แอร์ไม่เย็นมาจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คาดไม่ถึง เช่น การปรับโหมดฟังก์ชันการใช้งานบนรีโมทผิดโดยที่ไม่รู้ตัว จนทำให้แอร์ไม่เย็นหรือเย็นมากเกินปกติ บางคนอาจเผลอปรับรีโมทเป็นฟังก์ชันพัดลม (FAN) ซึ่งเป็นโหมดที่มีเพียงลมออกมาเท่านั้น หรืออาจกำลังเปิดใช้งานโหมดอัตโนมัติ (Auto) อยู่ ซึ่งเป็นการสลับการทำงานระหว่าง Cool Mode (ทำความเย็น) และ Dry Mode (ลดความชื้น) สลับกันไป ทำให้แอร์ไม่เย็นฉ่ำเท่าที่ควร หากแอร์ไม่เย็นให้สังเกตที่รีโมทแอร์ก่อนว่าตั้งรีโมทแอร์ผิดโหมดหรือไม่ หากใช่เพียงปรับเป็น Cool Mode แอร์ก็จะเย็นสบายเช่นเดิม หรือลองศึกษาคู่มือให้ดีก่อนใช้งาน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดียิ่งขึ้นครับ

How-to-Choose-the-Right-Air-Conditioner-02

อยากเย็นต่อเนื่อง ต้องแอร์ระบบ Inverter

เมื่อเอ่ยถึงแอร์ระบบ inverter เรามักจะจดจำกันในมุมของการ “ประหยัดค่าไฟฟ้ากว่าแอร์” แต่ความจริงแล้ว ด้วยกลไกการทำงานของแอร์ Inverter ยังมีคุณสมบัติด้านการทำความเย็นต่อเนื่องได้ดีกว่าแอร์ทั่วไป จึงช่วยรักษาอุณหภูมิภายในห้องให้มีความสม่ำเสมอ ไม่รู้สึกร้อนหรือหนาวเกินไป แตกต่างจากแอร์ทั่วไปที่จะตัดการทำงานเป็นครั้ง ๆ เช่น หากผู้ใช้ตั้งอุณหภูมิแอร์ไว้ 25 องศา แอร์จะทำงานเผื่อไว้ล่วงหน้าไปถึง 22-23 องศา จากนั้นจะปิดการทำงานลง จนกว่าภายในห้องอุณหภูมิจะเกิน 25 องศา จึงกลับมาเริ่มทำงานใหม่

ส่วนแอร์ระบบ Inverter จะไม่ตัดการทำงาน แต่จะใช้วิธีทำงานเบาลงเมื่อถึงอุณหภูมิที่กำหนด และกลับมาทำงานปกติเมื่ออุณหภูมิเริ่มลดลง ทำให้อุณหภูมิความเย็นของแอร์ระบบ Inverter มีความต่อเนื่อง ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป และยังช่วยลดเสียงรบกวนได้ดีอีกด้วยครับ แต่แอร์ระบบ Inverter ก็ไม่เหมาะกับการใช้งานในห้องที่มีอุณหภูมิแกว่ง เช่น ห้องที่มีคนเข้าออกบ่อย ๆ เพราะจะทำให้แอร์ Inverter ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้นิ่งได้ ดังนั้นก่อนจะเลือกแอร์ไม่ว่าจะเป็น Inverter หรือ Non-Inverter อย่าลืมสำรวจลักษณะการใช้งานของห้องกันก่อนครับ

ตำแหน่งแอร์และคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่เหมาะสม

ตำแหน่งการติดตั้งแอร์มีส่วนสำคัญในเรื่องความเย็น หากติดตั้งบนผนังด้านที่กระทบแดดทั้งวันมีความร้อนสูง, อยู่ไกลจากพื้นที่ใช้งานมากเกินไป หรือจัดวางทิศทางลมไม่เหมาะสมย่อมส่งผลทำให้ประสิทธิภาพในการทำความเย็นในห้องลดลงได้เช่นกันครับ

ส่วนตำแหน่งคอมเพรสเซอร์แอร์ เป็นจุดที่หลาย ๆ บ้านมักมองข้ามเพราะติดตั้งไว้ภายนอก หากคอมเพรสเซอร์กับแอร์ มีระยะห่างมากเกินไป จะต้องเดินท่อน้ำยาแอร์ยาวขึ้น จึงส่งผลให้แอร์ทำงานช้ากว่าปกติได้ โดยมาตรฐานทั่วไปจะติดตั้งในระยะไม่เกิน 10-15 เมตรในแนวนอน และไม่เกิน 5 เมตรในแนวตั้ง หรือตามข้อมูลในคู่มือเครื่องปรับอากาศรุ่นนั้น ๆ กำหนด กรณีจำเป็นต้องเดินท่อแอร์ยาวกว่าปกติ แนะนำให้ปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะติดตั้งให้ครับ

ตำแหน่ง ติดตั้งแอร์


Mitsubishi Heavy Duty แอร์เย็นฉ่ำ ประหยัดไฟ

จากบทสรุปทั้ง 6 ข้อทำให้เห็นว่า คุณสมบัติของแอร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แอร์เย็นและประหยัดไฟได้อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับเครื่องปรับอากาศที่สร้างความเย็นในบ้านรวดเร็วทันใจ การทำงานทนทาน อุณหภูมิไม่เหวี่ยง จ่ายครั้งเดียวทนเกินคุ้ม ขอแนะนำ Mitsubishi Heavy Duty รุ่น ZSXS (FUYU Series) และ YVS & YXS (AKI & YUKI Series) ทั้งสามรุ่นเป็น Inverter แท้ทั้งระบบ ช่วยประหยัดไฟได้มากกว่า ด้วย 4 อุปกรณ์หลักในตัวเครื่อง ได้แก่

Mitsubishi Heavy Duty

  1. แผงวงจรอัจฉริยะ PAM(Pulse Amplitude Modulation) ทำหน้าที่ควบคุมความเร็วรอบของคอมเพรสเซอร์และมอเตอร์ โดยการปรับเปลี่ยนความถี่ในการทำงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้พลังงาน
  2. คอมเพรสเซอร์กระแสตรง DC (DC: Direct Current)สามารถปรับเปลี่ยนความเร็วรอบในการทำงานให้สัมพันธ์กับอุณหภูมิภายในห้อง ช่วยให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
  3. วาล์วอิเล็กทรอนิกส์ (EEV) ควบคุมอัตราการไหลของสารทำความเย็นเพื่อให้วงจรสารทำความเย็นอยู่ในสภาวะที่เหมาะสมที่สุด
  4. มอเตอร์กระแสตรง(DC Motor) มีความแม่นยำในการควบคุมความเร็วรอบ เปลี่ยนแปลงความเร็วรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ยังมีการออกแบบช่องลมโดยใช้เทคโนโลยีเครื่องบินเจ็ท (Jet flow) ทำให้สามารถส่งลมเย็นได้ไกลสูงสุดถึง 17 เมตร มี Hi Power โหมดพลังสูง เร่งความเย็นให้ห้องเย็นตามที่กำหนดภายในเวลา 15 นาที และฟังก์ชัน 3D Auto กระจายลมอัตโนมัติในแนวตั้ง 6 รูปแบบ แนวนอน 8 รูปแบบ อุณหภูมิทั่วทั้งห้องเย็นจึงเย็นสม่ำเสมอเท่า ๆ กัน

Mitsubishi Heavy Duty-ZSXS

ส่วนในเรื่องคุณภาพอากาศที่ปล่อยออกมานั้น รุ่น  ZSXS (FUYU Series) มีความพิเศษตรงที่มีฟังก์ชั่นที่ช่วยให้ประหยัดไฟได้มากยิ่งขึ้น คือ Motion Sensor หรือเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนของคนภายในห้อง ซึ่งจะปรับระดับอุณหภูมิ ระดับพัดลมและโหมดการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในห้องนั้นๆ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งค่าให้เครื่องเข้าสู่ระบบ Stand by เมื่อไม่มีคนอยู่ก็ได้ ซึ่งเครื่องจะทำงานอีกครั้งเมื่อมีคนเดินกลับเข้ามาในห้อง และยังสามารถตั้งค่าให้ปิดการทำงานอัตโนมัติไปเลยเมื่อไม่มีคนอยู่ภายในห้องในระยะเวลาที่กำหนดก็ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งตัวช่วยเหล่านี้จะช่วยเสริมความประหยัดไฟให้มีประสิทธิภาพครับ

นอกจากเรื่องความประหยัดไฟแล้ว เรื่องสุขภาพก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญและไม่ควรมองข้าม สำหรับรุ่น Fuyu Series มีแผ่นฟอกอากาศแถมมาให้ถึง 2 ชนิดคือ Nano Air filter ช่วยกรองฝุ่น PM 2.5 และแบคทีเรียได้ มีฟังก์ชัน Self Clean ที่ช่วยไล่ความชื่นในคอยล์เย็น จึงยับยั้งกลิ่นอับและการเจริญเติบโตของเชื้อรา เสริมด้วยระบบ Allergen Operation ที่ช่วยทำลายเชื้อโรคและต่อต้านสารก่อภูมิแพ้อย่างมีประสิทธิภาพ

Mitsubishi Heavy Duty-YXS

สำหรับการฟอกอากาศของรุ่น YVS & YXS (AKI & YUKI Series) โดดเด่นที่การใช้แผ่นกรองดักจับ ซึ่งมีคุณสมบัติกำจัดสารก่อภูมิแพ้ ดูดซับก๊าซอันตราย กรองฝุ่น PM 2.5 ด้วยเช่นเดียวกัน แต่รุ่นนี้ก็มีแผ่นฟอกอากาศต่อต้านสารก่อภูมิแพ้ (Anti Allergy & Activated Carbon Filter) แถมมาให้อีกด้วย และยังมาพร้อมกับระบบ 24 Hour ION ปล่อยไอออนลบให้อากาศสดชื่นอยู่เสมอ และมีฟังก์ชัน Self Clean Operation ทำความสะอาดตัวเองได้ด้วยเช่นกันครับ

และที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นแอร์ Mitsubishi Heavy Duty รุ่นใดก็ตาม ทางแบรนด์รับประกันให้ยาวนานถึง 5 ปีทุกชิ้นส่วนอีกด้วย รับประกันว่าคุ้มค่าคุ้มราคาแน่นอนครับ

รายละเอียดเพิ่มเติม

เว็บไซต์ : Mitsuheavythai.com | แฟนเพจ : fb/MitsubishiHeavyDutyThailand

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด Advertise


โพสต์ล่าสุด