Mid Century Modern
ปลุกความเท่ให้บ้าน ด้วยเฟอร์นิเจอร์ Mid Century Modern
ว่ากันว่า “การแต่งบ้านเป็นศิลปะแขนงหนึ่ง” ซึ่งมีรูปแบบให้เลือกสรรมากมาย แล้วแต่ความชื่นชอบและรสนิยมส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของ หลายท่านหลงใหลในความดิบเปลือยต้องเทใจให้กับสไตล์ Loft บางท่านชอบความอ่อนหวาน โรแมนติกเลือกหยิบของแต่งบ้านแบบ English country ใส่เข้าไป แต่มีอีกหนึ่งสไตล์การแต่งบ้านที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นย้อนกลับไปอยู่ในความทรงจำของวันเก่า เป็น A style to remember ไม่ว่ายุคสมัยจะผ่านไปอีกสักกี่ปี การแต่งบ้านสไตล์นี้ยังคงมีอิทธิพลกับผู้คนทุกยุค ทุกสมัย กับสไตล์ Mid century Modern สไตล์ที่มีเส้นสายเรียบง่าย เป็นอมตะ ในเนื้อหาชุดนี้ “บ้านไอเดีย” ขอพาไปรู้จัก รู้ลึกกับสไตล์ดังกล่าว พร้อมนำตัวอย่างเฟอร์นิเจอร์เพื่อให้ผู้อ่านได้เกิดแรงบันดาลใจในการแต่งบ้านกันครับ
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
Mid century Modern คืออะไร
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับการแต่งบ้านสไตล์นี้ให้ชัดขึ้นมาอีกนิด Mid century Modern คือ งานดีไซน์สไตล์โมเดิร์นในหลากหลายแขนงที่เกิดขึ้นกลางศตวรรษที่ 20 (ระหว่างปี 1950s-1980s) เป็นช่วงปฏิวัติงานอุตสาหกรรม จึงเกิดคลื่นความคิดและการตีความใหม่ ๆ ในวงการบ้านและเฟอร์นิเจอร์ โดยมี The Bauhaus หรือ School of Building ในประเทศเยอรมันเป็นหนึ่งในต้นแบบและแรงบันดาลใจ ของสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นทั่วโลก
เดิมทีผู้คนนิยมความหรูหราอลังการอย่างสไตล์อิตาลีหรือหลุยส์ ในยุคนี้เหล่านักออกแบบเริ่มตัดทอนสิ่งฟุ่มเฟือยรุ่มร่ามลงไปเรื่อย ๆ เหลือไว้แต่เส้นสายเรขาคณิตที่เรียบง่าย เป็นแนวทางการออกแบบที่เต็มไปด้วยเสรีภาพทางความคิด และกล้าที่จะทดลองใช้วิธีการและวัสดุใหม่ ๆ ในแบบที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน เฟอร์นิเจอร์ในยุคนี้จึงดูร่วมสมัยมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
ผลงานชิ้นโบว์แดงที่ออกแบบโดยดีไซน์เนอร์ชาวอิตาลี Joe Colombo ซึ่งสร้างความฮือฮาในวงการเฟอร์นิเจอร์ช่วงเวลานั้นอย่างมาก
เรียบง่าย เส้นสายเรขาคณิต
จุดเด่นของเฟอร์นิเจอร์ Mid century Modern อยู่ที่เส้นสายเรียบง่าย (Simple Lines) ไม่ดัดแปลงและตัดทอนส่วนที่ไม่จำเป็นออกไป (Pure Forms) จะเป็นเส้นตรง เส้นโค้ง หรือรูปทรงเรขาคณิตที่เข้าถึงได้ง่าย รูปแบบเฟอร์นิเจอร์เป็นออร์แกนิคส์สไตล์คือ เน้นความสัมพันธ์ระหว่างตัวมนุษย์กับธรรมชาติและความง่ายในการใช้งาน วัสดุที่ใช้มีทั้งธรรมชาติอย่างเช่น หนัง ไม้ ผ้า โลหะต่าง ๆ และวัสดุที่ทันสมัยขึ้นอย่าง พลาสติก โพลีเอสเตอร์ หรือไฟเบอร์กลาส แต่สิ่งที่ยังคงไว้คือ รูปทรงที่ไม่ซับซ้อน ไม่มีรายละเอียดมากเกินไป เหมาะกับสัดส่วนสรีระของผู้ใช้งาน
ตัวอย่างตู้เก็บของ Gio Ponti นักออกแบบเฟอร์นิเจอร์ชาวอิตาลี ที่สลัดรูปแบบเดิม ๆ ของตู้บานลิ้นชักเรียงตัวลงมาเป็นชั้น ๆ พร้อมติดมือจับ แต่งานชิ้นนี้เล่นกับสีและ Texture ของลายไม้ส่วนหน้าบานที่วางจังหวะให้เกิดช่องว่างบนพื้นหลังสีขาว ช่วยเติมมิติพรางตาให้ดูโดดขึ้นมาเหมือนบานตู้ต่างขนาด และทำหน้าที่เป็นมือจับไปในตัว แม้จะออกแบบมาเกือบทศวรรษแต่ยังดูเป็นงานร่วมสมัยที่วางไว้ในบ้านสไตล์โมเดิร์นได้อย่างแนบเนียน
ตู้คาบิเนตที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเฟอร์นิเจอร์ยุค mid century modern
อาร์มแชร์หนังผลงานจากดีไซเนอร์ Marco Zanuso ที่โอบรับสรีระของผู้ใช้งานได้อย่างพอดิบพอดี เป็นอีกหนึ่งชิ้นงานที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงการใช้งานที่สมดุลย์ระหว่างวัสดุ สรีระของมนุษย์ และฟังก์ชั่นการใช้งาน
เฟอร์นิเจอร์รุ่นคุณพ่อคุณแม่ที่ลูก ๆ คุ้นเคย
ช่วงที่เฟอร์นิเจอร์สไตล์นี้เริ่มผลิตออกสู่สายตาประชาชน เป็นยุค เบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomer) ปัจจุบันคนยุคนี้ก็มีอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งก็คือรุ่นพ่อรุ่นแม่ของหนุ่มสาว Gen Y (กลุ่มคนที่เกิดอยู่ในช่วงปี 1980 ถึง 1998) ที่กำลังอยู่ในวัยทำงาน คน Gen Y เติบโตมากับบ้านที่มีบรรยากาศแห่งความอบอุ่น และคุ้นเคยกับเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ดี แต่ถึงแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน Mid Century Modern Style ไม่เคยหนีหายไปไหนเลย หากเปรียบเทียบกับบทเพลงแล้ว เป็นดั่งบทเพลงยุค 80-90 ที่หยิบมาเปิดฟังเมื่อไหร่ก็ยังคงเพราะติดหูตลอดกาล
ทดสอบความคุ้นตาด้วยงานดีไซน์จาก Hans J. Wegner เป็นเก้าอี้หวายทรงนี้ที่คนอายุ 40 ปีขึ้นไป ต้องเคยนั่งสักครั้งในชีวิตที่ร้านถ่ายรูป ซึ่งมักจะมีเอาไว้ให้เด็ก ๆ นั่งจัดท่าทาง เพราะรูปทรงที่โอบตัวและหลังทำให้นั่งได้ปลอดภัย
ม้านั่งขาไม้กลึงมีพนักโอบหลัง ใส่เบาะหนังสีขรึม ๆ เป็นมุมทานอาหาร มุมนั่งทำงานของหนุ่มสาวยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความทรงจำของวันเก่า ๆ เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ยังคงนิยมนำมาใช้ภายในร้านอาหาร ร้านกาแฟทั่วไป
Lounge Chair และ Ottoman โปรเจกต์เฟอร์นิเจอร์ หนึ่งในผลงานมาสเตอร์พีซในตำนานเฟอร์นิเจอร์ฝีมือการออกแบบของคู่รักดีไซเนอร์ Charles & Ray Eames ซึ่งได้คิดค้นและออกแบบผลิตภัณฑ์จากไม้อัดดัดโค้ง พลาสติกและไฟเบอร์กลาส ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ร่วมสมัยแบบไม่รู้สึกขัดแย้ง ปัจจุบันเรายังเห็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ภายในนิตยสาร เว็บไซต์แต่งบ้านทั่วไป
เก้าอี้พลาสติกขาไม้ Eames Molded Plastic Chair อีกหนึ่งชิ้นงานที่มีความงามเป็นอมตะของ Charles & Ray Eames ออกแบบมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1950 (พ.ศ. 2493) และเป็นที่นิยมมาตลอดจนถึงวันนี้ แม้แต่รายการดัง อย่าง I Can See Your Voice Thailand ได้นำเก้าอี้รุ่นดังกล่าวมาใช้ให้เหล่านักสืบได้นั่งค้นหาคนเสียงเพราะกัน
เก้าอี้ของเหล่านักสืบ workpointtv.com
ไม้สัก ไม้ rose วอลล์นัท และโอ๊ค เป็นวัสดุธรรมชาติที่นิยมนำมาใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Mid century modern แม้จะเป็นงานไม้แต่ไม่ธรรมดาด้วยดีไซน์ที่แฝงรายละเอียดของความเฉียบคมแบบน้อยแต่เก๋
เคล็ดลับบ้านสไตล์ Mid Century Modern
การแต่งบ้านสไตล์นี้ไม่ยาก เพียงมองหาเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งแนวร่วมสมัย ที่ผสมผสานความโมเดิร์นกับคลาสสิคอย่างลงตัว สีสันอาจจะเน้นแนวโมโนโทนอย่างสีเทา น้ำตาล หรืองานไม้ เลือกชิ้นเด่น ๆ 1 ชิ้น จากนั้นเสริมด้วยของแต่งบ้านที่มีสีสันสดใสอย่างสีฟ้าเทอควอยซ์ สีเขียวปีกแมลงทับ หรือเหลืองขมิ้น จัดสรรพื้นที่อย่างโปร่งโล่ง มีช่องแสงสว่างส่องผ่านมาก ๆ เน้นความสะดวกสบายในการใช้สอยพื้นที่อย่างลงตัว
มุมพักผ่อนวางเก้าอี้โซฟาสีเทาหม่นขาแหลมตัวใหญ่เพียงตัวเดียวก็ดูเต็มพื้นที่ ผนังติดวอลเปเปอร์ลายกราฟฟิค ตกแต่งด้วยเครื่องแก้ว เซรามิค เสริมความโดดเด่นอีกนิดด้วยกระจกทองเหลืองทรงกลมวาววับ
แม้ว่าปีนี้จะเป็นปี 2017 แล้วก็ตาม แต่เฟอร์นิเจอร์สไตล์ Mid Century Modern ยังคงได้รับความนิยมในการใช้งานอยู่เสมอ ทั้งนำไปใช้ในการตกแต่งบ้าน โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ อาจด้วยแนวคิดและดีไซน์ที่ออกแบบมาอย่างแยบยล ความงามที่ไม่ซับซ้อนจึงสามารถอยู่ร่วมกับทุกยุค ทุกสมัยได้อย่างลงตัว นอกจากจะทำให้รู้สึกทันสมัยแล้ว อาจทำให้เราได้ย้อนคิดถึงวันคืนเก่า ๆ วันที่ยังเป็นเด็กวิ่งเล่นกับพ่อแม่ อย่าลืมมองหาเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Mid Century Modern มาตกแต่งบ้านกันนะครับ รับประกันได้ว่า ความทรงจำอันอบอุ่นในวัยเยาว์จะหวนกลับมาอย่างไม่รู้ลืม ^_^