บ้านหลังคาเพิงหมาแหงน

แรงบันดาลใจในการสร้างบ้าน บางครั้งก็ได้มาจากสิ่งง่าย ๆ รอบตัว แม้กระทั่งก้อนกรวดหรือต้นไม้ต้นเดียวก็เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลกับรูปแบบบ้านของราได้ อย่างบ้านหลังนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากต้น Banksia Integrifolia ที่เป็นไม้ยืนต้นท้องถิ่น ตอบสนองต่อความท้าทายในการใช้ชีวิตบนชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย Banksia House จึงเป็นบ้านที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม เน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลเอาใจใส่องค์ประกอบธรรมชาติที่อยู่มาก่อนแล้วปรับให้บ้านเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกับบริบท

ออกแบบ : Aphora Architecture
ภาพถ่าย : Andy Macpherson
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

บ้านหลังคาเฉียงสูงที่เห็นโดดเด่นมาแต่ไกลหลังนี้มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 320 ตร.ม. ร่างเริ่มต้นบนไซต์เป็นเพียงการออกแบบอาคารที่ไม่มีภาพต้นไม้อยู่ด้วย แต่เมื่อทีมงานเข้ามาศึกษาในพื้นที่จริงก็รู้สึกทึ่งกับ Banksia Integrifolia ไม้พื้นเมืองและความสามารถในการทนต่อสภาพชายฝั่งทะเลที่รุนแรงที่สุด เจริญเติบโตได้แม้ในดินคุณภาพต่ำและชนิดของดินปนทราย สามารถทนต่อไฟป่า และสามารถรับมือกับลมที่กัดกร่อนอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้กลายเป็นความสวยงามที่เข้ามาเติมความสมบูรณ์แบบให้บ้าน ด้วยเหตุนี้ตัวอาคารมีจิตสำนึกในการตอบสนองธรรมชาติ ผ่านการเลือกวัสดุก่อสร้างและตกแต่งที่ดูกลมกลืนกับต้นไม้ การจัดภูมิทัศน์ แม้แต่ประตูทางเข้ายังอยู่ระหว่างกลางต้นไม้ 2 ต้น

บ้านนี้มีทางเข้าสู่ตัวบ้านได้สองด้าน คือ ด้านที่ติดถนนด้านหน้าและด้านข้าง แต่มีสิ่งที่เหมือนกันคือ โถงทางเข้าจะมีลัษณะเป็นเหมือนปากถ้ำนำทางเข้าไป ดูลึกลับเป็นส่วนตัวจากถนนได้อย่างน่าสนใจ

รูปแบบบ้านที่สร้างขึ้นนั้นได้รับแรงผลักดันจากการตอบสนองต่อระบบนิเวศ หลังคาที่เฉียงสูงเหมือนใบมีดขนาดใหญ่ รองรับโครงสร้างในขณะเดียวกันก็ควบคุมทิศทางและกันลมชายฝั่งที่มีอยู่ทั่วไป การคำนวณส่วนชายคาที่มีความลึกมากกว่าปกติ ออกแบบด้วยการสร้างแบบจำลองทางเดินของดวงอาทิตย์ เพื่อระมัดระวังความร้อนในช่วงฤดูร้อน ผนังกั้นและพื้นที่ภายในจะได้รับแสงแดดยามเช้า ในขณะที่อุ่นในฤดูที่อากาศเย็น เพราะมวลความร้อนที่เกิดจากผนังบล็อคคอนกรีตและแผ่นพื้นที่ควบคุมอุณหภูมิให้อุ่นตลอดทั้งวัน

วัสดุต่างๆ ที่ใช้ประกอบเป็นตัวบ้าน เช่น ผนังบล็อกคอนกรีตเปลือยดิบ ๆ ไม้หุ้มผนังสีดำที่ไหม้เกรียม แผ่นทางเดินปูด้วยหิน และกระจก ถูกนำมาใช้งานร่วมกัน ไม่ใช่เพื่อสร้างความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมเท่านั้น แต่เพื่อสร้างผิวที่ทนทานต่อการกัดกร่อนให้กับอาคาร และลดความจำเป็นในการทาสีที่เป็นสารเคมี ทำให้มั่นใจว่าบ้านจะเต็มไปด้วยคุณภาพชีวิตที่ดี

แปลนรวมของอาคารได้รับการคิดอย่างรอบคอบและมีรายละเอียด เพื่อให้บ้านเก็บประโยชน์จากสภาพแวดล้อม ลม ฝน แสง และบริบทที่กว้างขึ้น โดยจัดบ้านลักษณะกลุ่มอาคารมีพื้นที่ว่างตรงกลางขนาดใหญ่เป็นคอร์ทยาร์ดสำหรับดักแสงธรรมชาติและลมเข้าสู่ตัวอาคารรอบ ๆ หลังคาเฉียงสูงระบายฝนได้เร็ว และเพิ่มช่องแสงในระดับสูงขึ้นอยู่ระหว่างผนังกับหลังคา เพื่อเพิ่มความเชื่อมโยงกับวิวให้สามารถมองเห็นรูปแบบสภาพอากาศ เวลา และสิ่งรอบตัวที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

แต่ละห้องในบ้านจะได้รับการออกแบบโดยมีหน้าต่างอย่างน้อย 2 บานที่อยู่ติดกัน ช่วยให้มีการระบายอากาศแบบไหลข้าม โดยให้ช่องเปิดลมเข้าใหญ่ช่องเปิดไหลออกเล็ก เพื่อให้อากาศเย็นกักเก็บวนในตัวบ้านก่อนระบายออก บ้านจึงเย็นสบาย อย่างไรก็ตามแม้จะเห็นว่าบ้านมีความโปร่งจากช่องเปิดที่ค่อนข้างมาทั่วบ้าน แต่ก็ยังมีความเป็นส่วนตัวด้วยการใส่โครงไม้ระแนงและตาข่ายกันแมลงช่วยให้บ้านสามารถ ‘หายใจ’ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเพิ่มความเชื่อมโยงกับวิวและบรรยากาาศของสถานที่ชายฝั่งทะเลได้ในทุกพื้นที่ไม่เว้นแม่แต่ในครัว

ห้องน้ำและห้องนอนยังคงเน้นคอนเซ็ปวัสดุง่าย ๆ ในโทนสีขาว เทา ตัดด้วยงานไม้ และมีช่องแสงสูง ๆ ติดกับหลังคา แต่ในห้องน้ำจะพิเศษขึ้นด้วยกระปูกระเบื้องหินขัดและกระบื้องซับเวย์ ที่ให้ความรู้สึกแบบบ้านเรโทร