
บ้านฟาซาดต้นไม้
HIêN House ตั้งอยู่ในใจกลางชานเมืองย่านชานเมืองที่พัฒนาใหม่ของเมืองดานัง ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความผูกพันที่ยั่งยืนของครอบครัว 3 รุ่น เพราะบ้านนี้ไม่เพียงแต่ต้องจัดพื้นที่ให้อยู่อย่างสบายในพื้นที่หน้าแคบแต่ลึก แต่ยังมีรากฐานมรดกที่เชี่ยวชาญทางงานไม้ที่สืบทอดมาหลายยุคสมัย จึงต้องประสานระหว่างความเคารพต่อรากฐานทางวัฒนธรรมของคนรุ่นก่อน เข้ากับองค์ประกอบธรรมชาติ และการใช้ชีวิตแบบยั่งยืนของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัวที่สุด
ออกแบบ : Winhouse Architecture
ภาพถ่าย : Quang Dam
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านหลายชั้นหลังนี้สร้างขึ้นบนพื้นที่ 105 ตร.ม. ตั้งอยู่ในเขต Ngu Hanh Son (เมืองดานัง) ซึ่งมีครอบครัวสมาชิก 3 รุ่นอาศัยอยู่ หลังจากย้ายไปยังเขตเมืองใหม่แล้ว เจ้าของก็ยังปรารถนาที่จะสร้างภูมิทัศน์ที่คุ้นเคยของบ้านหลังเก่าเอาไว้ เพื่อยังคงมีกลิ่นอายความทรงจำและวัฒนธรรมเดิมของชาวเวียดนามหลงเหลือให้คิดถึง จุดนี้จะใกล้กับแม่น้ำจึงเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของแม่น้ำ Han ที่งดงามได้ง่าย ด้านหน้าจึงมีระบียงและกล่องกระจกยื่นออกมาให้ชมวิวได้
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
ระเบียงแต่ละจุดมีหลังคาป้องกันฝน และทำกระถางคอนกรีตปลูกต้นไม้ให้เลื้อยคลุมส่วนหน้าของบ้าน ช่วยเพิ่มความสดชื่น กรองแสง กรองฝุ่น ให้บ้านได้ด้วย เจ้าของบ้านยังใช้ประโยชน์จากที่ดินหลังบ้าน ทำแปลงปลูกผักสวนครัวเล็ก ๆ เพื่อเป็นแหล่งอาหารสดสำหรับมื้ออาหารในแต่ละวัน
จากการพูดคุยความต้องการกับผู้เป็นเจ้าของ กลุ่มสถาปนิกจึงเกิดแนวทางในการจัดพื้นที่ใช้สอยให้คล้ายกับบ้านในชนบท เช่น หลังคากระเบื้องสีแดง อิฐมอญ ปูด้วยหินบะซอลต์สีดำ หลังคาโครงสร้างไม้กันสาดยื่นยาวคลุมเฉลียงกว้างๆ เพื่อกันแสงอาทิตย์ ลดความร้อนของภาคกลางและปกป้องพื้นที่ภายในจากฝน นอกจากนี้ยังสามารถเปิดออกมานั่งเล่นทักทายเพื่อนบ้านได้เหมือนก่อน
งานไม้ เป็นมากกว่าอาชีพ แต่เป็นวิถีชีวิตที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยแรงบันดาลใจจากงานฝีมือของบรรพบุรุษนี้ สถาปนิกจึงเลือกไม้เป็นหนึ่งวัสดุหลักสำหรับโครงการทั้งภายในและภายนอก การมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันของครอบครัวในกระบวนการทำงานไม้ช่วยตอกย้ำความเชื่อมโยงระหว่างบ้านกับวัฒนธรรม โดยไม้ส่วนนหึ่งจะถูกรื้อออกจากอาคารเก่า และนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อสร้างโครงสร้างหลังคา บันได และเฟอร์นิเจอร์โดยไม่ใช้สารเคลือบเคมี ทั้งวัสดุและแรงงานใช้ทรัพยากรในท้องถิ่น ช่วยประหยัดต้นทุน ปกป้องสิ่งแวดล้อม และเพิ่มความยั่งยืน
ฟังก์ชั่นของบ้าน 4 ชั้นยังคงรักษากิจวัตรเก่าๆ ในบ้านในชนบทของครอบครัว สำหรับชั้น 1 หน้าบ้านมีสนามหญ้าขนาดใหญ่และมีที่จอดรถด้วย เปิดประตูเข้ามาจะมีบ่อปลา พื้นที่ส่วนกลางรวมห้องนั่งเล่น พร้อมห้องครัว พื้นที่ทานข้าวไว้ด้วยกันอย่างเรียบง่าย ตกแต่งวัสดุกระเบื้องเซรามิคสีเขียว พื้นหินขัด ชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่เข้ากันได้ดีกับปูนเปลือย ห้องครัวใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติจากผนังอิฐช่องลม ส่วนห้องน้ำมีหลังคาแยกเป็นสัดส่วนคล้ายบ้านเล็ก ๆ มุงหลังคากระเบื้องเก่า
“Hiên” แปลว่าเฉลียงในภาษาเวียดนาม ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอก ซึ่งไม่เพียงใส่เข้ามาจำลองฟังก์ชันของบ้านดั้งเดิมเท่านั้น แต่เฉลียง ระเบียง ลาน ต่างๆ นี้ยังช่วยปรับตัวบ้านให้เข้ากับสภาพอากาศเขตร้อนของเวียดนามตอนกลางด้วย
นอกจากทีมงานจะใส่ลาน ระเบียง ทั้งด้านหน้าและด้านหลังของอาคาร ให้ช่วยลดผลกระทบของสภาพอากาศร้อนที่มีต่อพื้นที่ภายใน ลานและระเบียงขนาดใหญ่ยังถูกทำซ้ำภายในที่ชั้น 3-4 ติดกับสวนขนาดเล็กที่มีไม้พุ่มเขตร้อนมากมาย จุดนี้คือที่สมาชิกในครอบครัวนั่งพูดคุยระหว่างวันและพักผ่อนในเวลาว่าง ซึ่งจะมีช่องแสง skylight ให้แสงสาดส่องผ่านสู่ภายในจากด้านบน จึงเหมือนมีพื้นที่กลางแจ้งอยู่ในบ้าน
ชั้นบนมีทางเดินเชื่อมต่อระหว่างห้องจัดเลี้ยง ซึ่งจำลองมาจากภาพสะพานไม้ นอกจากใช้เป็นทางสัญจร ยังสร้างช่องว่างโถงสูงในส่วนนี้เพื่อกลบข้อเสียของบ้านที่มีความแคบลึกและไม่มีช่องเปิดด้านข้าง ให้เชื่อมต่อพื้นที่ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง กลายเป็นโถงใหญ่ใจกลางบ้าน สร้าง “พื้นที่หายใจ” ให้บ้าน และเพิ่มความรู้สึกของพื้นที่เหมือนภายในกว้างขึ้น และในขณะเดียวกันก็เปิดรับแสงจากหลังคาและลมได้ด้วย
แสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านประตูหน้าต่างกระจกและแผงผนังอิฐช่องลม ทำให้พื้นที่พักผ่อนดูเงียบสงบ แต่สัมผัสได้ถึงความสดชื่นมีชีวิตชีวา
ชั้น 2 แบ่งเป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และระเบียงใหญ่ด้านหน้า ส่วนชั้น 3 มีห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวและพื้นที่พักผ่อน ห้องนอนทุกห้องตกแต่งด้วยงานไม้ มีต้นไม้แทรกแซมให้บรรยากาศสบาย ๆ และติดตั้งประตูไม้ระแนงบานใหญ่ที่เปิดออกได้กว้างจึงโปร่งสบายอย่างยิ่ง
ชั้น 4 มีห้องสักการะและพื้นที่ทำงานผนังกระจกขนาดกระทัดรัด มาพร้อมวิวกว้างรอบบ้าน ห้องที่แยกเป็นสัดส่วนจากพื้นที่อื่นๆ ทำให้การทำงานมีสมาธิ จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้กับเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี เมื่อรู้สึกล้าก็ละสายตามาเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันเขียวขจีและเมืองได้อย่างเต็มที่
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : สีเขียวของต้นไม้ ใบไม้ เป็นโทนสีธรรมชาติที่ใช้พักสายตาได้ดีที่สุด นอกจากนี้ร่มเงาก็ยังช่วยให้บ้านเย็นขึ้น เราจึงได้เห็นการรวมธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเปลือกอาคารในอาคารใหม่ๆ มากขึ้น กลายเป็นฟาซาดสวนแนวตั้งที่เรียกว่า Green Facade ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มคุณสมบัติด้านการปกป้องอาคารจากความร้อน ให้ความเย็น สบายตา เท่านั้น ยังช่วยกรองฝุ่น ควัน และลดเสียงรบกวนให้กับบ้านได้ด้วย |
แปลนบ้าน