
ขยายพื้นที่ให้กับบ้าน
การสร้างบ้านแต่ละหลังย่อมต้องสนองตอบรูปแบบการใช้งานของผู้อยู่เป็นหลัก ชอบใช้ชีวิตแบบไหนก็เสริมจุดเด่นให้บ้านใช้งานแบบนั้นได้ง่าย ๆ อย่างเช่นบ้านหลังนี้ที่เจ้าของบ้านต้องการบ้านที่มีความสวยงามแบบยั่งยืนและมีความยืดหยุ่นในการใช้งานทั้งภายนอกและภายใน มีสวนกว้าง ๆ เพื่อรองรับการขยับขยายครอบครัวในเจเนอร์เรชั่นต่อไป จึงทำการปรับปรุงบ้านตากอากาศเก่าจากบ้านหลังเก่า 2 ชั้นหน้าตาธรรมดาที่ถูกปลวกแทะ โดนความชื้นจนแทบใช้งานไม่ได้ มาเป็นบ้านสวน 2 ชั้น คือ มีทั้งสวนบนพื้นดินและสวนบนหลังคา ที่ทำให้บ้านนี้สดชื่นไปด้วยพื้นที่สีเขียว และต่อเติมอาคารคอนกรีตเพิ่มเติมอีกหนึ่งหลังให้สมาชิกในครอบครัวได้ใช้พื้นที่อย่างคุมค่าทุกตารางนิ้ว
ออกแบบ : Aileen Sage
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านใหม่ต่อเติมจากบ้านเดิมนี้ดีไซน์โดย Amelia Holliday สร้างเพื่ออยู่กับสมาชิกครอบครัวที่ประกอบไปด้วยสามี ลูกสาว 1 คน และเพื่อนรักสี่ขาอีก 2 ตัว บ้านนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตอนุรักษ์ Paddington ที่เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนเชิงอนุรักษ์ จึงต้องคงความเรียบง่ายเอาไว้ไม่ให้โดดเด้งออกมาจากบ้านรอบข้าง โจทย์สำหรับบ้านนี้คือทำอย่างไรให้บ้านและห้องทุกห้องใช้งานได้แม้เวลาจะผ่านไปหลาย ๆ ปีไม่ว่าเด็ก ๆ จะโตขึ้นหรือเมื่อพวกเขาแก่ตัวลง และมีเด็ก ๆ เจเนอเรชั่นใหม่ ๆ เข้ามาเติมเต็มการใช้พื้นที่ คำตอบจึงอยู่ที่การออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูงเพื่อรองรับการใช้งานในอนาคต รอบบ้านออกแบบให้ตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของสมาชิกแต่ละคนได้ในทุกช่วงเวลา
บ้านหลังเก่าเป็นบ้าน 2 ชั้น สร้างช่วงปี 1880 ซึ่งถูกความร้อน ความชื้น และปลวกทำให้บ้านทรุดโทรมลงไปหลาย ๆ จุด ซึ่งยากต่อการกู้สภาพ สถาปนิกจึงคงไว้เพียงโครงสร้างหลัก ๆ ของบ้านเดิมเท่าที่พอจะทำได้ เพิ่มอาคารปูนชั้นเดียวต่อเติมออกมาจากอาคารเดิม เพิ่มช่องแสงให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และจัดให้ระบบหมุนเวียนอากาศทำได้ทั่วถึงทุกห้อง พื้นที่ที่จัดสรรใหม่นี้ติดกับสวนสไตล์คอนเท็มโพรารี่ที่เป็นคอร์ทอยู่กลางบ้าน ทำให้ทุกห้องสามารถเปิดกว้างเชื่อมต่อกับสวนได้หมด
อาคารปูนชั้นเดียว เปิดช่องประตูกว้าง รับแสง และระบายอากาศให้บ้านได้รับความสดชื่นจากธรรมชาติได้เต็มที่
ทั้งสองอาคารเชื่อมต่อกันได้อย่างแนบสนิท ตัวอาคารเดิมที่มีผนังเป็นแผ่นหินสีอ่อนล้อไปกับอารมณ์ปูนเปลือยของอาคารใหม่ บริเวณมุมบ้านของแต่ละอาคารติดกรอบหน้าต่างกระจกใสบานใหญ่ ทำให้จุดนี้เป็นเหมือนโชว์รูมที่เปิดมุมมองให้บ้านสามารถเข้าถึงสวนได้ง่าย ๆ ทั้งสองมุม
มุมนั่งเล่นในสวนให้ความรู้สึกสบายปนโรแมนติก ชวนให้มานั่งดื่มกาแฟหอม ๆ รับบรรยากาศสบาย ๆ ยามเช้า
การตกแต่งภายในบ้านเน้นความโปร่งโล่งของพื้นที่ เพราะความตั้งใจของเจ้าของบ้านต้องการบ้านที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานสูง ดังนั้นการเปิดพื้นที่ห้องให้เชื่อมต่อกันแบบไร้ผนังจึงเป็นทางเลือกที่ดี เพราะผู้อยู่อาศัยใช้เพียงเฟอร์นิเจอร์ลอยเป็นตัวแบ่งเขตพื้นที่ใช้สอย ซึ่งง่ายต่อการตกแต่งและปรับเปลี่ยนตำแหน่งในอนาคต
ผนังบ้านหลังนี้เปิด-ปิด ได้ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นลูกเล่นให้บ้านที่ไม่ค่อยจะได้เห็นกันมากนัก ตรงจุดนี้ทำให้บ้านเลือกอารมณ์และการใช้งานได้ตามชอบ เมื่อต้องการใช้พื้นที่ทำงาน ประชุม สังสรรค์แบบไม่ต้องการการรบกวนก็สามารถปิดผนังซ่อนตู้และบันไดทางขั้นชั้นสองไว้ด้านหลังได้
ฟาซาดของบ้านตีปิดบริเวณหน้าบ้านเอาไว้ เพื่อกันความเป็นส่วนตัวให้ตัวบ้านแยกออกมาจากสายตาของเพื่อนบ้านภายนอก แต่ไม่ได้ปิดทึบจนทำให้บ้านอึดอัดหรือขาดการติดต่อกับชุมชนไปเลย
อีกหนึ่งไอเดียที่ต้องยกนิ้วให้สถาปนิกเลยคือ การสร้างสวนบนหลังคา (green roof) ที่นอกจากจะเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ตัวบ้านแล้ว สวนบนหลังคายังช่วยลดความร้อนให้กับตัวบ้านด้านล่างได้ดีอีกด้วย ถึงจุดนี้จะอยู่สูงบนหลังคาบ้าน แต่ไม่ต้องห่วงว่าสมาชิกในบ้านจะเข้าถึงยาก เพราะถูฏออกแบบมาให้เชื่อมต่อบริเวณหน้าต่างห้องชั้นบนของบ้านเดิมอย่างพอเหมาะพอเจาะ ที่นี่จึงเหมือนเป็นสวนลอยฟ้าที่จะปลูกพืชผักก็ดี หรือจะเป็นพื้นที่หลบภัยส่วนตัวเพิ่มขึ้นอีกที่ก็ได้
ฟังก์ชั่นสนุก ๆ มีให้เห็นอยู่ตามจุดต่าง ๆ ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นผนังปิด-เปิดได้ หรือประตูที่มีกลไกในการยกขึ้นและปิดทึบลงมาจนกลายเป็นผนังห้อง ที่ติดอยู่หน้าห้องนอน ทำให้ห้องนอนนี้เป็นห้องลับที่ซ่อนอยู่หลังผนัง
สี texture มิติ และความขี้เล่นมีครบพร้อมในบ้านหลังนี้ไม่เว้นแม้แต่ในห้องน้ำ ที่เน้นไอเดียการดีไซน์เก๋ ๆ ไม่ได้เน้นความเป็นสมัยนิยม แต่ดูแล้วมีเสน่ห์แบบยั่งยืน