ต่อเติมบ้านชั้น 2 ครอบอาคารและต้นไม้เดิมอย่างเคารพ
ของเก่าที่โรยราบางครั้งก็เป็นสิ่งที่ถูกลืมไว้ข้างหลังอย่างน่าเสียดาย บ้านเก่าก็เช่นเดียวกัน หากสร้างไว้นานหลายสิบปีพื้นผิวผนังที่ถูกแสงแดดและลมฝนทุก ๆ วัน ๆ ก็ลอกร่อน เป็นเชื้อรา เกิดคราบไม่น่ามอง ก็คงต้องการการปรับปรุงครั้งใหญ่หรือทำใหม่ให้ลืมของเก่าไปเลย แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่เห็นคุณค่าความงามในความไม่สมบูรณ์แบบที่เต็มไปด้วยความทรงจำ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่สร้างขึ้นมาได้ในวันเดียว จึงเลือกปรับปรุงต่อเติมบ้านอย่างเคารพตัวตนเดิม เหมือนบ้านหลังนี้ในประเทศเม็กซิโกที่ยังคงรูปลักษณ์ของความเรียบง่ายในตัวบ้านเก่าที่หลาย ๆ จุดยังคงใช้งานได้เอาไว้ ใส่แรงบันดาลใจให้ผลงานออกมาราวกับร่ายเวทย์มนตร์ ชวนให้เคลิบเคลิ้มไปกับความสงบ เงียบ ใกล้ชิดธรรมชาติ และความกลมกลืนระหว่างเก่าใหม่ได้อย่างน่าประหลาดใจ
ออกแบบ : Jorge Ramirez
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
ต่อเติมสตูดิโอโยคะ ใส่จิตวิญญาณใหม่ในบ้านหลังเดิม
บ้านเดิมมีรูปลักษณ์ตามแบบเม็กซิกันในยุคล่าอาณานิคม ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 แต่ก็ไม่ได้มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์หรือเป็นสถาปัตยกรรมที่ยิ่งใหญ่ ทั้งนี้แม้จะเป็นเพียงบ้านธรรมดาก็เต็มไปด้วยคุณค่า สถาปนิกจึงปรับปรุงและต่อเติมด้วยการรักษาสิ่งที่มีอยู่เดิมเอาไว้ให้มากที่สุด พร้อม ๆ กับการจัดองค์ประกอบและวัสดุแต่ละขั้นตอนการก่อสร้างที่มีการกำหนดไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้สิ่งใหม่เข้ากันได้กับความทรงจำเดิมอย่างเคารพซึ่งกันและกัน
ส่วนขยายที่เพิ่มขึ้นเป็นกล่องสีขาวที่เส้นสายคมชัดวางอยู่ด้านบนอาคารเดิม สร้างเป็นสตูดิโอโยคะที่สามารถเข้าถึงได้ไม่ต้องผ่านในตัวบ้าน โครงสร้างของชั้นนั้นดูคล้ายคลึงกับที่ชาวแอซเท็กสร้างปิรามิดโบราณในเมืองเตโอติฮัวคาน (Teotihuacan) ประเทศเม็กซิโกที่ใช้การสร้างครอบโครงสร้างใหม่เหนืออาคารเก่าที่สร้างไว้ก่อนหน้า
ข้าง ๆ ประตูทางเข้าสถาปนิกทำบันไดวนบิดเป็นเกลียวหน้าบ้านเสริมเข้าไป เพื่อเป็นช่องทางในการขึ้นสู่สตูดิโอโยคะ ทำให้ผู้ที่มาฝึกสามารถขึ้นไปสู่ห้องเรียนอย่างเป็นส่วนตัว และมีสวนเล็ก ๆ ที่มีพืชพื้นเมืองชื่อ ceiba ซึ่งลำต้นสูงมากสามารถมองเห็นเด่นชัดจากด้านนอก การจะตัดทิ้งจึงเป็นเรื่องน่าเสียดาย ทีมงานจึงใช้วิธีเว้นช่องว่างเอาไว้เพื่อให้ต้นไม้เติบโตได้ ชื่อต้นไม้ ceiba ก็เป็นที่มาของชื่อบ้านหลังนี้นั่นเอง
จากประตูหน้าบ้านจะเข้าสู่โถงทางเดิน ที่เรียวยาวทอดตัวผ่านห้องครัวไปสู่ลานกว้างขนาดใหญ่ ที่จะเป็นที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้าในใจกลางบ้าน
อาคารชั้นล่างเต็มไปด้วยริ้วรอยของกาลเวลา ผนังปูนที่ฉาบเอาไว้กระเทาะจนเห็นแนวอิฐด้านใน รอยดำความชื้นจากเชื้อรา รอยร้าวแตกเป็นทางยาวที่ดูไม่สมบูรณ์และโรยรา กลับสร้างเสน่ห์อย่างเหลือล้นให้บ้านนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวน่าสนใจ
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่
บ้านที่มองเห็นสวนจากทุกด้าน
ทางเดินในบ้านที่อยู่รอบคอร์ทกลางบ้าน เกิดขึ้นจากการครอบตัวบ้านสำหรับเป็นฐานเพื่อต่อเติมชั้น 2 ให้ขยับออกมาอีกเล็กน้อย จึงเป็นการเพิ่มพื้นที่ด้านล่างไปในตัว ทีมงานปูพื้นด้วยไม้ทำทางเดินให้สามารถสัญจรได้อย่างลื่นไหล เพิ่มผนังกระจกขนาดใหญ่รอบ ๆ เพื่อแบ่งสัดส่วนการใช้งานภายในภายนอก พร้อม ๆ กับเบลอขอบเขตระหว่างบ้านและกลางแจ้ง การตกแต่งภายในเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์พยายามคุมสีและวัสดุที่เข้ากันได้ดีกับความเป็นธรรมชาติ และอาคารเดิมที่โทนสีน้ำตาลแดง อย่างเช่น โต๊ะจากซีกไม้ โต๊ะไฟเบอร์ขาไม้ เป็นต้น
ที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้าใจกลางบ้านที่มีอยู่เดิมถูกโอบล้อมด้วยอาคาร เว้นพื้นที่ให้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างในได้เติบโตโดยไม่ตัดทิ้งเช่นกัน เนื่องจากทั้งนักออกแบบและเจ้าของบ้านเห็นความสำคัญของการเว้นพื้นที่ให้บ้านได้หายใจ ต้นไม้ให้ร่มเงาและอากาศบริสุทธิ์ เป็นการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
สตูดิโอชั้น 2 จำลองบรรยากาศให้กลมกลืนบ้านเดิม
สตูดิโอโยคะบนชั้น 2 ที่เป็นอาคารโปร่งโล่ง มีช่องว่างบนผนังขนาดใหญ่ที่เปิดช่องว่างขนาดใหญ่ทั้ง 2 ด้านของผนัง ทำให้ได้รับพลังจากธรรมชาติทั้งแสงและลมได้เต็มที่โดยปรุงแต่งให้น้อยที่สุด บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย ตอบโจทย์ปรัชญาการฝึกโยคะที่เน้นการนำความสงบมาสู่ตัวตน การเชื่อมผนึกกันของมนุษย์กับธรรมชาติ
สวนน้ำเล็ก ๆ ที่จัดอยู่ติดกับสตูดิโอที่สร้างขึ้นมาใหม่ โดยพยายามที่จะจำลองความรู้สึกที่เชื่อมต่อกันได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับบ้านเดิมที่อยู่ชั้นล่าง ด้วยการใช้วัสดุอิฐ หิน คอนกรีต ที่ร้อยเรียงความต่อเนื่องได้อย่างกลมกลืน
แปลนบ้าน
