บ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่น

ถ้าพูดถึงวิถีการใช้ชีวิตที่สงบ เรียบง่าย ประเทศแรกที่เรานึกถึงมักจะเป็น “ญี่ปุ่น” ที่เป็นเหมือนปรัชญาการใช้ชีวิต ในครอบครัวที่มีมาชิกหลายคนบ้านก็ยังตกแต่งแบบน้อยแต่มาก เน้นสเปซกว้าง ๆ ให้หายใจสะดวก สำหรับคนโสดยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะอยู่คนเดียวข้าวของที่มีน้อยอยู่แล้วก็น้อยลงได้อีกจนดูโล่งถึงโล่งมาก แต่หากพูดถึงในแง่ของการใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่าตามความจำเป็น ฟังก์ชันที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนการใช้งานไดง่ายในอนาคตก็ทำให้บ้านแบบนี้ยังคงเป็นที่นิยม ไม่เฉพาะแต่ในญี่ปุ่นแต่กระจายไปทั่วโลก

ออกแบบ : unotomoaki
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

สงบงามในอ้อมกอดบ้านไม้สไตล์ญี่ปุ่น

ที่พักที่เงียบสงบหลังนี้ห่างจากทางตะวันออกของนาโกย่า เดินทางโดยรถยนต์ประมาณ 20 นาที เจ้าของบ้านเป็นชายโสดวัยกลางคน ซึ่งมีแผนงบประมาณสำหรับการแต่งงานในอนาคต จึงต้องการบ้านที่พร้อมรองรับครอบครัวเริ่มต้นเล็ก ๆ ทีมงานใช้เวลาประมาณหนึ่งปีในการสร้างบ้านหลังนี้ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เป็นบ้านไม้หลังคาจั่วยกพื้นสูงที่เรียบและโล่งใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

พื้นที่ตรงนี้เป็นทางลาดที่ไม่ชัน มีหน้ากว้าง 8 ม. และความลึก 28 ม. สถาปนิกพยายามออกแบบให้บ้านเรียบง่ายแต่ดูสง่างามประทับใจผู้อยู่อาศัย จึงใช้แรงบันดาลใจมาจาก “ศาลเจ้า” สถาปัตยกรรมญี่ปุ่นที่ดำเนินการปรับเป็นบ้านได้ยากมาก เพราะมีองค์ประกอบทั้งเสาและคานและรายละเอียดที่อ่อนช้อย ท้ายที่สุดทีมงานจึงลดทอนรายละเอียดลงเหลือเป็นเส้นสายหลัก ๆ เท่านั้น ออกมาในรูปแบบบ้านไม้ผนังเรียบชั้นเดียวที่ไม่มีอะไรกินความจำเป็น ข้างใต้มีช่องว่างให้ลมลอดผ่านลดความชื้นข้างใต้ หลังคาจั่วสูงระบายอากาศได้ดีเหมาะกับสภาพอากาศเฉพาะถิ่น

บ้านที่มีแต่ไม้ในทุกอณู

แทบทุกองค์ประกอบของบ้านเป็นงานไม้ เพดาน ผนัง เสา คาน พื้น ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ในครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ทำให้ภาพรวมของบ้านเต็มไปด้วยอารมณ์ของไม้สีธรรมชาติ ในขณะที่ทุกอย่างนำเสนอความเรียบ ง่าย ให้ความรู้สึกสงบ แต่แฝงด้วยความละเอียดละไมของการฝีมือช่างที่ฝากไว้อยู่ในไม้ทุกชิ้นที่ตรง ฉาก เป๊ะไม่มีจุดไหนหลุดให้เห็นความไม่เรียบร้อย

บ้านโล่ง ๆ ที่ไม่มีฟังก์ชันเกินจำเป็น

การจัดพื้นที่ใช้สอยภายในตามลักษณะของบ้านญี่ปุ่นยุคใหม่มักจะจัดแบบ open plan คือ ลดผนังเพื่อให้พื้นที่ใช้สอยโล่ง ๆ ต่อเชื่อมกันทั้งหมด แล้วยกฟังก์ชันใช้งานต่าง ๆ มารวมเข้าด้วยกัน แต่ในบ้านชั้นเดียวพื้นที่น้อย ๆ และต้องวางแผนเผื่อมีสมาชิกเพิ่มจะทำได้ยาก เพราะต้องมีห้องนอนเป็นสัดส่วนให้เป็นพื้นที่ส่วนตัว จึงต้องมีห้องติดตั้งผนังไม้ให้ใช้งานมิดชิดออกเป็น 2 ฝั่งมีโถงทางเดินคั่นตรงกลาง แล้วจัดพื้นที่นั่งเล่นทำกิจกรรมอเนกประสงค์ไว้ด้านในสุดของบ้าน

ผนังกระจกเปิดอิสระให้บ้าน

ผนังบ้านด้านที่ติดกับถนนจะปิดทึบ เพื่อสงวนความเป็นส่วนตัวเอาไว้ให้ออกห่างจากสายตาผู้คนที่ผ่านไปมา ส่วนผนังด้านในสุดกลับเปิดออกกว้างด้วยการใส่กระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน ให้ผู้อยู่อาศัยได้เปิดมุมมองออกไปที่สวนข้างนอกอย่างอิสระ ใช้เวลาระหว่างวันสัมผัสลมและแสงอบอุ่นจากแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ พื้นที่ตรงนี้ไม่แคบความกว้างเท่ากับห้องขนาดใหญ่ จึงสามารถใช้เป็นมุมนั่งเล่นพักผ่อน ต้อนรับแขก หรือปรับเปลี่ยนเป็นห้องเด็กเล่นได้ หากมีสมาชิกตัวน้อยมาเพิ่ม