บ้านหลังคาสกายไลท์เชื่อมโยงธรรมชาติ
วิถีชีวิตแบบเมืองแม้จะเร่งรีบและแข่งขันสูง แต่ก็มีสีสันและสะดวกสบาย สิ่งเหล่านี้อาจจะดึงดูดใครหลายๆ คนให้ใช้ชีวิตแบบคนเมือง แต่ก็มีคนไม่น้อยที่ถอยออกมา เหมือนเช่นเจ้าของบ้านนี้ที่ตัดสินใจขายอพาร์ทเมนท์ใจกลางเมือง เจ้าของบ้านก็เลือกสร้างบ้านแถวชานเมืองเพื่อเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ปลูกต้นไม้ เพื่อลดความเครียดจากความวุ่นวายในเมือง และเชื่อมโยงกับธรรมชาติมากขึ้น ตัวบ้านเลือกใช้วัสดุเรียบง่ายตามแบบฉบับของเวียดนาม เพื่อเพิ่มความรู้สึกใกล้ชิด ความคุ้นเคย และชวนให้นึกถึงความหลัง
ออกแบบ : Story Architecture
ภาพถ่าย : Abluebird Studio
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
บ้านมีสามชั้นสร้างขึ้นบนพื้นที่ 200 ตร.ม. ในเขตชานเมืองของ Tuy Hoa (Phu Yen) เจ้าของบ้านเป็นศิลปินนักออกแบบท่าเต้น ที่อาศัยอยู่คนเดียวและบางครั้งเพื่อนๆ ก็มาเยี่ยมและอยู่ด้วย จากรูปลักษณ์ภายนอกของอาคารแสดงให้เห็นเป็นบ้านตกแต่งด้วยงานไม้เวียดนามแบบดั้งเดิม ซุ้มประตูมุงกระเบื้องดินเผา และจุดที่เด่นสะดุดตา คือ หลังคาบ้านที่มีช่องแสงวงกลมขนาดใหญ่และผนังตกแต่งแผ่นหิน
หน้าบ้านมีลานโล่งๆ ให้ออกมานั่งพักผ่อนกลางธรรมชาติในวันที่อากาศสดใส เหนือลานด้านหนึ่งมีตัวห้องชั้นสองยื่นออกมา ทำให้ห้องเหมือนกำลังลอยตัวอยู่ อีกด้านหนึ่งเป็นผนังหินเรียบๆ แต่มีแสงเงาวงกลมจากช่องแสงสกายไลท์บนหลังคา ที่ตกกระทบตามตำแหน่งการเดินทางของแสงที่เปลี่ยนไปตลอดในแต่ละช่วงของวัน ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้นี้ก็จะทำให้บ้านดูน่าสนุก
จากลานบ้านจะเข้าสู่ภายในผ่านประตูกระจกบานเลื่อนที่ติดตั้งสูงหลายเมตร ความใสของกระจกดึงแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายใน เปิดมุมมองออกไปในมุมที่สูงขึ้น และยังเบลอขอบเขตระหว่างลานกับบ้านให้ลานกลายเป็นส่วนขยายของบ้าน ได้ทั้งความโล่ง โปร่ง และสว่าง แต่ไม่ได้ร้อนเกินไป
ภายในจะเห็นเสา คาน และพื้น ที่ทำจากคอนกรีตเสริมเหล็ก แท่งไม้ยาวพาดขวาง รวมกับเสาหินกลมขัดเงาขนาดใหญ่ ที่สร้างความแตกต่างทั้งรูปลักษณ์และพื้นที่ภายใน ในส่วนของการตกแต่งในบ้านจะยังคงใช้วัสดุสไตล์ชนบท ตั้งแต่หินขัด ไม้ แผ่นหินรังผึ้งที่ใช้กรุผนังสูงๆ เป็นหินประเภทหนึ่งที่มีสีหลักเป็นสีเทาดำตามลักษณะเด่นคือพื้นผิวมีรูเล็กๆ รวมทั้งกระเบื้องที่เป็นวัสดุท้องถิ่นของเวียดนามทั่วไป สร้างความรู้สึกคุ้นเคยให้หวนคิดถึงบรรยากาศเดิมๆ ให้กับเจ้าของบ้านวัยกลางคน
ในส่วนของฟังก์ชันชั้นล่างจัดเป็นพื้นที่ใช้งานส่วนกลางแบบเปิด open plan ให้แต่ละพื้นที่ใช้งานเชื่อมต่อกัน ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว-ห้องรับประทานอาหาร และสระว่ายน้ำอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นส่วนกลาง สร้างความรู้สึกกว้างขวาง เพิ่มความสามารถในการหมุนเวียนของลมและรับแสงภายใน เหมือนนั่งอยู่ในพื้นที่โล่งมากกว่าบ้านที่เต็มไปด้วยผนังทึบ
พื้นที่กล่องสี่เหลี่ยมเทพื้นเพดานตัดขาดระหว่างชั้นที่มักพบในบ้านในเมือง ถูกเคลียร์ด้วยการเจาะพื้นเชื่อมต่อชั้นจากชั้นล่างทะลุไปชั้นบน ช่วยขยายมุมมองและทำให้การสื่อสารระหว่างชั้นง่ายขึ้น ห้องโถงรวมกับแผงกระจกขนาดใหญ่ช่วยให้มองเห็นตำแหน่งภายในบ้านสู่ภายนอกได้สะดวก หลังคายังทำเป็นหน้าต่างกระจกเพื่อให้แสงผ่านเข้ามาและตรงกลางบ้านช่วยให้บ้านมีความร่าเริง มีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยพลัง
บันไดทางเดินระหว่างชั้นสว่างเพียงพอตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องใช้ไฟฟ้าในระหว่างวัน เพราะแสงธรรมชาติสามารถส่องผ่านหลังคาสกายไลท์ขนาดใหญ่เหนือบันได ซึ่งจะมีคานไม้เป็นซี่ ๆ ช่วยพรางแสงไม่ให้รุนแรงเกินไป
พื้นที่พักผ่อนกว้างขวางที่ชั้นสอง เหมาะสำหรับการจัดงานสังสรรค์ขนาดใหญ่ รองรับเพื่อน ๆ ศิลปินที่จะมารวมตัวกันได้ครั้งละหลายๆ คน
ชั้นสองประกอบด้วยห้องนอนใหญ่และห้องพักแขก การตกแต่งภายในห้องนอนมีกลิ่นอายของทั้งโครงการ โดยให้ความสำคัญกับโทนสีเข้มและวัสดุธรรมชาติ แต่จะสังเกตว่าในห้องนอนช่วงที่เป็นผนังคอนกรีตเปลือยขัดมัน จะทำมุมผนังโค้งๆ ลดความแหลมคมและความแข็งกระด้างให้ความรู้สึกปลอดภัย ห้องน้ำอยู่ติดกับบริเวณแต่งตัวมีอ่างอาบน้ำ ตกแต่งด้วยกรวดและแผ่นทางเดินจำลองบรรยากาศสวนเพิ่มความผ่อนคลาย
ส่วนชั้นสามประกอบด้วยห้องนอน ห้องแท่นบูชา และพื้นที่พักผ่อน หน้าต่างหลังคาชั้น 3 ที่เป็นช่องแสงสกายไลท์ทำให้เจ้าของบ้านมองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนจากเตียงนอนชวนให้หลับฝันดีตลอดทั้งคืน
แปลนบ้าน