4 วิธีขจัดรอยไหม้บนเตารีด

“ช่วยด้วยค่ะ! หน้าเตารีดไหม้เกรียม มีวิธีทำให้กลับมาขาวเหมือนเดิมไหม” ปัญหานี้ดูจะเป็นอุบัติเหตุทางงานบ้านที่พบกันได้เสมอ สำหรับคุณแม่บ้านพ่อบ้านที่รีดผ้าด้วยตัวเอง บางครั้งอาจเผลอเปิดไฟแรงสุดแล้วทิ้งเอาไว้ พอรีดลงบนเนื้อผ้าปุ๊บนอกจากเสื้อผ้าจะไหม้ขาดเป็นรูแล้ว ยังสร้างร่องรอยไหม้เกรียมลงบนหน้าเตารีดด้วย ถ้าฝืนใช้ต่อทิ้งคราบรอยไหม้ลงบนผ้าชิ้นต่อไป และรู้สึกได้ว่าการรีดยากขึ้นไม่ลื่นด้วย รอยไหม้เหล่านี้แม้อาการจะสาหัสแต่ยังพอแก้ไขได้นะคะ เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” รวบรวมสารพันวิธีขจัดคราบไหม้บนเตารีดให้ดูสะอาด ใช้งานได้เรียบลื่นเหมือนเดิมมาฝากกันค่ะ

เนื้อหา : บ้านไอเดีย
ที่มา | ภาพถ่าย :Charlotte Smith

วิธีที่ 1 เริ่มต้นด้วยการลองใช้แปรงสีฟันจุ่มน้ำส้มสายชูกลั่นธรรมดา แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ด ทำซ้ำเรื่อยๆ จนพื้นผิวสะอาดขึ้น ส่วนบางรุ่นบางแบรนด์ (โดยเฉพาะแบบเตารีดไอน้ำ) จะมีร่องรูลึกลงไปก็ให้เปิดเตารีดและปล่อยให้ไอน้ำทำงานสักครู่ จากนั้นจึงทำความสะอาดด้วยน้ำส้มสายชู ส่วนในซอกรูใช้แปรงสีฟันจุ่มเบกกิ้งโซดาและขัดให้ทั่ว แล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาด

วิธีที่ 2 เสียบปลั๊กเปิดเตารีดให้ร้อนใช้คีมหนีบยาพาราเซตามอล *ที่เราทานแก้ปวดนี่แหละค่ะ มาถูที่หน้าเตารีด โดยค่อยๆ ถูวนเป็นวงเล็กๆ สักพักจะเห็นว่าคราบดำ ๆ เริ่มละลายออกมา ให้รีบใช้ทิชชูเช็ดคราบออก ขั้นตอนการถูต้องทำเป็นจุดเล็ก ๆ และเช็ดเร็วนิดหนึ่ง เพราะมิเช่นนั้นคราบจะละลายไปติดหนึบตรงจุดอื่น และให้ระวังเมื่อเม็ดยาละลายจะคีบยากขึ้น อาจจะกระเด็นมาโดนมือตอนที่เม็ดยาร้อนๆ ได้ค่ะ

วิธีที่ 3 เปิดไฟเตารีดแรงสุดรอไว้ จากนั้นนำผ้าหนาๆ มาบีบใส่ยาสีฟันลงไป พอเตารีดร้อนจนมีควันจัดให้ดึงปลั๊กออก แล้วนำผ้าชุบยาสีฟันขัดๆ ถูๆ ทำซ้ำวนไปจนกว่าคราบสีดำจะค่อยๆ หลุดจางลงจนหมด

วิธีที่ 4 Trick นี้ใช้เช็ดหน้าเตารีดขณะเครื่องเย็นไม่ต้องเปิดร้อนๆ ทำได้โดยเอาทิชชูเปียกวางบนภาชนะรอง จากนั้นใช้ไฮเตอร์สำหรับผ้าขาวเทราดบางๆ นำคีมคีบทิชชูไปแปะหน้าเตารีดทิ้งไว้ 3-4 นาที แล้วเช็ดออกจนสะอาด วิธีนี้ต้องระวังเรื่องกลิ่นสารเคมีและควรใช้คีมคีบหรือใส่ถุงมายางเพื่อป้องกันสารเคมีทำร้ายผิวหนัง

เป็นอย่างไรบ้างคะ ค่อนข้างจุใจกับทริคทั้งหมด 5 วิธีนี้หรือเปล่า “บ้านไอเดีย” คิดว่าน่าจะครอบคลุมการแก้ปัญหาหน้าเตารีดไหม้ได้พอสมควรเลย แม่บ้านพ่อบ้านท่านไหนที่ลองนำไปใช้แล้วได้ผลดี อย่าลืมกลับมาให้ Feedback หรือแชร์เคล็ดลับเพิ่มเติมกันได้นะคะ

*หมายเหตุ : ที่มา www.thairath.co.th/news