บ้านสไตล์โมเดิร์น

เก่ากับใหม่ สิ่งที่อยู่กันคนละยุคจะเข้ากันได้หรือไม่ คำถามนี้มีให้เห็นอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นในวงการแฟชั่นหรือในงานสถาปัตยกรรม คำตอบไม่อาจบอกได้ตายตัว เพราะบางครั้งการตกแต่งบ้านไม่มีคำจำกัด อาจจะเข้ากันได้ดูดี หรือจับมาอยู่ด้วยกันแล้วแปลกแยก ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นคนนำมาปรับประยุกต์ ด้วยวิธีการไหน สำหรับบ้านในต่างประเทศที่ค่อนข้างเห็นคุณค่าของอาคารเก่า จะไม่ค่อยทุบรื้อสถาปัตยกรรมดั้งเดิมหากไม่จำเป็นจริง ๆ แล้วสร้างเป็นส่วนต่อเติมที่แสดงความเคารพต่อสิ่งที่มีอยู่ได้อย่างน่าชื่นชม

ออกแบบ : Mitsuori Architects
ภาพถ่าย : Michael Kai
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านที่เลียบไปกับถนนบนเนินที่เห็นนี้ เป็นโครงการปรับปรุงและต่อเติมในพื้นที่บ้านเดิม ซึ่งมีบ้านสไตล์วิคตอเรียนอยู่แล้ว สถาปนิกใช้พื้นที่ด้านข้างบ้านต่อยาวออกไปถึงข้างหลัง ทำเป็นอาคารสไตล์โมเดิร์นสูง 3 ชั้น (รวมชั้นใต้ดิน) ที่ประกอบด้วยฟังก์ชันใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับไฟล์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ในขณะที่บ้านเดิมจะรักษาความสมบูรณ์ของอาคารเอาไว้ แต่ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันแปลงเป็นห้องนอนสำหรับเด็กและโซนอ่านหนังสือ ถ้ามองจากด้านหน้าและด้านข้างจะเห็นบ้านผนังอิฐเก่าอยู่รวมกับอาคารใหม่เหมือนเงาที่ซ้อนกับกันอย่างพอดี

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

จากทางเข้าจะเห็นแนวบ้านเก่าผนังอิฐโชว์แนวไม่ฉาบทับ ทำให้เห็นเนื้อสัมผัสและสีที่เกิดจากความแตกต่างของแหล่งดินและอุณหภูมิที่เผา ส่วนอาคารใหม่จะเริ่มจากอาคารชั้นเดียวก่อนจะเพิ่มเป็นสองชั้นข้างหลัง วัสดุคอนกรีตดิบ ๆ ผนังกระจกทรงกล่อง ซึ่งจะวางตำแหน่งขยับเยื้องลึกเข้าไป เหมือนหลีกทางให้บ้านเดิมยังได้เผยตัวตนที่เต็มไปด้วยคุณค่า

เมื่อเดินลึกเข้ามาผ่านห้องกระจกส่วนหน้าบ้าน จะเห็นวิธีการเชื่อมต่อระหว่างบ้านสองหลังที่มีช่องว่างเล็ก ๆ จัดสวนคั่นอยู่ ก่อนจะพบกับการผสานรวมระหว่างเก่าใหม่เป็นพื้นที่โล่งโปร่งด้วยสเปซขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อไปยังครัว ห้องนั่งเล่น และโวนให้ชีวิตกลางแจ้งที่เพิ่มขึ้นมา กับหลังคา Skylight กระจกใสให้ความรู้สึกเหมือนได้ใช้ชีวิตกลางธรรมชาติ ไม่น่าเชื่อว่าผนังภายนอกที่เป็นอิฐเก่า จะสร้างฉากหลังที่สมบูรณ์และแท้จริงให้กับส่วนใหม่ได้อย่างเข้ากัน

ฟังก์ชันในบ้านใหม่ มีโรงจอดรถหลายคัน โรงยิม ห้องมินิเธียเอตร์ และห้องเก็บไวน์อยู่ชั้นใต้ดิน โซนที่อยู่อาศัยหลักชั้นล่าง จะประกอบไปด้วยห้องอ่านหนังสือส่วนตัว ห้องครัวแบบเปิดโล่งพร้อมโต๊ะทานข้าวขนาดใหญ่ ถัดไปเป็นห้องนั่งเล่นที่เปิดเชื่อมต่อพื้นที่กลางแจ้ง และสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้นล่างที่ขนานไปกับตัวบ้าน ห่อหุ้มภายนอกด้วยทิวทัศน์อันเขียวขจีที่สามารถมองทะลุผ่านผนังกระจกใสที่ติดตั้งได้ตลอดแนวอาคาร ส่วนชั้นบนจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ พื้นที่พักผ่อนที่เป็นส่วนตัว

โปรเจ็กต์นี้นอกจากจะสำรวจการวางเคียงกันของพื้นที่ ฟังก์ชันที่ต้องการใช้งาน ทิศทางแสง ลม องค์ประกอบของมุมมอง แล้ว ยังให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัสดุ เพื่อสร้างบ้านที่ทั้งอบอุ่นและให้สมาชิกในบ้านได้ดื่มด่ำกับความเป็นหนึ่งเดียวกับบริบท โดยนำเสนอผ่านวัสดุธรรมชาติที่แสดงเนื้อแท้และโทนสีแบบไม่ปรุงแต่ง ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีตดิบ ๆ ไม้ แผ่นโลหะ นำความสมบูรณ์มาสู่การตกแต่งภายในและเชื่อมโยงกับภูมิทัศน์ที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ภายนอก

ภายในบ้านนอกจากจะมีแสงสว่างจากรอบข้างผ่านประตูหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่แล้ว ยังได้รับแสงด้านบนจากท้องฟ้าผ่านช่องว่างสูงสองชั้นและ Skylight ขนาดใหญ่ ที่ทำให้บ้านไม่เคยขาดความสว่าง

หากสังเกตดี ๆ จะเห็นผนังคอนกรีตตามแนวครัวและห้องนั่งเล่นที่ยาวออกมาถึงชานนั่งเล่นนอกบ้าน จะเป็นด้านหนึ่งสระว่ายน้ำที่โอบล้อมบ้านเป็นรูปตัว L ความพิเศษคือ สระจะเป็นส่วนหนึ่งของตัวบ้าน และอยู่สูงกว่าพื้นที่ใช้งานหลักในชั้นล่าง บ้านจึงเหมือนจมลงไปอยู่ใต้น้ำบางส่วน ในช่วงที่เป็นพื้นที่กลางแจ้งทั้งหมดยังมีกำแพงสูงที่เต็มไปด้วยไม้เลื้อย ทำหน้าที่เป็นอีกปราการให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวอย่างสมบูรณ์

สำหรับพื้นที่ชั้นอบน จะกันไว้เป็นโซนสำหรับพักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัว มีห้องนอนขนาดใหญ่ที่ใช้ผนังกระจกเป็นหลัก เพราะตั้งใจจะรับแสงธรรมชาติยามเช้าและเปิดรับมุมมองของเมืองได้จากห้องนอน แต่ความพิเศษของบ้านยังไม่หมดเท่านี้ เพราะทีมงานเพิ่มพื้นที่ใช้งานกลางแจ้งเป็นดาดฟ้าขนาดใหญ่กลางแจ้ง วางเก้าอี้ โซฟาสำหรับให้ออกมานอนอาบแดด นั่งเล่น สังเกตความเคลื่อนไหวบนถนนในวันที่อากาศสบาย ๆ ได้อีกด้วย

ไม่เพียงแต่โซนใช้งานหลัก ๆ อย่างห้องนั่งเล่น ห้องนอน เท่านั้น ส่วนอื่น ๆ ของบ้านไม่ว่าจะเป็นครัว ห้องอาบน้ำ ก็ได้รับอภิสิทธิ์ในการเข้าถึงธรรมชาติได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นภูิมทัศน์ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติหรือจะเป็นสวนที่นักออกแบบจัดขึ้นมาให้ก็ตาม