บ้านตัว L วัสดุธรรมชาติ

“บ้านข้าอยู่บนดอย เมฆหมอกลอยเต็มฟ้า อยู่กลางพงพนา อยู่ตามประสาคนดอย” ตอนหนึ่งจากบทเพลงจากศิลปินจรัล มโนเพ็ชร คงพอทำให้เราจินตนาการความสวยงามของบ้านบนดอยได้ชัดเจนนะครับ ในสมัยก่อนการจะเลือกตั้งถิ่นฐานกลางป่าน้อยคนที่จะทำ เพราะสาธารณูปโภคและความสะดวกต่าง ๆ ยังเข้าไม่ถึง ต่างจากสมัยนี้ที่การใช้ชีวิตกว่าเดิม ทำให้มีคนจากเมืองขึ้นไปทำบ้านพักตากอากาศในดงดอยมากขึ้น อย่างบ้านหลังนี้ที่ชื่อ Casa Salvaje เป็นบ้านที่ตั้งอยู่บนภูเขาอันห่างไกลของ Palmichal de Acosta ในคอสตาริกา บริเวณนี้ล้อมรอบด้วยป่า ท้องฟ้า ก้อนเมฆ เจตนาของสถาปนิกสำหรับโครงการนี้คือการวางกรอบธรรมชาติโดยรอบและรวบรวมประโยชน์จากไซต์ทั้งวิวและพลังงานจากธรรมชาติทั้งแสงอาทิตย์และน้ำจากน้ำพุที่ไหลขึ้นบนภูเขาบนที่พักมาใช้แบบ 100%

ออกแบบ : Mazpazz Arquitectura
ภาพถ่าย : Andres Garcia Lachner
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

สถานที่ก่อสร้างมีความท้าทายด้านลอจิสติกส์อย่างมากเนื่องจากสถานที่ห่างไกล ถนนลูกรังแคบและสูงชัน ทำให้รถขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งต้องเลือกใช้วัสดุเท่าที่มีในท้องถิ่นเป็นหลัก ภายในบ้านปูด้วยไม้พื้นเมืองที่เรียกว่า “roble coral” ตั้งแต่พื้นจรดเพดานทั้งหลัง ให้ความรู้สึกอบอุ่นราวกับเดินเข้าไปในอ้อมกอดของไม้

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

จากทางเดินรถจะเห็นว่าสถาปนิกเลือกใช้หิน กรวด เทพื้นเพื่อให้รถเดินทางขึ้นลงง่าย ๆ ส่วนที่ต้องการให้พื้นเชื่อมต่อกับสนามหญ้าก็ใช้บล็อกทางเดินปูให้หญ้าสามารถโตได้ในช่อง ทำให้ดูเป็นธรรมชาติอย่างลื่นไหล วัสดุสำหรับบ้านได้รับการคัดเลือกมาอย่างดีเพื่อให้ทนทานเหมาะกับความหฤโหดของสภาพอากาศแบบป่าฝนเขตร้อน และยังให้กลมกลืนกับภูมิทัศน์ด้วย ส่วนรูปทรงของบ้านเป็นทรงเรขาคณิตเรียงเป็นรูปร่างตัว L ยาวๆ มุมขวาของบ้านเป็นปล่องคอนกรีตที่เต็มไปด้วยไม้เลื้อยสีเขียวคลุม

รูปทรง วัสดุ และฝีมือช่างฝีมือท้องถิ่นทำให้ Casa Salvaje ครอบคลุมเจตนารมณ์และปรัชญาในการออกแบบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการตีความเทคนิคงานสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของบรรพบุรุษ และสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถิ่น ในขณะที่มีฟังก์ชันที่จำเป็นในโลกใหม่แต่ยังสะท้อนวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณดั้งเดิม ผสมรวมออกมาเป็นที่หลบความวุ่นวายที่สมบูรณ์แบบสำหรับเจ้าของ

ทางเข้าบ้านเป็นคอนกรีตหล่อทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งทีมงานเรียกว่า “กระแสวน” เป็นพื้นที่แห่งการต้อนรับ ความสงบ และการไตร่ตรองก่อนเข้าสู่ตัวบ้าน จะออกมานั่งทำสมาธิหรือการรับประทานอาหารค่ำแบบใกล้ชิดธรรมชาติก็ได้เช่นกัน จุดเด่นซึ่งเป็นที่มาของชื่อคือ ช่องเปิดเป็นวงกลมรอบด้านรวมทั้งด้านบนด้วย ทำให้เป็นจุดที่สามารถรับพลังงานของดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ฝน และปรากฏการณ์อื่นๆ พลังงานเหล่านี้จะถูกส่งต่อเข้าไปในบ้าน

เมื่อเงยหน้าขึ้นยังมีช่องเปิดเป็นวงกลมที่มองเห็นทิวทัศน์ของภูเขา ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า ที่นี่ยังถูกใช้เป็นเรือนเพาะชำพืชเฉพาะถิ่น เช่น กล้วยไม้ป่าและกล้วยไม้บนภูเขา ด้านนอกของกล่องคอนกรีตถูกปกคลุมไปด้วยพืชพรรณเขียวขจี ไม่เพียงแต่เป็นความพยายามจะเบลอขอบเขตของภายนอกและภายในเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่ทับซ้อนกันอีกด้วย

ภายในจะแยกส่วนการใช้งานเป็นสองส่วน คือด้านที่เป็นส่วนใช้งานร่วมกันแบบสาธารณะมีความเคลื่อนไหวมาก จะเป็นห้องโถงโล่งห้องเดียวไม่มีผนังกั้นแบ่งประกอบด้วยครัว โต๊ะทานข้าว และมุมนั่งเล่น ซึ่งผนัง พื้น เพดานกรุด้วยไม้ทั้งหมด เมื่อเข้ามาด้านในจะเหมือนกำลังถูกห่อล้อมโอบกอดด้วยไม้ดูอบอุ่น ส่วนอีกด้านหนึ่งของบ้านจะเป็นโซนที่ต้องการความเงียบสงบสำหรับพักผ่อน และทำธุระส่วนตัว อย่างห้องนอนและห้องน้ำ ทำให้การใช้งานแยกสัดส่วนตามรูปแบบการใช้งานไม่ปะปนกัน

ผนังด้านนอกบางส่วนใช้หินที่มีอยู่ในท้องถิ่นสร้าง Texture ที่เป็นธรรมชาติเข้ากันได้อย่างกลมกลืนกับพื้นหิน ส่วนหลังคามุงด้วยไม้ทำมือด้วยไม้สักคอสตาริกา การออกแบบตกแต่งภายในเป็นผลงานของ Ileana Guerrero ซึ่งใช้องค์ประกอบที่ทำด้วยมือ งานหัตถกรรมท้องถิ่น และชิ้นงานที่ผสมผสานกันเป็นภาพสะท้อนความรู้สึกของความเป็นพื้นถิ่น ในขณะที่มีส่วนประกอบของตกแต่งที่ทันสมัยซ่อนอยู่เช่นกัน

ด้านหลังบ้านมีเฉลียงเปิดกว้างเชื่อมต่อออกมาที่สนามหญ้ากว้าง ๆ จากจุดนี้จะเก็บภาพทิวทัศน์ได้แบบ 180 องศา เหมือนได้รับพลังงานบริสุทธิ์จากธรรมชาติได้ตลอดเวลา สมกับความตั้งใจหลักอีกประการหนึ่งของสถาปนิก ที่ต้องการสร้างพื้นที่ที่ผู้อยู่อาศัยจะได้รับประโยชน์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องสภาพแวดล้อม คุณภาพในการใช้ชีวิต รวมถึงการพัฒนาทางอารมณ์และจิตวิญญาณในเชิงสุนทรียะ