ไอเดียต่อเติมบ้าน
ในปี พ.ศ. 2493 เมือง Bedford เป็นแค่เมืองขนาดเล็ก ชานเมืองของเมืองเพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย เมืองนี้เติบโตมาเรื่อย ๆ จนถึงปี 2010 อัตราการเติบโตของธุรกิจ การวางผังเมืองและการขนส่งสาธารณะที่จัดการได้ดีขึ้น ส่วนอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในเมืองที่ได้รับการปรับปรุงให้ชาวเมืองใช้ชีวิตได้ง่าย และก็มีความคิดเรื่อยเรียงมาถึงการปรับปรุงบ้านเรือนให้ดูดึงดูดน่าสนใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังรักษาความเชื่อมต่อกับบริบทเดิมรอบด้านเอาไว้อย่างเหนียวแน่น นี่คือข้อดีของการจัดการเมืองของออสเตรเลีย ที่แม้จะอยากเติมสิ่งใหม่แต่ยังไม่ลืมคุณค่าของเก่า เหมือนบ้านหลังนี้ที่ต่อเติมแบบเนบเนียนกับบ้านเดิมอย่างไร้รอยต่อครับ
ออกแบบ : Gresley Abas Architects, Justine Monk Design
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขนาดใหญ่
บ้านเดิมเป็นกระท่อมเล็ก ๆ สร้างบนพื้นที่ 117 ตารางวา ที่ไม่ค่อยมีพื้นที่สำหรับต้นไม้และพื้นที่สีเขียว สถาปนิกจึงต้องออกแบบให้ส่วนที่ต่อเติมตอบสนองทางด้านสถาปัตยกรรมที่มุ่งเน้นไปที่การเชื่อมต่อระหว่างอาคารใหม่กับอาคารเก่า โดยมีพื้นที่ว่างกลางแจ้งเว้นวรรคให้บ้านได้หายใจ และยืมพื้นที่ว่างตรงนี้มาเป็นจุดเชื่อมต่อการใช้งานระหว่างอาคารและพื้นที่ภายใน-ภายนอกอาคาร เป็นความเรียบง่ายและในขณะเดียวกันก็ช่วยยืนยันความพร้อมที่จะรักษาไว้ซึ่งความเอื้ออาทรของอาคารและธรรมชาติ รวมไปถึงความต่อเนื่องของพื้นที่ที่ไม่มีในตัวอาคารเดิม
วัสดุใหม่ที่ใช้และฟอร์มที่สร้างแบบโมเดิร์นไม่ขัดตากับหลังคาปั้นหยาของอาคารเดิม เพราะหลังคาแบบแบนราบแบบโมเดิร์นเลื่อนเข้าไปอยู่ใต้ชายคาบ้านเก่า ทำให้ตัวอาคารที่ต่อเติมไม่ได้สูงล้ำออกมา ตัวบ้านออกแบบให้เป็นทรงกล่อมสี่เหลี่ยมธรรมดาบนฐานอิฐแดง ประตูบานสไลด์ติดกระจกเปิดได้กว้าง รับแสงธรรมชาติและลมเข้ามาไหลเวียนในตัวบ้านได้เต็มที่ แต่ในมุมที่ไม่ต้องการแสงก็ตีไม้ปิดเอาไว้
ภายในตกแต่งโดยใช้สีขาวเป็นหลัก ตัดด้วยสีดำให้บางส่วนของบ้านที่ต้องการเน้นเด่นชัดขึ้น มีพื้นที่ต่างระดับที่เชื่อมต่อด้วยชั้นบันไดทำจากไม้อัด ติด ๆ กันบิวท์ตู้ไม้ทาสีดำเป็นห้องอ่านหนังสือ ห้องเล่นดนตรี เลยจากส่วนนี้ไปบนผนังมีแสงจากหน้าต่างทางด้านตะวันตกทำให้บริเวณนี้สว่างด้วยแสงธรรมชาติที่พอเหมาะพอดี
พื้นคอนกรีตทาสีทำเข้มมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการดูดและกักเก็บพลังงานและคลื่นของความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาว ในช่วงฤดูร้อนก็มีม่านบานเกล็ดขนาดใหญ่เต็มบาช่วยปกป้องบ้านจากแสงแดดตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ สถาปนิกเพิ่มผิวสัมผัสที่นุ่มนวล เติมความอบอุ่น และลดความรู้สึกเข้มขรึมของสีดำด้วยการตีเพดานและผนังด้วยไม้อัดลายธรรมชาติ
ด้านล่างเป็นพื้นที่โล่ง ๆ วางโต๊ะทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้สบาย ๆ ผนังด้านข้างติดกระจกบานใหญ่ ช่วยให้พื้นที่ภายในอาคารซึมซับบรรยากาศสวนเขียว ๆ ภายนอกได้ง่าย บริเวณเพดานโชว์เส้นสายไฟสีดำที่ห้อยตัวลงมาเป็นระยะเหมือนใยแมงมุมโดยไม่ต้องเก็บให้เรียบร้อย เป็นลูกเล่นเล็ก ๆ ที่ทำให้บ้านไม่ดูเรียบเกินไป
ห้องน้ำตกแต่งง่าย ๆ มีเพียงซิงค์ล้างหน้า และอ่างอาบน้ำ สถาปนิกพยายามคุมโทนให้อารมณ์มีความต่อเนื่องกับภาพรวมของบ้านทั้งหลัง ด้วยการใช้ไม้อัดกรุผนัง และติดโมเสกสีดำชิ้นเล็ก ๆ เต็มกรอบอ่างอาบน้ำ
