
บ้านตกแต่งวัสดุธรรมชาติ
บางคนอาจชอบเมืองใหญ่ที่มีแสงสี แต่หลายๆ คนกลับตกหลุมรักเมืองเล็กๆ และหลีกหนีความวุ่นวายไปใช้ชีวิตแบบเงียบๆ อย่างเมือง Valladolid ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในคาบสมุทรยูคาทาน โดยมีอายุกว่า 480 ปี เมืองนี้อุดมจึงไปด้วยประเพณี อาหาร และสถาปัตยกรรมอิทธิพลสมัยอาณานิคม ซึ่งดึงดูดใจครอบครัวหนุ่มสาวรุ่นใหม่ตัดสินใจที่จะสร้างสถานที่พักผ่อนในพื้นที่นี้สักหลัง
ออกแบบ : Artesano Estudio de Arquitectura e Interiores
ภาพถ่าย : Manolo R. Solís
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
บ้านนี้มีอาคารหลังเก่าซึ่งตั้งตระหง่านมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ตอนที่มาสร้างเหลือเพียงกำแพงอิฐโบราณ 3 แห่ง คือ ด้านหน้าทางทิศเหนือ และขอบเขตทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก องค์ประกอบเหล่านี้ปกติอาจจะมองว่าเก่าโบราณไม่ควรเก็บไว้ แต่สำหรับครอบครัวซากกำแพงที่หลงเหลือนี้กลับมีความสำคัญในการเลือกซื้อเลยทีเดียว หลังจากนั้นการออกแบบจึงมีอิฐและหินมาเป็นองค์ประกอบในทุกพื้นที่
ด้วยแนวคิดที่แน่วแน่ที่จะเปิดเผยผนังเหล่านี้ โครงการนี้จึงตีความใหม่ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น โดยการกระเทาะเปลือกผนังที่ฉาบออกให้เห็นหินและอิฐบางจุด แล้วฉาบทับใหม่บางจุดให้ดูเหมือนร่องรอยของเวลาที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป ส่วนผนังบ้านที่แยกพื้นที่เป็นห้องเล็กห้องน้อยถูกรื้อออกรวมทั้งเพดานด้วย เผยให้เห็นองค์ประกอบโครงสร้างใหม่ของบ้านที่ดูสูง โปร่ง เชื่อมต่อ และลื่นไหลมากขึ้น การตกแต่งภายในบ้านเลือกใช้วัสดุโดยพิจารณาเลือกบางสิ่งที่เป็นมรดกท้องถิ่น เพื่อสร้างการเชื่อมต่อระหว่างเก่าและใหม่ เช่น พื้นไม้แคนเทราของเม็กซิกัน งานตกแต่งแบบงานฝีมือบนผนัง คาน และไม้รีไซเคิล
การตกแต่งภายในนั้นผสมผสานระหว่างสไตล์และเรื่องราวต่างๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานสั่งทำ ชิ้นงานที่ซ่อมแซมแล้ว และของวินเทจที่สะสมมานาน ผสมผสานกับงานดีไซน์ร่วมสมัยของเม็กซิโก ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ใหม่นั้นมักทำจากผ้าลินินและผ้าฝ้ายผสมกันในโทนสีเอิร์ธโทนอ่อนๆ เชือกสาน ประกอบกับสีของหิน อิฐ ปูนฉาบผนัง ท็อปโต๊ะหินอ่อนสีขาวริ้วดำ ตัดด้วยสีดำของบันไดวนเหล็กและโต๊ะ ซึ่งเป็นชุดสีที่กำหนดในโครงการนี้
สิ่งที่น่าสนใจในโครงการนี้นอกจากจะโชว์เนื้อแท้ของวัสดุเก่า ของแต่งบ้านหลากสไตล์แล้ว ยังมีเทคนิค Shou Sugi Ban ของญี่ปุ่น ที่ได้รับการฝึกฝนและเรียนรู้โดยช่างฝีมือในคาบสมุทรยูคาทานในเวิร์กช็อป Artesano โดยการเผาไม้ที่ผิวด้านนอกให้เป็นสีดำเกรียม เพื่อปกป้องไม้และเน้นย้ำถึงลักษณะที่เหนือกาลเวลา อบอุ่น และเป็นธรรมชาติของสภาพแวดล้อม
จุดสำคัญอีกประการหนึ่งในการแทรกแซงทางสถาปัตยกรรม คือ ภูมิทัศน์ธรรมชาติและพื้นที่ใช้ชีวิตกลางแจ้งขนาดใหญ่ ก่อนจะเชื่อมต่อไปยังอาคารสูงสองชั้นในอีกด้านที่เป็นโซนพักผ่อนส่วนตัว อาคารที่สองฝั่งติดตั้งประตูหน้าต่างกระจกสูงจากพื้นจรดเพดาน จึงสามารถมองเห็นลานสวนและสระว่ายน้ำได้จากทุกจุดของบ้าน นอกจากนี้ที่ว่างในใจกลางยังเป็นบริเวณรับลม รับแสง และวิวท้องฟ้า ลดข้อจำกัดของของที่ดินลึกยาวที่มักขาดแสงช่วงกลางพื้นที่ได้ด้วย
แปลนบ้าน