ญาทาเลย์ เดอะรีสอร์ท
รีวิวที่พัก ริมหาดปากเมง ล่องทะเล จ.ตรัง
จังหวัดตรัง อาจเรียกได้ว่าเป็นจังหวัดเล็กๆ ที่ยังคงอนุรักษ์ความเป็นอยู่และวิถีชีวิตไว้ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยแหล่งธรรมชาติอุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะทะเลอันดามัน รายล้อมไปด้วยหมู่เกาะต่างๆ ปะการังหลากหลายสีสัน ปลาการ์ตูนแหวกว่ายรอบๆ ตัว หาดทรายขาว น้ำใส หากใครชอบบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติอย่างลงตัว จังหวัดเล็กๆ นี้ จะช่วยเติมฝันในวันพักผ่อนได้อย่างไม่ผิดหวัง สำหรับวันนี้ “บ้านไอเดีย” พาคุณผู้ชมไปพักผ่อนกันที่ ญาทาเลย์ เดอะรีสอร์ท ที่พักบรรยากาศดี ริมชายหาดปากเมง
ติดต่อที่พัก : โทร.075 – 274082
เว็บไซต์ : Yataletheresort.com
แฟนเพจ : FB.Yatale The Resort
ก่อนจะรีวิว Yatale The Resort ให้ชมกัน ขอเล่าเรื่องราวส่วนตัวกันสักนิด เมื่อปลายปีก่อน (2555) แอดมินพาครอบครัวมาเที่ยว จ.ตรัง เพื่อมาดำน้ำดูปะการัง เที่ยวถ้ำมรกรตและหมู่เกาะต่างๆ เช้านั้นเรามากันไวมาก จึงได้โอกาสขับรถผ่าน Yatale The Resort เพียงแว็บแรกที่เห็น รู้สึกในใจว่า อยากจะเข้าพักที่นี่ ช่วงนั้นบ้านไอเดียยังไม่ได้ทำรีวิวที่ใดมาก่อน แอดมินพูดคุยในรถกับครอบครัวไว้ว่า “คอยดูนะจะมาพักรีสอร์ทแห่งนี้ แต่จะมาในแบบที่ทางรีสอร์ทเชิญมาเพื่อรีวิว” บทสนทนานั้นก็ผ่านพ้นไป หลังจากนั้นบ้านไอเดียก็ได้เริ่มทำรีวิวรีสอร์ทกันเรื่อยมา ไปมาหลายสิบแห่งส่วนใหญ่ยังเน้นโซนภาคใต้และภาคกลาง และเมื่อไม่นานมานี้ บ้านไอเดียได้รับการติดต่อจาก Yatale The Resort สิ่งแรกที่แอดมินสะดุดคิดขึ้นทันทีเมื่อได้อ่านอีเมล์ นั่นคือสิ่งที่ได้พูดกล่าวไว้นั้น กำลังเป็นจริงขึ้นแล้ว อาจดูเป็นเรื่องราวที่บังเอิญ แต่หากใครเคยอ่านหนังสือ “The Secret” อาจจะเข้าใจ หลังจากเปิดอ่านอีเมล์ฉบับนั้น แอดมินไม่รีรอที่จะยืนยันตอบรับการรีวิวโดยทันที ต้องขอขอบพระคุณ คุณ Thitiwat Chirayutwibul แฟนเพจบ้านไอเดีย ที่ได้แนะนำ Yatale The Resort ให้ได้รู้จักกับบ้านไอเดีย
เอาหละครับ เล่าเรื่องกันมานาน อาจจะดูเหมือนเป็นความบังเอิญ แต่โดยส่วนตัวนั้นคิดว่า ความบังเอิญไม่มีจริง ทุกสิ่งล้วนมีเหตุปัจจัย ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมา สำหรับ Yatale The Resort ตั้งอยู่ที่ริมหาดปากเมง ชายหาดอันอุดมสมบูรณ์แวดล้อมไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ แม้แต่ริมหาดเอง ยังคงเต็มไปด้วยสัตว์ทะเลนานาชนิด หากใครได้มีโอกาสมาเยือนที่หาดแห่งนี้ ในช่วงยามเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกดิน จะเห็นชาวบ้านนับร้อย ทั้งวัยเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ คนชรา เดินย่ำเท้าบนทะเล หาหอยกัน เป็นภาพที่น่าประทับใจไม่น้อย ทำให้แอดมินเองรู้สึกตื่นตา ตื่นใจเป็นพิเศษ เนื่องจากที่เคยมาปีก่อนนั้น เพียงแค่ผ่านตอนเช้า เพื่อไปยังท่าเรือปางเมงเท่านั้น แต่เมื่อได้มีเวลามาพัก 3 วัน 2 คืน จึงได้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวบ้าน เห็นถึงความเป็นอยู่ของชุมชน กล้าที่จะบอกกับทุกคนได้ว่า มาเที่ยวที่แห่งนี้ ไม่ผิดหวัง อย่างแน่นอน
ญาทาเลย์ เดอะรีสอร์ท เน้นการออกแบบในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน รีสอร์ทที่เน้นโทนสีขาวทั้งภายในและภายนอก แวดล้อมไปด้วยร่มเงาของต้นไม้สีเขียว ภาพที่ถ่ายมาให้ชมกันจึงมองไม่เห็นดีไซน์ทั้งหลัง แต่แน่นอนว่าสิ่งนี้ย่อมเป็นสิ่งที่ดีต่อผู้มาพัก สามารถนั่งเล่นนอกระเบียง เดินเล่นทั่วทั้งรีสอร์ทได้ตลอดทั้งวัน ไม่ทำให้ร้อนผิวอย่างแน่นอน ทางเดินเข้าในสวน เป็นพื้นปูน ขอบเรียงรายไปด้วยหินน้ำตก ประดับเป็นลายดอกไม้ในบางจุด เส้นทางคดเคี้ยวทำให้ต้องเหลียวตามองตาม เป็นเส้นนำสายตาไปสู่รีสอร์ทแต่ละหลังนั่นเอง
ห้องพักทั้งรีสอร์ท มีทั้งหมดเพียง 8 ห้องเท่านัน้น แบ่งเป็นห้องนอนเตียงเดียว และเตียงคู่ ส่วนภายนอกดีไซน์เหมือนกัน โดยทำเป็นลักษณะของบ้านแฝด ติดกันเป็นคู่ๆ หลังละสองห้อง
ภายในตกแต่งด้วยโทนสีขาวเป็นสีหลัก เฟอร์นิเจอร์ไม้สีโอ๊ค สั่งทำพิเศษทั้งชุด ออกแบบตู้บิลอินท์ไว้สำหรับมุมทีวี เชื่อมต่อกับกระจกแต่งตัว ชั้นวางของติดผนัง และตู้เก็บสัมภาระ มุมนี้หากใครนำ Notebook มาใช้งาน สามารถตั้งวางได้อย่างพอเหมาะ ภายในห้องมีปลั๊กไว้รองรับความสะดวกทั่วทุกมุมของห้อง รวมถึงหัวเตียงทั้งสองด้าน
ไอเดียที่น่าสนใจ อยู่ตรงที่ห้องเก็บเสื้อผ้า เปิดปิดด้วยผ้าม่าน ออกแบบเป็นช่องเล็กๆ เชื่อมต่อถึงกันระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ มีช่องหน้าต่างบานเลื่อนสามารถเปิด ปิด เพื่อให้ผู้เข้าห้องน้ำสามารถเอื้อมหยิบเสื้อผ้า ได้จากด้านในห้องน้ำ ทำให้สะดวกและไม่เลอะเทอะ ในกรณีที่ลืมหยิบผ้าขนหนูเข้าไป
ภายในห้องน้ำ ออกแบบกว้างเป็นพิเศษ แบ่งเป็น 3 โซนด้วยกัน โซนแห้งเป็นส่วนของอ่างล้างหน้าและชักโครก โซนเปียกแบ่งโซนด้วยฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกใส ติดตั้งระบบน้ำอุ่นภายใน ปรับระดับน้ำผ่านก็อกน้ำอัตโนมัติ ด้านข้างสามารถรับแสงจากภายนอกได้ ปิดกั้นด้วยมู่ลี่กันแสง ส่วนโซนที่ 3 เป็นห้องอาบน้ำแบบ Open Air ซึ่งมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ตกแต่งแสงไฟไว้อย่างงดงาม เพิ่มความโรแมนติกใต้แสงจันทร์และการพักผ่อนอย่างสมบูรณ์
สำหรับการท่องเที่ยว หากผู้มาพักไม่มีโปรแกรมท่องเที่ยวใดๆ สามารถเดินเล่นริมชายหาด เล่นน้ำทะเล ซึ่งไม่ต้องออกไปไหนไกล เนื่องจากชายหาดอยู่หน้ารีสอร์ทมีเพียงถนนเทียบชายหาดกั้นผ่านเท่านั้น กิจกรรมที่น่าสนใจซึ่งทางรีสอร์ทเตรียมพร้อมไว้ให้ อาทิเช่น พายเรือแคนู และที่พลาดไม่ได้ ขอแนะนำเป็นพิเศษ ใครมาที่นี่ หลงรักการปั่นจักรยาน ทางรีสอร์ทมีจักรยาน Fuji คุณภาพดีเยี่ยมรองรับไว้ให้ปั่นกันฟรีๆ ซึ่งแอดมินทดสอบปั่นถนนเทียบชายหาดมาแล้ว เป็นอะไรที่สนุกมากๆครับ จากเดิมปกติไม่ได้ปั่นจักรยาน แต่เมื่อมาลองปั่นที่นี่ ถนนซึ่งมีร่มเงาตลอดเส้นทาง รถผ่านไม่เยอะ ทำให้การปั่นเพลิดเพลิน แม้จะในช่วงกลางวัน ก็ยังสามารถปั่นได้สบายๆ หรือยามเย็น น้ำทะเลจะแห้ง สามารถปั่นบนทรายได้เลยครับ ต้องขอบอกว่าติดใจมากๆ ถึงขั้นอยากได้จักรยานเป็นของตนเองขึ้นมาทันที อีกหนึ่งกิจกรรมที่นับได้ว่า หาชมได้ยาก เดินหาหอย ในยามเย็น อย่างที่ได้บอกไปข้างต้น น้ำทะเลจะแห้งสามารถเดินลงไปได้โดยไม่เปียก ชาวบ้านทั้งเด็กเล็ก เด็กโต วัยรุ่น ผู้ใหญ่ คนชรา ต่างเดินกันมาเก็บหอย เป็นอาชีพเสริมที่ไม่มีต้นทุนใดๆ หากผู้มาพักจะลองหาหอยด้วยตนเอง ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ
ภาพนี้เป็นมุมด้านหน้ารีสอร์ท สามารถนั่งชมพระอาทิตย์ตกดินได้ด้านหน้าชายหาด หากท่านใดชอบถ่ายภาพ ก็ไม่ต้องไปไหนไกล ทิวทัศน์หน้ารีสอร์ทก็งดงามแล้วครับ จะเห็นได้ว่ามีเกาะเล็กๆ อยู่ไม่ไกลจากริมชายหาดเลย หากมาช่วงเย็น ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ยังมีกิจกรรมหาหอยร่วมกับชาวบ้าน เดินเล่นบนหาดทราย จะได้เห็นสัตว์น้ำนานาชนิด เนื่องจากช่วงเย็น น้ำจะแห้ง แต่หากเป็นกลางวันน้ำจะเต็มตลิ่ง
เดินเล่นริมหาดกันแล้ว มาพักผ่อนกันต่อกับห้องน้ำ Open Air ภายในห้องพัก ซึ่งจะเชื่อมต่อกับห้องอาบน้ำที่ให้ชมกันก่อนหน้านี้ เมื่อเปิดประตูออกมาก็จะเจอห้องนี้เลยครับ ดื่มด่ำกับบรรยากาศใต้แสงจันทร์ เป็นอะไรที่โรแมนติกสุดๆ และอีกมุมพักผ่อน เป็นส่วนของหน้าห้องพัก ทำเป็นระเบียงหน้าห้อง นั่งเล่นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ทำเป็นระแนงไม้บังแดด และต้นไม้สูงใหญ่ ที่นั่งเป็นเฟอร์นิเจอร์ปูนนั่งได้รอบด้าน จัดวางเบาะนั่งเพื่อความนุ่มสบาย เหมาะกับการนอนอ่านหนังสือเพลินๆ หรือจะปาร์ตี้เล็กๆ ก็เหมาะเช่นกัน
หากเป็นการท่องเที่ยว แนะนำเป็นการเที่ยวหมู่เกาะต่างๆ ซึ่งรีสอร์ทอยู่ห่างกับท่าเรือเพียง 4.4 กิโลเมตรเท่านั้น หรือหากไม่ได้นำรถส่วนตัวมา สามารถนัดกับบริษัททัวร์ให้มารับส่งถึงหน้ารีสอร์ทได้เช่นกัน กิจกรรมทัวร์ที่นิยมกัน เที่ยวถ้ำมรกต ดำน้ำดูปะการังที่เกาะเชือก เกาะม้า เล่นน้ำที่เกาะกระดาน แต่ในวันที่บ้านไอเดียได้ไปกันนี้ เป็นที่น่าเสียดายมาช่วงหน้าฝน ลมค่อนข้างแรง จึงไม่สามารถเข้าถ้ำได้ เนื่องจากคลื่นสูงกว่าปกติ แต่ก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เป็นการดำน้ำดูปะการัง และเล่นน้ำบนเกาะไหง ซึ่งเป็นเกาะที่งดงามมากๆ หาดทรายขาว น้ำใส ดั่งภาพประกอบที่ถ่ายมาให้ชมกันในชุดนี้เลยครับ สำหรับราคาค่าทัวร์ มีค่าใช้จ่ายประมาณท่านละ 700 บาท ใครสนใจทริปเที่ยวดังกล่าว แนะนำให้มาเที่ยวกันในช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปครับ แต่ก่อนจะออกเที่ยวกันอย่าลืมอาหารเช้าสุดอร่อย มาถึงเมืองตรัง ลิ้มรสติ่มซำกันก่อนนะครับ มีอยู่ในเมนูอาหารเช้าของรีสอร์ทเช่นกัน
ไม่เพียงแค่ห้องพักเท่านั้น ญาทาเลย์ เดอะรีสอร์ท ยังมีร้านอาหารไว้รองรับ ผู้มาพักและบุคคลทั่วไป โดยใช้ชื่อร้านว่า เปลยวน การดีไซน์สไตล์เดียวกับรีสอ์ท ทำให้ดูเข้ากันเป็นอย่างดี เน้นพื้นที่เปิดโล่งเพื่อรับลมทะเล สามารถนั่งได้ทั้งภายในและภายนอก แต่สิ่งที่อยากชื่นชมมากกว่าดีไซน์ นั่นคือรสชาติของอาหาร สดอร่อยมากๆ ที่นี่จะเน้นอาหารทะเลเป็นหลัก วัตถุดิบของอาหารทุกมื้อ สามารถวางใจได้ในเรื่องสดใหม่ เนื่องจากคุณมด ผู้จัดการรีสอร์ทลงไปซื้อถึงตลาดด้วยตนเองทุกๆ วัน ในบางครั้งก็รับจากชาวบ้านที่ประกอบอาชีพชาวประมง อร่อยแค่ไหน ต้องไปลองชิมกันนะครับ
สรุปกันก่อนจบรีวิวสักนิด สำหรับการท่องเที่ยว จ.ตรัง ยังมีสถานที่เที่ยวอีกมากมาย ซึ่งไม่สามารถลงภาพได้หมด หาดปากเมงจัดได้ว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.ตรัง ที่แห่งนี้ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศที่แสนสงบ ชิลๆ ริมหาด เป็นการพักผ่อนไปกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ที่นี่ไม่ได้เน้นความบันเทิง ดั่งเช่น ภูเก็ต สมุย พัทยา แต่เน้นมิติของการท่องเที่ยวไปกับธรรมชาติและท้องทะเลอย่างแท้จริง หรือหากใครอยากจะศึกษาวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่นี่ยังคงอนุรักษ์วิถีชีวิตดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี สำหรับญาทาเลย์ เดอะรีสอร์ท จัดได้ว่าเป็นรีสอร์ทที่สวยที่สุดริมหาดปากเมงเลยก็ว่าได้ กับการพักผ่อนที่เป็นส่วนตัว จำนวนห้องพักไม่เยอะรองรับแขกได้อย่างจำกัด แต่ส่งผลดีเพราะจะทำให้การบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในราคาห้องพักวันปกติ เริ่มต้นที่ 2,500 บาท (สอบถามเพิ่มเติมผ่านแฟนเพจ คลิก) จัดได้ว่า คุ้มค่ามากครับ บรรยากาศติดชายหาดแบบนี้ หากไปชายหาด จ.อื่นๆ ราคาแบบนี้คงหาได้ยากอย่างแน่นอน ฝากไว้ใบสุดท้าย กับภาพวงเวียนหอนาฬิกา จ.ตรัง มาเที่ยวกันเยอะๆ นะครับ รับประกันได้ว่า ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
