บ้านทรอปิคอลพื้นถิ่นประยุกต์

ถ้าคุณกำลังจะสร้างบ้าน คุณมีเรื่องราวอะไรที่อยากจะเล่าไหม แน่นอนว่าบ้านคือสิ่งก่อสร้าง แต่จริงๆ แล้วตั้งแต่รั้วบ้าน หลังคา ประตู หน้าต่าง ทุกองค์ประกอบจะมีภาพในหัวที่ร้อยเรียงออกมาเป็นบ้านหลังหนึ่ง BMT House ก็มีวิธีการในการเล่าเรื่องราวของความทรงจำที่สวยงาม ของผู้เป็นเจ้าของที่เป็นคู่รักชาวเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นความรักที่มีต่อธรรมชาติและคุณค่าของวันวาน พวกเขาแบ่งปันเรื่องราวในวัยเด็กในบ้านที่เกิดและเติบโต ซึ่งเต็มไปด้วยความงามที่เรียบง่ายของบ้านหลังคามุงกระเบื้อง ที่ล้อมรอบด้วยสวนสีเขียวชอุ่มของเสียงนกร้องจิ๊บ ๆ แสนไพเราะ และกลมกลืนกับกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวในหน้าบ้าน

ออกแบบ : AD9 Architects, K.A Studio
ภาพถ่าย : Hiroyuki Oki
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านอยู่ในเขตเมืองใหม่ที่กำลังทางเหนือของเมืองบวนมาถวด ประเทศเวียดนาม สถาปนิกได้รับโจทย์เพื่อจัดสรรที่ดินเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีความราบเรียบดี (แม้จะตั้งอยู่ในที่ราบสูง) เป้าหมายหลักของเราคือการสร้างบ้านที่สอดคล้องสภาพอากาศในท้องถิ่น โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์และความคุ้นเคยของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้ และในขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดการค้นพบสิ่งใหม่ในทำงานออกแบบบ้าน จากการใส่ความทรงจำที่สวยงามของเจ้าของบ้านผสมผสานงานสถาปัตย์โมเดิร์น โดยออกแบบกลุ่มอาคารหลังคาจั่วแต่เอียงแบบองศาไม่เท่า วัสดุหลักเป็นงานไม้ คอนกรีต กระจก ในเส้นสายที่คมชัด

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ภาพ : โมเดลบ้านที่แสดงให้เห็นอาคารและรูปทรงของหลังคา

โครงสร้างหลังคาแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อม เราจะเห็นลักษณะหลังคาว่ามีความเฉียงจากต่ำไปสูง ความลาดชันที่นุ่มนวลและมีจังหวะที่ถูกตัดออก ทำให้ไม่รู้สึกว่าหลังคาสูงชัดมาก การวางรูปแบบหลังคาแบบนี้จะช่วยควบคุมการไหลของน้ำฝน และค่อยๆ ลดแสงแดดที่ส่องโดยตรงสู่พื้นที่ในร่ม เมื่อสังเกตจากระยะไกลจะเห็นว่าหลังคาสร้างจังหวะที่ทับซ้อนกันแต่มีความยืดหยุ่นสูง

จากความประทับใจที่ยังคงเห็นภาพชัดเจนต่อบ้านที่ล้อมด้วยธรรมชาติ หน้าบ้านจึงแบ่งพื้นที่ทำสวนขนาดใหญ่แบบไม่หวงเนื้อที่ แม้แต่หลังคาก็ยังต้องหลีกทางให้ต้นไม้โต โดยตัดหลังคาออกบางจุดเพื่อโอบล้อมคอร์ทยาร์ดเอาไว้ ในสวนตกแต่งด้วยพืชนานาพันธ์ุ เม็ดกรวด จำลองลำธารที่เคยเห็นและจำได้ดีในสมัยเด็กมาเก็บไว้ในรูปแบบสวนน้ำ ที่สร้างความคดเคี้ยวคล้ายๆ การเดินทางของสายน้ำในขนาดที่เล็กกว่า แต่ก็ยังนำเสนอความรู้สึกสดชื่นแบบที่ฝันถึงมาตลอดได้ดี เมื่อได้มานั่งอยู่บริเวณนี้ก็รู้สึกเหมือนอยู่ใจกลางธรรมชาติ แว่วเสียงนกน้อยแวะเวียนมาทักทายเบาๆ

ลักษณะภายนอกอาคารถูกสร้างขึ้นในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดฟังก์ชัน ช่องเปิด หรือแม้แต่รูปร่างของหลังคาที่สร้างความต่อเชื่อมจากอาคารชั้นเดียวหน้าบ้านเฉียงสูงขึ้นมาเป็นบ้านสองชั้น ที่มีขอบชายคาแบบ organic shape เป็นรูปทรงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติฟรีฟอร์มให้ความมีชีวิตชีวา

กิจกรรมประจำวันในบ้านหลังนี้ กระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ โดยมุ่งไปที่สวนหลัก ซึ่งเป็นเสมือนหัวใจของบ้าน ชั้นล่างประกอบด้วยห้องนั่งเล่นและห้องครัว เชื่อมต่อกันด้วยทางเดินคอนกรีตที่ยื่นออกไปลอยเหนือลำน้ำ พื้นที่พักผ่อนอยู่ด้านหลัง ทุกจุดมีช่องเปิดขนาดใหญ่ เช่น ประตูบานเฟี้ยมที่เก็บเข้าด้านข้างใด้หมด ทำให้ดูเหมือนไม่มีผนังบ้าน รายล้อมด้วยความเป็นส่วนตัวและเงียบสงบของสวน

ส่วนภายในมีพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนกลางแยกจากกันอย่างชัดเจนแต่นุ่มนวล ไม่ได้ก่อปิดทึบแยกออกเป็นห้องเล็กห้องน้อย เพราะสถาปนิกตั้งใจว่าแทบจะไม่ให้มีพรมแดนระหว่างห้อง จึงใช้ประตูกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่และประตูบานเฟี้ยมที่เก็บเข้าข้างผนังได้ เป็นตัวแบ่งขอบเขตใช้งานใสๆ ที่ทำให้ทุกส่วนของบ้านไม่ว่าจะเป็นบ้าน สวน ลำธาร มีความเชื่อมต่อกันไม่แยกส่วนและพึ่งพาอาศัยกันได้หมด

ชั้นบนจะเป็นโซนอ่านหนังสือและโฮมออฟฟิศ มีห้องนอน 2 ห้องเชื่อมกันด้วยพื้นที่กันชนจากต้นไม้สีเขียว วัสดุที่ใช้ยังคงล้อไปกับชั้นล่าง คือ เป็นคอนกรีตเปลือย ไม้ธรรมชาติ และหิน โทนสีแบบเอิร์ธโทนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและให้ความรู้สึกแบบท้องถิ่น แต่รับประกันความสะดวกสบายของไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ เพราะรอบด้านเต็มไปด้วยช่องว่างภายในและภายนอกซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มอากาศหมุนเวียนตามธรรมชาติ ให้ทั้งพื้นที่ปิดและเปิดสามารถใช้ประโยชน์จากธรรมชาติอย่างเต็มที่และรับแสงแดดและอากาศถ่ายเทได้ตลอดทั้งวัน

ในมุมหลังสือบิลท์ชั้นวางขนาดใหญ่บนผนัง แต่แบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งใส่ช่องแสง เป็นกระจกยาวตลอดแนวอาคาร เพื่อให้ส่วนนี้เต็มไปด้วยแสงที่เพียงพอสำหรับการอ่านหนังสือในช่วงกลางวัน และยังสามารถใช้ช่องกระจกนี้มองลอดผ่านลงไปเห็นสวนที่ชวนให้สดชื่น แม้จะอยู่บนชั้นสองของบ้านก็ไม่ถูกตัดขาดจากพื้นที่สีเขียวและแสงสว่าง

มิติของแสงเงาก็เป็นหนึ่งจุดสนใจที่พบได้ในบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการใส่ระแนงช่วยกรองแสง ในจุดที่บ้านยังต้องการแสงสำหรับชีวิตประจำวัน แต่ลดทอนความรุนแรงของแสงลง โดยเฉพาะบริเวณโถงทางเดินใกล้ๆ คอร์ทยาร์ทที่ชั้นบน จะมีโซนที่ติดตั้งวัสดุหลังคาโปร่งใสอยู่ เมื่อแสงลอดผ่านทำให้เกิดแสงและเงาตกกระทบที่ผนังและพื้น ซึ่งจะเปลี่ยนรูปร่างไปตามการเดินทางของแสงในแต่ละช่วงของวัน บ้านจึงเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา

บ้านหลังนี้เป็นตัวอย่างที่ดีว่า เราจะสามารถปกป้องและขยายจิตวิญญาณของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม ท่ามกลางจังหวะชีวิตในเมืองที่เร่งรีบและคึกคัก พร้อมกับเชื่อมโยงและเปลี่ยนแปลงสู่ปัจจุบันไปยังอนาคตได้อย่างไร ในพื้นที่นี้จะเป็นที่ที่ลูกๆ เติบโตไปพร้อมกับการหล่อเลี้ยงด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ และหล่อเลี้ยงความงามภายในจิตวิญญาณจากรุ่นสู่รุ่นต่อ ๆ ไป