เมนู

ตัดสินคดีแล้ว ปรับโทษ 1 หมื่นต่อปี อาคารกระจก

ผลกระทบอาคารกระจก

ศาลสั่งปรับ เจ้าของอาคารกระจก ส่งผลกระทบผู้อยู่อาศัยรอบข้าง

แสงแดดที่แผดเผาก่อให้เกิดความร้อนสูงทั่วทุกพื้นที่ ส่งผลให้บางอาคารบ้านเรือนที่ต้องการใช้วัสดุกระจกเป็นส่วนประกอบของอาคาร ต้องหาวิธีลดความร้อนด้วยการติดฟิล์มกรองแสง หากเป็นฟิล์มดำทั่วไปอาจไม่มีปัญหานัก แต่หากเป็นฟิล์มปรอทมักส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนใกล้เคียง ซึ่งเมื่อแสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องไปยังอาคาร ทำให้เกิดแสงกระทบ ส่งผลให้ผู้อยู่ใกล้เคียงเดือดร้อนโดยตรง อยากให้คุณผู้อ่านนึกถึงหลักการวิทยาศาสตร์ที่เคยได้ทดลองกันในวัยประถม การนำกระจกเงาส่องไปยังวัตถุต่างๆในช่วงแดดจ้า เช่น กระดาษ สำลี เมื่อแสงกระทบกับวัตถุเป็นเวลานาน ส่งผลให้วัตถุเกิดความร้อนสูงจนกระทั่งเกิดการเผาไหม้ กระจกฟิล์มปรอทก็เช่นกันครับ

ข่าวโดย : สำนักข่าวมติชน

ล่าสุดมีกรณีศึกษาให้เราได้เรียนรู้กัน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เมื่อ ศาลฎีกา มีคำพิพากษา ให้บริษัทเจ้าของโครงการอาคารชุดอยู่อาศัยขนาดใหญ่กลางกรุงเทพมหานคร  ที่ใช้กระจกติดตั้งรอบตัวอาคาร ชดใช้ค่าเสียหายแก่เจ้าของบ้านใกล้เคียงที่ฟ้องคดี ระบุว่า ต้องเจอปัญหา  ๖ เดือน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนเมษายน ของทุกปี  เกิดภาวะตะวันอ้อมข้าว แสงสะท้อนจากอาคารชุดสาดใส่บ้าน  เกิดความร้อนจนอยู่ไม่เป็นสุข  จนกว่าจะแก้ไขลดแสงสะท้อนให้สิ้นไป

(คำพิพากษาศาลฎีกาที่  ๓๗๗๒/๒๕๕๗ ในคดีที่ประชาชนผู้มีบ้านอยู่อาศัยใกล้กับโครงการอาคารชุด  ที่ระบุว่าได้รับผลกระทบจากโครงการอาคารชุดขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง  ย่านสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร  ซึ่งเป็นอาคารที่ติดตั้งกระจกรอบตัวอาคาร แสงสะท้อนจากกระจก ก่อให้เกิดความร้อนจนไม่สามารถใช้ชีวิตในบ้านได้อย่างปกติสุขฟ้องคดี  ขอให้แก้ไขความเดือดร้อน และเรียกค่าสินไหมทดแทนจนกว่าจะแก้ไขความเดือดร้อนให้ลุล่วงไป)

คดีนี้ ผู้ได้รับความเดือดร้อน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง เจ้าของอาคารเป็นจำเลย โดยบรรยายฟ้องว่า ระหว่างเวลา 15.30 – 18.00 น. ของทุกวัน  แสงแดดซึ่งกระทบกับกระจกอาคารของจำเลย จะสะท้อน สาดส่องเข้าไปในบ้านของโจทก์ ทำให้เกิดแสงสว่างและอุณหภูมิในบ้านสูงขึ้นมาก จนไม่สามารถพักอาศัยได้อย่างปกติสุข

ฟากจำเลยก็สู้ว่า แสงแดดช่วงตะวันอ้อมข้าวเป็นเหตุทางธรรมชาติ และแปรเปลี่ยนตามฤดูกาลในแต่ละปี  มิได้เกิดจากการที่จำเลยทำละเมิดโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ  จึงไม่ต้องรับผิด

แต่ศาลเห็นว่า กรณีบุคคลใดใช้สิทธิของตน เป็นเหตุให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินที่ควรคาดคิดหรือคาดหมายได้  แม้สิทธิที่จะปฏิบัติการเพื่อยังให้ความเสียหายหรือเดือดร้อนนั้นให้สิ้นไป  บัญญัติให้เป็นสิทธิเฉพาะตัวของเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ก็ตาม  แต่การที่โจทก์ อาศัยอยู่ในบ้านและได้รับผลกระทบจากแสงสว่างที่สะท้อนจากอาคารของจำเลย สาดส่องเข้าในบ้านด้วย การกระทำของจำเลย ย่อมถือได้ว่า เป็นการทำละเมิดต่อโจทก์

คดีนี้ต่อสู้กันมาถึง 3 ศาล

สุดท้ายศาลฎีกาพิพากษา ให้เจ้าของโครงการจ่าย ค่าเสียหายแก่ร่างกายและจิตใจ  ค่าตรวจสุขภาพรายปี  ค่าเสียโอกาสใช้สอยพื้นที่หน้าบ้าน โดยมีคำพิพากษา ให้ชดใช้ดังนี้

ให้เจ้าของโครงการอาคารชุด  ใช้ค่าเสียหายแก่ร่างกายและจิตใจ ตลอดจนค่าตรวจสุขภาพแก่โจทก์ทั้งสี่  คนละ 1๐,๐๐๐ บาทต่อปี (คดีนี้ มีโจทก์ยื่นฟ้อง 4 คน)

ค่าเสียโอกาสใช้สอยพื้นที่หน้าเรือนแถวทั้งสามหลังรวม  7,๐๐๐ บาทต่อปี   นับแต่วันฟ้อง จนกว่าเจ้าของโครงการนี้จะแก้ไขความเสียหายได้สำเร็จ  หรือหมดสิ้นไปด้วยเหตุอื่น

 

นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคดีในวงการอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมไทยในทางที่ดีขึ้น ช่วยให้ผู้สร้างอาคารบ้านเรือนตระหนักถึงความสำคัญ กับผลกระทบต่อเพื่อนบ้าน ต่อชุมชน ตลอดจนสังคม หากท่านใดกำลังคิดสร้างบ้าน อาคาร ตึก ที่ต้องติดฟิล์มปรอท อ่านข่าวนี้จบแล้ว อาจต้องพิจารณากันใหม่นะครับ http://credit-n.ru/offers-zaim/fastmoney-srochnyi-zaim-na-kartu.html http://www.tb-credit.ru/dengi-na-kartu.html

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด ข่าว กิจกรรม


โพสต์ล่าสุด