บ้านสไตล์โมร็อกโกกลางทะเลทราย
ทะเลทราย ใครๆ ได้ยินคำนี้ก็คงรู้สึกแสบผิวขึ้นมาทันที ด้วยความรู้ที่เราได้รับมาตลอดว่าอากาศท่ามกลางทะเลทรายนั้นร้อนทะลุปรอทในตอนกลางวัน แต่น่าแปลกที่ตอนกลางคืนกลับหนาวเย็น ยังไม่นับรวมพายุทะเลทรายที่จะทำให้การใช้ชีวิตยากเข้าไปอีก ถึงจะเป็นอย่างนั้นทะเลทรายก็ยังเป็นเสน่ห์ที่บางคนหลงใหล ไม่เฉพาะแถบตะวันออกกลางเท่านั้น ในสหรัฐอเมริกาที่มีพื้นที่กว้างขวางหลายรัฐมีพื้นที่ทะเลทรายอยู่ด้วย แม้จะร้อนแห้งแล้งแต่ยังมีสาธารณูปโภคสำหรับใช้ชีวิตได้
สถานที่ : Desert Wild
ภาพถ่าย : Swiley Interior Photography
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
นาตาลี ซอนเดอร์สและหลุยส์ ลิเตรนตา เป็นคู่รักที่เดินทางท่องเที่ยวจนเรียกหลายทวีปว่าบ้านเกิด ซอนเดอร์สเติบโตในเมืองโต้คลื่นในออสเตรเลีย ส่วน Litrenta มาจากชิคาโก หลังจากผจญภัยมาแล้วรอบโลกก็ตกหลุมรัก Joshua Tree อุทยานแห่งชาติของอเมริกาในแคลิฟอร์เนียตะวันออกเฉียงใต้ทางตะวันออกของลอสแองเจลิส หลังการมาเยือนครั้งที่สี่จึงตัดสินใจซื้อที่ดิน ลาออกจากงานประจำในซิดนีย์ และย้ายข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อเริ่มต้นบ้านใหม่ โดยออกแบบบ้านชั้นเดียวในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ใช้ tadelakt (ปูนปลาสเตอร์โมร็อกโก) ที่ใช้ในริยาจของ Marrakesh พื้นฉาบปูนที่อบอุ่นในกรีซ และเตาผิงอิฐในนิวเม็กซิโกมาสร้างบรรยากาศโดยเฉพาะ
ชาวตะวันตกค่อนโหยหาแสงเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพอากาศหลายเมืองจะหนาวเย็น แม้ในช่วงอากาศร้อนจัดก็นิยมใช้ชีวิตกลางแจ้ง แต่การจัดการพื้นที่กลางแจ้งก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะที่นี่คือทะเลทรายที่ร้อนไม่ธรรมดา เมื่อได้พิจารณาแล้วจึงเน้นจำเป็นในการให้ร่มเงาในบริเวณที่ต้องการใช้งานให้มีลักษณะแบบกึ่งกลางแจ้ง อย่างเช่น เฉลียงหน้าบ้านขนาดใหญ่ที่จัดฟังก์ชั่นนั่งเล่นเอาไว้ ได้รับการออกแบบให้มีหลังคายื่นออกมาคลุมกว้าง ๆ มีชิงช้าแขวนเพื่อเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่มองเห็นเมือง Joshua Tree และเสริมที่นั่งปูนปลาสเตอร์ในตัวสำหรับนั่งอาหารเช้าและกาแฟกลางแจ้ง ส่วนเพดานระเบียงที่ดึงดูดสายตาจะทำจากโครงไม้ซากัวโรหลายร้อยชิ้นทำด้วยมือในรูปแบบบั้งเหมือนก้างปลา
ซอนเดอร์สทำงานร่วมกับ Mon Palmer นักออกแบบภูมิทัศน์ชาวออสเตรเลีย เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดวางสวนหลังบ้าน และเพื่อออกแบบแผนผังภูมิทัศน์โดยรอบให้ใช้งานได้จริง ซึ่งสรุปออกมาเป็นพื้นที่รับประทานอาหารในสนามหลังบ้านมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับส่วนอื่นๆ ของบ้านคือ เป็นที่นั่งบิลท์ในตัววางหมอนผ้าสไตล์โมร็อกโก ทั้งคู่ทำโต๊ะอาหารจากไม้เหลือใช้เอาไว้ด้วยดูอบอุ่นแบบบ้านๆ อีกด้านหนึ่งของสวนหลังบ้านเป็นอีกพื้นที่หนึ่งสำหรับนั่งเล่น ซึ่งจัดวางอย่างมีกลยุทธ์โดยคำนึงถึงแสงแดดเป็นหลัก คือ “มีร่มเงาหลังเวลา 11.00 น. ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการนอนริมสระน้ำโดยไม่ต้องตากแดด” ซอนเดอร์สกล่าว
เมื่อเข้ามาด้านในบ้านจะพบกับความสว่างของผนังกระจกและพื้นผิวผนังขาวสะอาดตา ความอบอุ่นของการตกแต่งที่ใช้ไม้ดิบ ๆ และงานหัตถกรรมจากวัสดุธรรมชาติเป็นส่วนประกอบที่ทำให้บ้านผ่อนคลายได้กลิ่นไอชนบท ฟังก์ชันภายในมีห้องครัว พื้นที่รับประทานอาหารและมุมนั่งเล่นพักผ่อนผิงไฟของบ้าน จุดที่เจ้าของบ้านชื่นชอบคือหน้าต่างและประตูบานเลื่อนที่สามารถเปิดกว้างออกไปยังสนามหลังบ้าน ซึ่งล้อมรอบสระว่ายน้ำ อ่างน้ำร้อน และภูเขาในทะเลทรายอยู่
ห้องครัวตกแต่งอย่างสวยงาจากเคาน์เตอร์ปูนปลาสเตอร์ บานตู้ไม้ทำสีเก่าดูคลาสสิคได้บรรยากาศบ้านที่หอมอาหารฝีมือคุณแม่ แต่ในมุมเล็ก ๆ นี้ก็เติมความหรูคู่ความเรียบง่ายกับแสงพื้นผิว backsplash ที่เป็นแผ่นทองเหลืองจาก Clé Tile เข้าชุดกับมือจับเตาอบและอุปกรณ์ฮาร์แวร์อื่น ๆ ที่เป็นทองเหลืองและทั่วทั้งบ้าน
เจ้าของบ้านทราบดีว่าต้องการสิ่งใดเป็นสัญลักษณ์ของสถาปัตยกรรม สร้างจุดโฟกัสสำหรับพื้นที่อยู่อาศัย อย่างในห้องนั่งเล่นจะมีเตาผิงอะโดบีที่สร้างขึ้นเอง ซึ่งทั้งคู่ได้รับแรงบันดาลใจจากบ้าน Pueblo Revival ในนิวเม็กซิโก แล้วต่อเติมที่นั่งเพิ่มเติมขนาบสองด้านให้ใกล้ชิดความอุ่น ใต้ที่นั่งยังใช้เก็บของได้ด้วย พื้นบ้านปูพรมโมร็อกโกลายสวยมีเท็กซ์เจอร์ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับห้อง มีพื้นที่ผนังโล่งๆ เหนือเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่กำหนดไว้สำหรับฉายภาพยนตร์ขณะเพลิดเพลินกับการผิงไฟ เป็นกุศโลบายที่ไม่ต้องการทำให้พื้นที่รกไปด้วยโทรทัศน์ ดังนั้นจึงเลือกใช้เครื่องฉายภาพเหนือศีรษะแทน
Desert Wild มีสองห้องนอน ห้องนอนใหญ่มีห้องน้ำในตัวพร้อมฝักบัวอาบน้ำแบบวอล์กอินและทาเดลลักต์ (ปูนปลาสเตอร์โมร็อกโก) นักออกแบบพยายามสร้างการเชื่อมต่อกับบริบทแวดล้อมและธรรมชาติ อาทิ การเปิดมุมมองผ่านประตูบานสไลด์ขนาดใหญ่ข้างเตียง การตกแต่งที่นอนโดยใช้ผ้าปูที่นอนสีเทอร์ราคอตตา พื้นปูด้วยกระเบื้องดินเผาโมร็อกโก บนผนังมีต้นไม้แขวนอยู่ในกระเช้าใส่ธรรมชาติลงไปในห้อง เพิ่มรายละเอียดซุ้มโค้งปูนปลาสเตอร์เหนือเตียงแบบมินิมอลลิสต์ที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนหัวเตียงด้วย
ในอีกห้องนอนมีทางเข้าตู้เสื้อผ้าโค้งเป็นการแสดงความเคารพต่อโมร็อกโกและเป็นอีกหนึ่งจุดที่ดึงดูดความสนใจ ภายในตู้เสื้อผ้าทาสีเขียวเพื่อให้เข้ากับชุดเครื่องนอน และประตูม่านช่วยให้ห้องดูนุ่มนวลและสมดุล
ห้องน้ำหลักอยู่ตรงข้ามห้องโถงถัดจากห้องนอนที่สอง ภายในมีผนังและเคาน์เตอร์ล้างมือทำจากปูนปลาสเตอร์ทาเดลลักต์ วางอ่างล้างหน้าแบบตุรกีอายุ 100 ปีเอาไว้ด้วย อุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องน้ำ อาทิ ที่ล็อคประตู ตะขอ ก๊อกน้ำ และชั้นวางผ้าเช็ดตัวในห้อง ทำจากทองเหลือง ซึ่งเข้ากันได้ดีกับกระจกทองเหลืองและเชิงเทียนที่ให้ความรู้สึกคลาสสิคปนหรู ติดอ่างอาบน้ำมีหน้าต่างบานใหญ่มองเข้าไปในสวนกระบองเพชรที่มีฉากไม้ให้ความเป็นส่วนตัว แต่ส่วนที่ทั้งคู่ชอบที่สุดกลับไม่ใช่ทุกสิ่งที่กล่าวมา เพราะสิ่งที่ชื่นชอบคือผนังโค้งที่สร้างขึ้นเพื่อแยกอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ออกจากส่วนอื่นๆ ของห้องน้ำ เมื่อก้าวผ่านซุ้มประตู เปิดม่านออกก็จะพบกับพื้นที่ผ่อนคลายส่วนตัวพร้อมสวนกระบองเพชรที่กำลังรออยู่
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : โมร็อคโคเป็นประเทศในทวีปแอฟริกาใต้ ที่มีทะเลทรายขนาดใหญ่และมีชายฝั่งยาวมาตั้งแต่มหาสมุทรแอตแลนติกจนถึงทะเลเมดิเตอเรเนียน เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมแถบนี้จะมีความหลากหลาย การตกแต่งจะมีทั้งแบบเน้นสีสันจัดจ้าน ปูกระเบื้องหลากลาย ซุ้มประตูวิจิตร คล้ายบ้านในตะวันออกกลาง อินเดีย หรืออีกแบบเน้นวัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก อย่างเช่น ไม้เก่า ไม้ดิบ ๆ ไม่ทำสีไม่ขัด ศิลปะของผนังบ้านที่ดูโค้งมน ฉาบพื้นผิวหยาบ ๆ ด้วยปูนปลาสเตอร์ (ทาเดลลักต์) ลักษณะคล้ายบ้านดิน เป็นต้น |
