บ้านหลังคากระเบื้องมีสกายไลท์ตรงกลาง
The Bloom Architects บริษัทออกแบบชื่อดังในเวียดนาม เปิดตัวผลงานชิ้นเอกล่าสุดที่สร้างเสร็จในปี 2023 ของ นั่นคือ Tile House โครงการที่พักอาศัยสุดสร้างสรรค์กับวัสดุ “กระเบื้องดินเผา” ที่โดดเด่น แสดงให้เห็นถึงการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างองค์ประกอบแบบดั้งเดิมและสุนทรียศาสตร์การออกแบบที่ทันสมัย ทำให้อยู่สบายท่ามกลางอากาศแบบเขตร้อนชื้น ในขณะเดียวกันก็รักษาความผูกพันทางอารมณ์ของครอบครัวหลายรุ่นเอาไว้ด้วยกัน
ออกแบบ : The Bloom Architects
ภาพถ่าย : Hiroyuki Oki
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
Tile House ตั้งอยู่ในภูมิภาค Bao Loc ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศแห้งแล้งยาวนานและฝนตกชุก แต่ในทางกลับกันบรรยากาศที่นี่ก็น่าอยู่และเย็นสบายตลอดทั้งปี จากลักษณะนี้สถาปนิกจึงเลือกกระเบื้องเป็นวัสดุหลักสำหรับบ้าน เพราะกระเบื้องเป็นวัสดุเก่าแต่ไม่ต้องดูแลรักษามาก นอกจากจะสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังนำความรู้สึกคิดถึงเฉพาะเจาะจงที่คน “ผู้สูงวัย” คุ้นเคย
เมื่อมองจากภายนอกอาคาร การใช้กระเบื้องดินเผาสีส้มอมแดงเป็นแถบยาวจะดึงดูดสายตาทันที กระเบื้องที่แข็งแรงและผุพังเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นเกราะป้องกันแสงแดดที่แผดเผาและฝนที่ตกหนักเท่านั้น แต่ยังให้ความรู้สึกสง่างามเหนือกาลเวลาอีกด้วย ลวดลายที่เป็นจังหวะของกระเบื้องซึ่งเน้นด้วยรอยแยกและช่องเปิดที่วางแผนมาอย่างดีสร้างปฏิสัมพันธ์แบบไดนามิกระหว่างสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้นและโลกธรรมชาติภายนอก
ความน่าตื่นตาที่แท้ของ Tile House อยู่ที่การใช้กระเบื้องอย่างชำนาญ โดยออกแบบสร้างสรรค์รูปทรงหลังคาให้เป็นสี่เหลี่ยมแบบหลังคาปั้นหยากลับหัว ทุกมุมไหลลงไปรวมกันที่ตรงกลางมีช่องแสงสกายไลท์ขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ บนหลังคานี้มีบันไดให้เดินลงไป service ดูแลได้ง่าย หรือจะไปนั่งเล่นนอนเล่นชมดาวก็ได้ นอกจากจะทำหน้าที่หลังคายังต่อเนื่องมาถึงผนังด้วย
ด้านหน้าบ้านจะมีลานจอดรถด้านหน้ากว้างขวาง โดยจัดบ่อปลาคาร์ฟไว้เป็นจุดเด่นของลานหน้าบ้าน เมื่อก้าวเข้ามาในบ้านจะเห็นได้ทันทีว่าพื้นที่ภายในและภายนอกบ้านนั้นผสานกันอย่างลงตัว ผ่านประตูที่เปิดออกได้กว้างและพื้นที่โล่งมองเห็นทะลุทั่วถึงกันทั้งหมด
ช่องรับลมขนาดใหญ่ตรงกลางบ้าน ทำหน้าที่เป็นช่องทางนำอากาศเย็นสดชื่นจากสภาพแวดล้อมโดยรอบเข้ามาหมุนเวียนไปทั่วบ้าน มีหลังคาสกายไลท์วงกลมช่วยดึงแสงให้ส่องตรงลงมาที่สวนพอดี ทำให้ภูมิทัศน์ขนาดจิ๋วใต้แสงเหมือนมีสปอตไลท์ส่องลงมา ทำให้เป็นอีกหนึ่งจุดโฟกัสสายตาหลักๆ การออกแบบที่ชาญฉลาดนี้เมื่อรวมกับผนังกันเสียงและกันความร้อนสองชั้น จะทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบายตัวไม่ว่าจะอยู่ในสภาพอากาศแบบใด
ทุกฟังก์ชันที่ใช้งานประจำวันในบ้านจะต้องมีส่วนเปิดผสมผสานกับต้นไม้สีเขียว พื้นที่ของบ้านจึงไม่เพียงแต่แสดงรูปลักษณ์ที่คุ้นเคยและอบอุ่น แต่ยังสร้าง “จุดสัมผัส” กับธรรมชาติรอบๆ บ้านและภายใน เป็นแนวคิดแบบ inside out- outside in นำความรู้สึกแบบกลางแจ้งเข้ามาเก็บไว้ภายใน ทั้งสองด้านของห้องนั่งเล่น-ห้องครัว-ห้องรับประทานอาหารเป็นประตูและผนังกระจกที่เชื่อมต่อสวนสีเขียวเอาไว้ให้มีส่วนร่วมได้ในทุกกิจกรรม
ผนังสีขาวของบ้าน เมื่อรวมกันกับเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบที่คุ้นเคย แท่นไม้ที่เหมือนชานบ้านให้นั่งเล่นข้างๆ ต้นไม้ ทำให้นึกถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายในอดีต สมาชิกครอบครัวทุกเจเนอเรชันสามารถเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิต นั่งเล่น รับประทานอาหารกับครอบครัวในบรรยากาศอันเงียบสงบ แม้จะเป็นบ้านสร้างในแนวคิดใหม่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้สูงวัยรู้สึกแปลกปลอม
มุมโต๊ะน้ำชาไม้ที่ออกแบบให้เป็นแท่น เพื่อให้ครอบครัวได้รวมตัวกันดื่มชาพร้อมขนมชิ้นอร่อย เล่นหมากรุก พูดคุยกัน หรือนั่งทำการบ้านก็ได้
ผู้ใหญ่ก็ใช้งานได้ง่าย รู้สึกสบายๆ ทั้งฟังก์ชัน การสัญจรและสภาวะสบาย ในขณะที่เด็กๆ ค้นพบความสุขด้วยของขวัญกล่องใหญ่ กับฟังก์ชันสนุกสนานให้เด็กๆ เล่นที่สอดคล้องกับวัยที่ชอบเรียนรู้และเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ เช่น ชั้นลอยก็เป็นพื้นที่สำหรับเด็กทั้งห้องนอนและพื้นที่เด็กเล่น
การแบ่งความเป็นส่วนตัวและพื้นที่ใช้สอยไม่ได้ถูกมองข้ามไป แต่เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบอย่างรอบคอบ สถาปนิกได้แบ่งพื้นที่ของบ้านเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับแต่ละห้องและเพื่อนบ้านโดยรอบ ในห้องนอนได้รับแสงสว่างและอากาศบริสุทธิ์จากช่องแสงสกายไลท์ และซึมซับความเขียวสดชื่นจากสวนเล็กๆ ที่จัดเอาไว้ภายใน ซึ่งมีประตูกระจกคั่นไว้ ความโปร่งใสทำให้รู้สึกราวกับนอนอยู่กลางสวน
แปลนบ้าน
