ปรับปรุงตึกเก่าแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่ แสง และลม
ปัญหาของบ้านตึกเก่าติด ๆ มักจะขาดช่องแสง ช่องเปิดระบายลม และความเชื่อมต่อภายใน เป็นสารพัดอุปสรรคที่แก้ไขไม่ง่าย แล้วถ้ายังมีโจทย์อื่นๆ เพิ่มอีก ไม่ว่าจะเป็นความต้องการพื้นที่สีเขียว ทั้งๆ ที่ไม่มีที่ดินเหลือรอบข้าง หรือด้านหน้าอาคารหันทางทิศตะวันตกที่ทำให้ภายในร้อน ต้องลดทอนแสงแต่ก็ต้องการความสว่าง ทุกอย่างเหมือนประเดประดังเข้ามานั้นดูยากไปหมด แต่ถ้าเรามีสถาปนิกมือดี สิ่งที่ว่ามานี้ก็กลายเป็นเรื่องเล็ก ๆ ไปเลย เนื้อหานี้เรามีตัวอย่างของบ้านหลายชั้นในเวียดนามที่จะทำให้ลืมบรรยากาศมืด ๆ ทึมๆ ของบ้านตึกแบบเดิมๆ ตั้งแต่ด้านหน้าถึงชั้นดาดฟ้ามาฝากกันครับ
ออกแบบ : Story Architecture
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
อาคารนี้เป็นตึกแถวเก่าสำหรับครอบครัว 3 คน แม้ว่าจะมีส่วนหน้าอาคารที่โปร่งสบาย แต่ปัญหาอยู่ที่บ้านหันหน้าไปทางถนนสายหลัก และยังต้องเผชิญกับแสงแดดจ้าทางทิศตะวันตกรวมถึงฝุ่นจากยานพาหนะ การทลายข้อจำกัดเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่สำหรับ “กรีนเฮาส์” เพียงแค่สถาปนิกใช้กลวิธีการติดตั้งระบบฟาซาด เปลี่ยนเปลือกแบบเดิมๆ เป็นไม้ระแนงร่วมกับประตูกระจกบานเลื่อนคลุมทั้งบ้าน เป็นกระบวนการที่ไม่มีขั้นตอนและอุปกรณ์ยุ่งยาก แต่กลับเอาชนะปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
สถาปนิกผสมผสานโซลูชันทางสถาปัตยกรรมและองค์ประกอบทางธรรมชาติอย่างเชี่ยวชาญ เพื่อให้มั่นใจในความสวยงามและสร้างชั้นฉนวนและป้องกันฝุ่น ที่ทำให้สมาชิกในบ้านได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจท่ามกลางเมืองที่วุ่นวายและวุ่นวาย ระบบบานเกล็ดด้านหน้าทำหน้าที่เป็น “ชั้น” เพื่อช่วยจำกัดแสงแดดที่รุนแรงจากทิศตะวันตก ฝุ่นจากยานพาหนะ และให้ความเป็นส่วนตัวแก่ครอบครัว ด้านหลังชั้นบานเกล็ดมีการปลูกต้นไม้สีเขียวจำนวนมากซึ่งทำหน้าที่เป็นชั้นกรองธรรมชาติด้วย
สำหรับฟังก์ชันภายในบ้านนั้น ชั้นล่างใช้สำหรับจอดรถ มีพื้นที่สักการะเล็กๆ มุมทานข้าวและห้องครัว โดยมีวัสดุสีน้ำเงินเข้มตีกรอบสายตา บ่งบอกขอบเขตการใช้งานออกจากโรงรถ การตัดกันระหว่างสีเทา น้ำเงิน และไม้สีอ่อน ทำให้เกิดความลึกให้กับพื้นที่ พร้อมกับกระจายความสดชื่นให้รู้สึกตื่นตาตั้งแต่ทางเข้า
เมื่อเข้าสู่โซนส่วนตัวของบ้านจะสัมผัสได้ถึงความโปร่งและสว่าง ผิดไปจากบ้านตึกทั่วๆ ไป ด้วยการเจาะโถงสูงทะลุขึ้นไปเหนือบันได ทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ จากชั้นนี้จะทำให้เชื่อมกับชั้นล่างได้สะดวกและรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น
สำหรับบ้านอื่นๆ ห้องน้ำคงถูกบังและซ่อนไว้ในมุมที่มองไม่ชัด แต่บ้านนี้กลับดูเด่นด้วยรูปทรงกล่องมุมมน ตกแต่งกระเบื้องโมเสกลายสวย ประตูโค้งไม้น่ารัก แถมยังใช้พื้นที่เหนือห้องน้ำปลูกต้นไม้ทำให้ธรรมชาติใกล้ชิดกับบ้านมากขึ้น สามารถเดินข้ามบันไดขึ้นไปนั่งเล่นได้
เพื่อลดความรู้สึกคับแคบอึดอัดของบ้านทรงสูง สถาปนิกยังเพิ่มวิธีแก้ปัญหาเรื่องการสร้างช่องรับแสงและพื้นที่ระบายอากาศภายในบ้าน ด้วยการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของบันได โดยจะอยู่ส่วนท้ายของบ้าน พื้นที่ส่วนห้องน้ำและอ่างล้างหน้าก็จะถูกดันไปอยู่ส่วนท้ายของบ้านเช่นกัน เพื่อเว้นพื้นที่ด้านหน้าไว้กระจายพื้นที่ใช้สอย แล้วรื้อเพดานออกเปิดเป็นพื้นที่ว่างในแนวตั้งขนาดใหญ่ เหนือโถงบันไดทำช่องรับแสง skylight ช่วยให้แสงส่องผ่านในบ้านได้ทั่วถึง และยังเอื้อต่อการไหลเวียนของอากาศภายในอาคารมากขึ้น
เมื่อเดินตามบันไดขึ้นมาถึงชั้นบน จะเป็นห้องนั่งเล่นที่สามารถมองเห็นและพูดคุยปฏิสัมพันธ์กับคนที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ในชั้นล่างได้แบบไม่ขาดการติดต่อ ส่วนนี้จะใช้ระบบประตูกระจกบานเลื่อนที่เปิดปิดได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อรักษาการเชื่อมต่อกับระเบียงและบันได ทำให้พื้นห้องโล่งโปร่ง
ขึ้นไปชั้น 2 และ 3 เป็นพื้นที่ห้องนอนสำหรับผู้ปกครองและเด็ก ซึ่งทีมงานจะออกแบบให้ระเบียงหน้าห้องลูกแคบลงนิดหน่อย ทำให้ระยะการมองลงไปที่ห้องพ่อแม่ใกล้ขึ้น ในห้องพักของทุกคนในครอบครัวจะเห็นการใส่ส่วนโค้งของบานประตู ตู้เสื้อผ้า และโถสุขภัณฑ์มากขึ้น เพื่อให้ความรู้สึกอ่อนโยนและผ่อนคลาย เจ้าของบ้านเป็นเชื้อสายจีน-เวียดนามที่มีวัฒนธรรมทางศาสนาและต้องการเพิ่มสีฟ้า สีเขียวให้เข้ากัน แต่การใส่สีเข้มในพื้นที่กว้างๆ จะทำให้รู้สึกอึดอัดได้ สถาปนิกจึงไม่ได้ทาสีบ้านทั้งหลังด้วยสีฟ้า แต่เพียงเน้นสีฟ้าบนพื้นหลังสีขาวเพื่อช่วยให้บ้านดูหรูหราและซับซ้อน
บนดาดฟ้าของบ้านเต็มไปด้วยแสงแดด ลม และต้นไม้สีเขียว ชั้นนี้จัดเป็นสวนชวนให้ขึ้นมานั่งเล่นชมวิวรับลมแบบส่วนตัว และยังเป็นพื้นที่ซักล้าง มีหลังคากระจกช่วยรับแสงแดดและลม ด้านหน้าเป็นพื้นที่พักผ่อนที่สามารถจัดปาร์ตี้ได้ มีห้องครัวขนาดเล็กและโต๊ะรับประทานอาหารพร้อมพื้นที่เปิดโล่งในทิศทางต่างๆ ที่มองเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้รอบด้าน
