บ้านหลังคาจั่ว เน้นการเล่นแสงและความมืด
บ้านหลังคาจั่วนั้นพบเห็นได้ทั่วไปในสิงคโปร์ (และบ้านเรา รวมถึงที่อื่นๆ ด้วย) แม้ว่ารูปทรงจะเรียบง่ายมากๆ ไม่มีรายละเอียดซับซ้อนแต่ก็ไม่เคยตกยุค โดยเฉพาะบ้านในเขตร้อนชื้น เพราะในแง่ของการใช้งานหลังคาทรงนี้สามารถตอบโจทย์การปกป้องภายในจากความร้อน และระบายน้ำฝนได้ดี อย่างไรก็ตาม หลังคาจั่วก็ได้รับการพัฒนารูปลักษณ์และการเลือกใช้วัสดุที่ต่างออกไปหลากหลาย ให้ลุคที่ดูโมเดิร์นขึ้นได้ เหมือนเช่นบ้านหลังนี้ที่เราจะพาไปชมครับ
ออกแบบ : Local Architecture Research+Design
ภาพถ่าย : Studio Periphery
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
สถาปนิกต้องการแสดงให้เห็นถึงความสวยงามที่เรียบง่าย ในความสมมาตรของหลังคาทรงจั่วและเส้นตั้งฉากที่แข็งแกร่ง โดยเปรียบเทียบอย่างติดตลกว่า หลังคาบ้านนี้เหมือนหมวกกันแดดที่ชาวไร่สวม เพื่อป้องกันแสงแดดและฝน เมื่อมองจากระยะไกล จะเห็นว่าสัดส่วนระหว่างหลังคาที่ดูหนาทึบกับขอบหลังคา และชายคาที่เรียบและเบากว่าจากวัสดุเหล็กตกแต่งสีดำ ทำให้เกิดความแตกต่างที่สวยงาม
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
คุณสมบัติที่โดดเด่นอีกประการของบ้านสองชั้นครึ่งหลังนี้ คือ การเล่นแสงและความมืด ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากการใช้โทนสีเทาหลากเฉดที่ด้านหน้าอาคาร และเมื่อก้าวเข้ามาภายในยิ่งสัมผัสได้ถึงประกอบที่ตรงข้ามกันตามธรรมชาตินี้ลึกซึ้งมากขึ้น
การเข้าสู่ตัวบ้านจะเริ่มต้นการเดินทางในโถงทางเข้าที่มืดและแคบ เหมือนกำลังอยู่ในช่องทางลับที่น่าตื่นเต้น จากนั้นจะค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปยังห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว ซึ่งมีประตูกระจกสูงจากพื้นถึงเพดานเรียงรายอยู่ ทำให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้เต็มที่และมองเห็นสวนได้ พื้นที่ส่วนกลางหลักของชั้นล่างจึงมีชีวิตชีวาขึ้นท่ามกลางการตกแต่งโทนสีมืดๆ
ในชั้นล่างเป็นพื้นที่สาธารณะของครอบครัวสี่คน แม้จะถูกจำกัดด้วยพื้นที่ที่มีลักษณะลึกยาว สถาปนิกไม่หวั่นไหวกับเรื่องนี้ และยังท้าทายด้วยการเลือกใช้องค์โดยใช้โทนสีเข้มของวัสดุเพื่อกำหนดพื้นที่ ฟังก์ชัน และการเปลี่ยนแปลงจากจุดหนึ่งไปจุดหนึ่ง ทั่วทั้งบ้านจึงเต็มไปด้วยโทนสีเทาและสีไม้ที่ตัดกันกับผนังสีขาว ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวตกแต่งที่หลากหลาย เช่น กระเบื้อง สีทาบ้าน และไม้วีเนียร์สีเข้ม เพื่อให้ห้องดูไม่น่าเบื่อ
สมาชิกครอบครัวชอบจัดงานสังสรรค์ ต้องทำอาหารรองรับแขกบ่อยๆ บ้านนี้จึงเน้นไปที่ฟังก์ชันครัวเป็นพิเศษ โดยจัดให้เป็นครัวแบบเปิดขนาดใหญ่กินพื้นที่เกือบสองในสามของชั้นนี้ มีโซนการใช้งาน 4 โซน ได้แก่ ครัวแห้ง ห้องเก็บของแบบวอล์คอิน ครัวสำหรับใช้งาน และครัวหลังบ้าน โดยภายในโซนเหล่านี้มีเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ระดับมืออาชีพครบครัน ตามคำขอของเจ้าของบ้านที่หลงใหลในศิลปะการทำอาหารอย่างจริงจัง (บางทีเจ้าของบ้านอาจจะเป็นเชฟมิชลินสตาร์ด้วยซ้ำ)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าธีมโดยภาพรวมบ้านจะดูเรียบขรึม คลาสสิค มีเสน่ห์แบบไร้กาลเวลา ด้วยโทนสีที่ค่อนข้างมืดในชั้นล่าง แต่จุดสุดยอดของบ้านหลังนี้ คือ ห้องใต้หลังคา ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยแบบเปิดโล่งที่เต็มไปด้วยแสงธรรมชาติจากช่องแสงสกายไลท์บนหลังคา การตีฝ้าเพดานตามแนวหลังคาทำให้ผู้อยู่อาศัยได้ดื่มด่ำกับความสมมาตรและความสมดุลของหลังคาจั่วด้านบน ขณะเดียวกันก็เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์จากระเบียงด้านหลัง แม้จะใช้วัสดุและโทนสีใกล้เคียง แต่รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่เบากว่าและผ่อนคลายกว่าชั้นล่าง
บ้านนี้ไม่ได้ออกแบบมาให้มีแต่ด้านมืดหรือด้านสว่าง แต่จะมองหาทิศทางที่สมดุลระหว่างพื้นที่รับแสงและพื้นที่ร่มเงาหลบจากอิทธิพลของแสง ตามทิศทางในการใช้งานประจำวันในแต่ละช่วงของวันของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก ทำให้ภายในสบายและตอบโจทย์ที่ต้องการได้อย่างแท้จริง
