บ้านสองชั้น

บ้านตากอากาศสองชั้น โปร่งสบาย สดชื่นในทุกวัน

กลิ่นอายของความสบายในแบบโมเดิร์นยังคงเป็นที่นิยมในบ้านเราแบบไม่มีสร่าง เพราะรูปทรงที่แสนเรียบง่าย ไม่มีรายละเอียดของเส้นสายมากนัก แต่เน้นการใช้งานพื้นที่สร้างที่ว่าง ทำให้บ้านโปร่งโล่ง คำนึงถึงทิศทางลม แสง และการเลือกสรรวัสดุที่เหมาะกับการใช้งานในยุคสมัยใหม่ แบบบ้านสไตล์โมเดิร์นจึงอยู่ได้สบายไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน อย่างเช่นบ้านสองชั้นตากอากาศหลังนี้ ที่เลือกวัสดุเหล็ก กระจก ไม้ มาประกอบเป็นทรงกล่องกลางวิวภูเขาและทะเล ให้ผู้อาศัยได้รับทิวทัศน์สวย ๆ ในทุกด้านและอากาศที่แสนบริสุทธิ์

ออกแบบ : Elding Oscarson
เรียบเรียง : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพใด ๆ เพื่อรับชมภาพในขนาดใหญ่

บ้านสองชั้นสร้างอยู่บริเวณเนินเขาใน Mölle ประเทศสวีเดน ตัวอาคารแสดงออกถึงความคมชัดและความอ่อนโยน ด้วยรูปทรงบ้านที่เป็นเส้นสายแบบเรขาคณิตเรียบง่ายเหมือนกล่องไม้แบ่งเป็นสามแฉก ไม่มีหลังคาหรือกันยื่นล้ำออกมา ชั้นล่างเป็นผนังกระจกใสเปิดให้บ้านดูโปร่งโล่งรับแสงธรรมชาติที่สาดส่องได้เต็มที่ ชั้นบนตีด้วยไม้สีอ่อน ๆ ดูอบอุ่นแบบสแกนดิเนเวียน ตัวบ้านด้านหนึ่งหันหน้าไปทาง Öresund เชิงเขามีทิวทัศน์ของมหาสมุทร ส่วนด้านอื่น ๆ ของรับวิวธรรมชาติในมุมมองที่แตกต่าง

การออกแบบบ้านหลังนี้ ได้รับอิทธิพลจากสถาปนิกเลื่องชื่อ เลอ กอร์บูซีเย ที่เน้นรูปแบบอาคารด้วยความเรียบง่ายของเสาและคาน แบบ Pilotis คือ การออกแบบอาคารที่มีพื้นล่างโล่ง เว้นที่ว่างไว้เพื่อการระบายอากาศและป้องกันความชื้นจากดิน บ้านนี้เลือกติดกระจกชั้นล่าง ความใสของกระจกจึงเหมือนบ้านลอยในอากาศ มีสนามหญ้าเรียบสีเขียวตัดแต่งอย่างเรียบร้อยเป็นแนวยาวเน้นความสง่างามของบ้านมิให้กลืนหายไปกับฉากหลัง ผนังภายในใช้สีขาวให้ความรู้สึกสะอาดตา และช่วยขับให้ส่วนของผนังกระจกขนาดใหญ่ที่ใสและโปร่งเบาดูเด่นชัดมาแต่ไกล

ชั้นล่างเป็นพื้นขัดปูนขัดมันเรียบต่อเนื่องทั้งผืน จัดพื้นที่ใช้งานภายในให้โปร่งโล่งแบบ Open Space ที่แทบจะไม่มีผนังระหว่างห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่น ตัวบ้านที่ห่อหุ้มด้วผนังกระจกกรองแสง Low-E จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการสะสมความร้อนภายใน ประตูบานเลื่อนและบานหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ที่มีความกว้างเกือบ 7 เมตร ทำให้เปิดรับอากาศสบายข้างนอกให้เข้ามาไหลเวียนสร้างบรรยากาศดี ๆ ภายใน และสามารถมองทะลุเห็นทัศนียภาพภายนอกได้อย่างชัดเจน

ถัดจากห้องนั่งเล่น จะเป็นบริเวณทางเดินขึ้นลงระหว่างชั้น ซึ่งเป็นบันไดวนสีขาวเป็นเกลียวขนาดใหญ่ที่่เชื่อมแต่ละชั้นเข้าด้วยกัน มองเผิน ๆ เป็นประติมากรรมชิ้นสวยที่นำมาตั้งไว้กลางบ้าน ก่อให้เกิดความรู้สึกที่เคลื่อนไหวไม่หยุดนิ่ง และยังเป็นช่องทางในการนำอากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ด้านบนด้วย

อีกฝั่งหนึ่งของบันไดเกลียวเป็นส่วนของครัวและพื้นที่ทำอาหาร ซึ่งแวดล้อมไปด้วยกระจกใส ทำให้ทุกครั้งที่เข้าครัวหรือทานอาหารก็ไม่พลาดที่จะได้รับทิวทัศน์สวย ๆ ทำให้การทำอาหารผ่อนคลาย มื้ออาหารมีบรรยากาศธรรมชาติที่ถูกดึงเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน

หลังคาบ้านทำ Rooftop Garden เพื่อลดความร้อนที่หลังคาได้รับโดยตรงจากแสงอาทิตย์ ซึ่งสถาปนิกออกแบบช้องทางการระบายน้ำ และคำนวณการรับน้ำหนักมาอย่างดีเพื่อไม่ได้ตัวบ้านได้รับความเสียหาย จากมุมนี้ของบ้านจะเห็นท้องฟ้าสีคราม ภูเขาที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี และคลื่นทะเลที่ส่องสะท้อนแสงระยิบระยับ

ชั้นบนมีสามห้องนอนตั้งอยู่คนละปีกของบ้าน แต่ละห้องเจาะช่องหน้าต่างสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เปิดมุมมองออกไปรับภูมิทัศน์ที่รายล้อมได้ทุกห้อง ชั้นล่างเป็นกระจกใส ยามเมื่อแสงอาทิตย์หมดลงและต้องเปิดไฟฟ้าส่องสว่าง ทำให้บ้านเหมือนตะเกียงดวงใหญ่ที่ส่องแสงสว่างไปทั่วบริเวณ