บ้านรูปตัว U มีลานตรงกลาง

บ้าน เป็นผลงานทางสถาปัตยกรรมที่ไม่เพียงใช้เป็นที่อยู่อาศัย แต่ยังแสดงออกถึงภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่นที่บ่งบอกวิถีชีวิต สภาพแวดล้อม การแก้ปัญหา การปรับตัว เพื่อตอบสนองสภาพแวดล้อมและการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันไป สิ่งเหล่านี้อาจแสดงออกผ่านองค์ประกอบของบ้าน วัสดุที่ใช้สร้าง และรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ ที่บางอย่างก็ยังคงอยู่ตั้งแต่ครั้งอดีต และก็มีจำนวนไม่น้อยที่หายไปอย่างน่าเสียดาย สำหรับ Casa Roble เป็นผลงานการออกแบบบ้านในเม็กซิโก ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการกระจายพื้นที่และวัสดุของบ้านในสมัยก่อน พร้อมการกลับมาของ “ลานบ้าน” เพื่อใช้เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมสันทนาการและสังคม

ออกแบบ : Pothe.arquitectura
ภาพถ่าย : Ariadna Polo
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้าน 2 ชั้นพื้นที่ 200 ตารางเมตรนี้ สร้างอยู่ในเมืองซานติอาโก เดอ เกเรตาโร รัฐเกเรตาโร ประเทศเม็กซิโก สถาปนิกได้วางแผนให้บ้านดูสงบไม่ฉูดฉาด กลมกลืนกับบริบทธรรมชาติแวดล้อม เมื่อมองแวบแรก ดูเหมือนบ้านจะเรียบง่ายและปิดสนิท แต่เมื่อแวะใช้เวลาพิจารณารายละเอียดจะเห็นพื้นผิวอิฐดินเหนียวสีขาวที่เป็นตัวเอกของบ้าน ประตูที่เหมือนตาข่ายให้ประสบการณ์การมองเห็นที่แปลกใหม่สำหรับผู้ใช้ และให้ความเป็นส่วนตัวพร้อม ๆ กับเติมแสงให้กับบ้าน องค์ประกอบของวัสดุอิฐดินเผาสีเอิร์ธโทนนี้ยังหมุนรอบบ้านสร้างมุมมองภายในที่หลากหลาย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ลานบ้าน เป็นแนวคิดหลักของบ้าน จึงกลายเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบโครงการ แต่ทีมงานก็ต้องพบความท้าทายอยู่บ้าง คือ การทำลานบ้านจะใช้พื้นที่มากกว่าที่วางแผนไว้ เนื่องจากพื้นที่ทำงานไม่ใหญ่มากเพียง 10×19 ม. ลานบ้านจึงต้องขยายได้ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการแวะมาเยี่ยมเยียนและการเคลื่อนไหวของแขกจำนวนมาก จึงออกแบบบ้านเป็นรูปตัว U มีพื้นที่ว่างตรงกลางเชื่อมต่อจากประตูหน้าบ้านและลานจอดรถ โดยมีประตูบ้านที่เป็นบานเลื่อน บานหมุน ทำจากขนาดใหญ่เป็นองค์ประกอบที่ช่วยเปิดบ้านเชื่อมต่อสู่ลานทุกด้าน ทำให้ลานดูกว้างขึ้นอีกและการใช้งานภายนอกภายในทำได้อย่างยืดหยุ่น

ดินเหนียวบนผนัง คอนกรีตขัดมันบนพื้น และแผ่นหินสีชมพู เป็นวัสดุธรรมชาติจะทำให้บ้านมีอายุอย่างสง่างามเมื่อเวลาผ่านไป ช่วยให้มองเห็นประวัติศาสตร์ของการอยู่อาศัยได้อย่างชัดเจน ทำให้ “คาซ่าโรเบิล” ถูกมองว่าเป็นงานฝีมือทางสถาปัตยกรรมให้อยู่อาศัยได้อย่างคล่องตัว พร้อมพื้นที่จัดกิจกรรมที่สอดรับกับลไฟ์สไตล์ใหม่ๆ แต่มีกลิ่นอายของกาลเวลาอยู่ในนี้

พื้นที่ทางสังคมถูกจัดมัดรวมกันเอาไว้ในชั้นล่าง ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว ซึ่งขนาบข้างด้วยสวนและลานเป็นพื้นที่กลางแจ้งทั้งสองด้าน วิธีนี้จะช่วยให้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันได้แบบลื่นไหล โดยมีหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่วิ่งไปตามด้านข้าง เพื่อให้อากาศหมุนเวียนและแสงแดดส่องเข้ามา ประตูที่เปิดกว้างและมีความใส เบลอขอบเขตให้พื้นที่กลายเป็นหนึ่งเดียว ผสมผสานสภาพแวดล้อมทั้งหมดเข้าด้วยกัน เสมือนได้อยู่ในพื้นที่โล่งภายนอกบ้านแต่ว่าจริง ๆ แล้วอยู่ภายในบ้าน

การใช้ไม้เป็นสิ่งจำเป็นในการทำให้บ้านดูอบอุ่นขึ้น ไม่เพียงแต่รู้สึกได้ทางสายตาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสัมผัสด้วย นอกจากนี้ยังสร้างคอนทราสต์กับคอนกรีตสีเทาเรียบ ๆ เย็น ๆ และกรอบบ้านสีดำที่คมชัดทันสมัย

ชั้นที่สองคือพื้นที่ส่วนตัว มีโถงทางเดินไปห้องสำหรับทำงานอ่านหนังสือ และห้องนอน 3 ห้อง พื้นที่ทั้งหมดหมุนเวียนเข้าถึงกันได้หมดและมีผนังเป็นระจกปิดรับแสงธรรมชาติและลมได้ ในห้องนอนหลักเปิดออกสู่วิวลาน เฉลียง และยอดไม้ตรงกลาง ทำให้บ้านมีส่วนร่วมกับธรรมชาติได้จากทุกจุด อย่างไรก็ตามนักออกแบบไม่ได้ปล่อยให้ผนังโล่งมองเห็นทะลุแบบไม่มีปราการป้องกัน หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่ามีฟาซาดกรอบเหล็กติดตั้งแผ่นอิฐดินเผาอยู่ด้านนอก ฟาซาดนี้สามารถเลื่อนได้ ใช้บังแสงแดดและปิดบังสายตาจากภาพนอกเมื่อต้องการได้ตามใจ

บ้านดูร่วมสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายความเป็นพื้นถิ่นจากวัสดุบ้านๆ ที่ใช้เคยในพื้นที่เม็กซิกัน ไม่ว่าจะเป็นลานบ้านเป็นหินปูหินสีชมพูตามแบบฉบับของภูมิภาคที่นิยมใช้ปูพื้น แผ่นอิฐจากดินเหนียว ไม้ เป็นวัสดุที่เลียนแบบลานบ้านดั้งเดิมอย่างชัดเจน วัสดุเหล่านี้มีลักษณะเฉพาะก่อให้เกิดความงามที่ลึกล้ำ มีความสง่างามบนความไม่สมบูรณ์