
อาคารคอนกรีตกลมกลืนกับธรรมชาติ
วัดหรือบ้าน? ครั้งแรกที่เห็นอาคารหลังนี้ทำให้เกิดคำถามขึ้นมา เพราะหน้าตาของ Vuong Dinh Temple นี้ ไม่ใช่วัดในรูปแบบที่เราคุ้นเคย แต่เหมือนบ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์นมากกว่า อาคารนี้ตั้งอยู่ในสวนบรรพบุรุษของตระกูล Vuong Dinh ใน Thuy Bieu ห่างจากเมืองเว้ 5 กิโลเมตร หมู่บ้านที่เงียบสงบแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องบ้านเรือนในสวนอันเป็นเอกลักษณ์เป็นมรดกทางสถาปัตยกรรม จึงเป็นตัวอย่างของการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างประเพณีและความทันสมัย ด้วยโครงสร้างคอนกรีตดิบๆ ที่แสดงถึงความเคารพต่อสถานที่ ในขณะที่กลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
ออกแบบ : Cote Architects
ภาพถ่าย : Chimnon Studio
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
อาคารที่ว่านี้จะเป็นวัดก็ไม่เชิง น่าจะเรียกว่าสักการะสถาน หรือศาสนสถาน ของบรรพบุรุษประจำตระกูลมากกว่า ตัวอาคารรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเรียบง่าย (8.5 x 11 เมตร) ได้รับแรงบันดาลใจจากบ้านสามห้องแบบดั้งเดิมของเวียดนาม โครงคอนกรีตเปลือยที่โชว์พื้นผิวของแบบหล่อไม้ สะท้อนให้เห็นถึงความงามตามธรรมชาติของวัสดุ การเล่นแสงและเงาภายใน เปลี่ยนความแข็งแกร่งให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตชีวา โครงหินขนาดใหญ่ที่ยกขึ้นบนคานตามยาวดูเหมือนจะลอยอยู่เหนือพื้นดินอย่างไร้น้ำหนัก ทำให้วิหารดูมีบรรยากาศเหนือจริง
การออกแบบนี้ผสมผสานชั้นพื้นที่ที่แตกต่างกันสามชั้น ได้แก่ เปลือกคอนกรีตด้านนอกที่ป้องกันสภาพอากาศได้ดี พื้นที่เปลี่ยนผ่านของระเบียงและทางเดิน และแกนกลางของอาคารซึ่งล้อมรอบด้วยกำแพงอิฐและประตูไม้ โครงสร้างนี้ผสมผสานความเรียบง่ายและความยืดหยุ่น ทำให้มั่นใจได้ว่าภายในจะยังคงระบายอากาศได้ดีและปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศที่มีทั้งความร้อนและความชื้นของเมืองเว้ได้
เนื่องจากเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการบูชาบรรพบุรุษและสถานที่รวมตัวของครอบครัว สถานที่แห่งนี้จึงรองรับทั้งกิจกรรมทางจิตวิญญาณและส่วนรวม โดยจัดให้ชั้นล่างมีเฉลียงกว้างขวางที่ทอดยาวไปจนถึงสวนส้มโอที่เขียวชอุ่ม ช่วยส่งเสริมการเชื่อมโยงระหว่างสภาพแวดล้อมในร่มและกลางแจ้ง พร้อมยูนิตที่พักอาศัยขนาดเล็กให้เป็นส่วนพักผ่อนสำหรับสมาชิกในครอบครัวที่เดินทางมาไกลในระหว่างการพบปะสังสรรค์
คอนกรีตดิบๆ สีเทาเย็นชืดนี้ ถูกทำให้เป็น “วัสดุที่มีชีวิต” ผ่านช่องเปิดขนาดใหญ่และช่องว่างรูพรุนเล็ก ๆ ของอิฐช่องลมที่จัดวางอย่างพิถีพิถัน ซึ่งเชิญชวนแสงแดดและลมเข้าไปภายในอาคาร ทำให้ความดิบของคอนกรีตนุ่มนวลลงและสร้างพื้นที่ที่น่าดึงดูดและมีชีวิตชีวา การออกแบบนี้รวบรวมความสมดุลระหว่างธรรมชาติและสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น ความนิ่งสงบและการเคลื่อนไหว ซึ่งสะท้อนถึงคุณค่าทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมที่กว้างขึ้นของเวียดนาม
ที่ชั้นบน จะเป็นพื้นที่จัดวางแท่นบูชาหลัก มีประตูไม้บานเฟี้ยมแบบดั้งเดิมและระเบียงที่อยู่ติดกัน เน้นความสัมพันธ์ระหว่างจิตวิญญาณและธรรมชาติ ประตูทางเข้ามีรูปปั้นสุนัขเฝ้ายามหินอยู่สองข้าง เป็นตัวแทนของความเชื่อดั้งเดิมของชาวเวียดนาม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องและโชคลาภ องค์ประกอบเหล่านี้สะท้อนถึงแก่นแท้ทางจิตวิญญาณของการบูชาบรรพบุรุษ และได้เชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับชีวิตประจำวันเข้ากับความเชื่อพื้นบ้านในภูมิภาค
ลักษณะเด่นของสักการะสถานแห่งนี้ คือ ระเบียงซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมเวียดนาม ทำหน้าที่เชื่อมพื้นที่ภายในและภายนอกเข้าด้วยกัน ระเบียงที่ทอดยาวในแนวนอนสร้างความต่อเนื่อง เชื่อมโยงโครงสร้างกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในเชิงภาพ การผสานรวมที่ไร้รอยต่อนี้ยังช่วยเบลอขอบเขต ส่งเสริมความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวระหว่างสิ่งที่สร้างขึ้นและสิ่งที่เป็นธรรมชาติ
สักการะสถาน Vuong Dinh ไม่ได้เป็นเพียงอาคารเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องราวร่วมสมัยที่เชื่อมโยงสถาปัตยกรรมในอดีตและปัจจุบันของเวียดนาม ผสมผสานประเพณีเข้ากับนวัตกรรม โดยเชิดชูรากเหง้าทางวัฒนธรรมพร้อมรับมือกับความท้าทายในยุคปัจจุบัน ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเชื่อมโยงที่ยั่งยืนระหว่างสถาปัตยกรรม ธรรมชาติ และมรดกทางวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี
แปลนบ้าน