บ้านทรงกล่องที่เน้นเปิดเชื่อมต่อธรรมชาติ
คนที่รักบ้านและรักสวนด้วย ก็มักจะหาบ้านที่มีพื้นที่ในการทำสวน แม้จะพอทราบว่าการดูแลสวนนั้นไม่ใช่งานง่าย แต่ก็สุขใจทุกครั้งที่เห็นต้นไม้ค่อยๆ ออกใบเขียวขจี ดอกไม้สีสวยที่ทยอยผลิดอก คิดแล้วก็อยากไปนั่งชมสวนทุก ๆ วัน อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่หลายๆ บ้านอาจเป็นเหมือนกัน คือ มีพื้นที่บ้านและสวนสวย แต่การเข้าถึงสวนทำได้ยากและเหมือนถูกตัดขาดจากบ้าน ทำให้ไม่ค่อยอยากออกไปที่สวนมากเท่าที่คิด เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” จะพาไปชมบ้านที่ใส่การผสมผสานพื้นที่ทั้งสองส่วนให้ดูกลมกลืน
ออกแบบ : Mateus Monteiro
ภาพถ่าย : Favaro Jr. Fotografia
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
โครงการบ้านขนาด 50 ตารางวานี้ เริ่มต้นด้วยการเลือกที่ดิน เพราะความฝันของเจ้าของคือบ้านท่ามกลางป่า เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติและทำให้ความปรารถนาในวัยเด็กที่อยากมีชิงช้าบนต้นไม้ ทีมงานเลือกที่ดินที่มีลักษณะดังกล่าวและปรับกระบวนการออกแบบและก่อสร้างให้ เพื่อสร้างความเชื่อมต่อระหว่างภายนอกภายใน แต่ยังสามารถอนุรักษ์ภูมิประเทศและต้นไม้ทั้งหมดที่ล้อมรอบได้อย่างดี
ที่ตั้งบ้านหลังนี้ตั้งอยู่ด้านหน้าทะเลสาบและมีแนวต้นไม้รายล้อม ด้วยพื้นที่ธรรมชาติมีความไม่ราบเรียบเท่ากันของที่ดิน ทำให้สถาปนิกต้องทำการศึกษาทิศทางของแสง ลม ต้นไม้ เพื่อออกแบบขนาดและตำแหน่งของอาคาร รวมถึงช่องเปิดต่างๆ ให้สามารถตอบโจทย์ได้มากที่สุด และเพื่อให้ใช้งานบ้านได้อย่างรวดเร็วทันใช้ในช่วงวันหยุดยาว ทีมงานจึงเลือกงานก่ออิฐเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ใช้กระจกจำนวนมาก เพื่อลดระยะเวลาก่อสร้าง ลดผลกระทบต่อพื้นที่และนำธรรมชาติพร้อมแสงสว่างมาสู่สิ่งแวดล้อม
ในด้านหน้าจากถนนจะเป็นสนามหญ้ากว้างๆ วางแผ่นทางเดินตลอดแนวเพื่อนำสายตาเข้าสู่ใจกลางของบ้าน ระหว่างนั้นเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำและมุมนั่งเล่นอาบแดดกลางแจ้งที่มีฉากหลังเป็นชั้นเหล็กโชว์ชุดเครื่องปั้นดินเผาที่มีส่วนช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วย บริเวณนี้จะได้รับจากร่มเงาที่รายล้อมบ้านตลอดเวลาจึงไม่ร้อนมากเกินไป ให้ครอบครัวและเด็กๆ ใช้เวลากลางแจ้งร่วมกันอย่างสนุกสนานได้นานๆ
ก่อนเข้าสู่ตัวบ้านจะมีผนังหินสีอ่อนๆ เรียงยาวเข้ามาถึงในบ้าน ซึ่งการตกแต่งด้วยไม้คูมารู (ไม้สักบราซิล) และหินนี้ ช่วยเสริมองค์ประกอบธรรมชาติที่สร้างความกลมกลืนระหว่างภายนอกกับภายในเหมือนเป็นพื้นที่เดียวกัน สำหรับฟังก์ชันของบ้านหลังนี้มีห้องชุดสองห้อง โดยห้องหนึ่งเป็นห้องหลักซึ่งมีสวนส่วนตัว ห้องนั่งเล่น และห้องครัวผสานกับลานภายนอก ที่จะนำไปสู่ห้องนั่งเล่นอีกห้องซึ่งเป็นพื้นที่ที่ครอบครัวใช้มากที่สุด ห้องน้ำ และห้องเก็บของทำให้พื้นที่ทั้งหมดสมบูรณ์แบบ
ส่วนกลางของบ้าน คือ ห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว และครัว จะรวมกันอยู่ในพื้นที่เดียวเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ไม่ได้แบ่งซอยย่อยเป็นห้องๆ ทำให้พื้นที่ภายในมีความเชื่อมต่อกันเอง สมาชิกในบ้านสามารถแวะเวียนเข้ามาใช้งานได้ง่าย ไม่ว่าจะทยอยเข้ามาหรือมาใช้งานพร้อมๆ กันก็ไม่รู้สึกว่าอึดอัดหรือคับแคบ กลับกันยังให้ความรู้สึกว่าใกล้ชิดกันมากขึ้น
หนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญของบ้านอยู่ที่ด้านหลังของอาคาร ซึ่งจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ เปิดออกไปเชื่อมต่อระเบียงบ้านกว้างๆ อย่างลื่นไหล ผนังตรงพื้นที่ส่วนกลางที่เปิดได้กว้างลบขอบเขตระหว่างบ้านและสวนลง การเข้าถึงธรรมชาติทำได้ง่ายเพียงแค่เอื้อมมือเลื่อน ก็ออกมานั่งซึมซับบรรยากาศต้นไม้ใบหญ้าสายลมแสงแดดได้แล้ว หรือหากวันไหนสภาพอากาศไม่เป็นใจ ก็ยังนั่งมองสวนได้ชัด ๆ ผ่านกระจกภายในบ้าน
มองจากด้านนี้จะเห็นได้ชัดว่าลานนั่งเล่นกลางแจ้งตรงระเบียงนั้น ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับพื้นดินด้านหน้า โดยมีความต่ำกว่าเพราะลักษณะพื้นที่ลาดลงตามธรรมชาติของไซต์ตั้งแต่แรก ทีมงานไม่ได้ปรับหย้าดินหรือถมให้ดท่ากัน จึงต้องทำบันไดทางขึ้นหลายสเต็ปเพิ่มความรู้สึกลอยตัวของบ้าน เหมือนเป็นชิงช้าขนาดใหญ่สมกับที่เจ้าของรอคอย และที่สำคัญโครงสร้างบ้านที่ยกขึ้นเหนือพื้นนี้ยังลดผลกระทบต่อหน้าดินและสิ่งมีชีวิตบริเวณนี้ได้อย่างดี
แปลนบ้าน
