เมนู

บ้านเปิดผนังและหลังคาได้ ตอบโจทย์ชีวิตอย่างตรงไปตรงมา

บ้านตึกในเมือง

บ้านตึกที่แตกต่าง

“ผนังก่อทึบปิดป้องกันแดดฝน หลังคาจะมีช่องว่างรูโหว่ไม่ได้” นิยามของบ้านที่ต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ บางครั้งก็อาจจะเก่าไปไม่ทันต่อสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลง ดังนั้น “การปรับตัว” ของดีไซน์และฟังก์ชันในการออกแบบบ้านจึงสำคัญ เหมือนเช่นบ้านนี้ในเวียดนามเป็นตึกหลายชั้นที่ผนังมีเปลือกทำช่องว่างเล็ก ๆ ให้บ้านได้ระบายหายใจ เลือกเปิดปิดได้ตามใจถึงปิดหน้าต่างให้เป็นก็ยังรับแสงได้ ส่วนหลังคาท้าทายรูปแบบเก่า ๆ ด้วยการออกแบบให้เปิดออกเป็นจุดชมวิวได้ เป็นทางเลือกบ้านใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความซับซ้อนของการใช้ชีวิตและสภาพอากาศได้ดี

ออกแบบToob Studio
เนื้อหาบ้านไอเดีย

บ้านตึกหัวมุมที่มีฟังก์ชันน่าสนุก

บ้านหลังนี้เป็นทาวน์เฮาส์ 5 ชั้น สร้างขึ้นในปี 2000 บริเวณหัวมุมสี่แยกที่มีชีวิตชีวาของฮานอย มุมถนนเป็นจุดการแลกเปลี่ยนระหว่างการเดินทาง มีควันมีเสียงยวดยานที่รบกวนการใช้ชีวิตภายในพอสมควร ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากถูกตัดขาดจากความเคลื่อนไหวภายนอกเสีทีเดียว สถาปนิกจึงต้องปรับปรุงสถาปัตยกรรมด้วยรูปทรงที่เรียบง่ายและยืดหยุ่น โดยคงรายละเอียดแบบดั้งเดิม เช่น บานประตูหน้าต่าง หลังคากระเบื้องมารวมเข้ากับพื้นที่สมัยใหม่ สร้างการรับรู้ที่แตกต่างกันจากหลาย ๆ มุม ในขณะที่สามารถเลือกปิดบ้านหรือเปิดรับบรรยากาศความพลุกพล่านที่เป็นธรรมชาติของที่นี่ได้

บ้านตึกหลังมุม

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

กันสาดขนาดใหญ่หน้าบ้าน

ต้อนรับการกลับบ้านด้วยลานกรวดเล็ก ๆ และม้านั่งไม้ตัวยาว รอบ ๆ บ้านมีต้นไม้เขียว ๆ ร่มรื่นสดชื่นจนลืมไปว่าที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของเมืองใหญ่ ตัวบ้านที่ขยับลึกเข้าไปทำให้เกิดพื้นที่ว่างด้านหน้าที่ช่วยเป็นกันชนเพิ่มความลปอดภัยให้บ้านที่เต็มไปด้วยความพลุกพล่านไปด้วยในตัว

ผนังเปิดได้

ผนังที่เลือกระดับความเป็นส่วนตัวได้

โดยปกติผนังด้านนอกทำหน้าที่เป็นขอบเขตป้องกันความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย จึงมักจะก่อปิดทึบใส่เพียงประตูหน้าต่างเป็นช่องแสงช่องลม แต่บ้านยังต้องการแสง ลม และการเชื่อมต่อกับภายนอก สถาปนิกจึงปรับฟังก์ชันผนังมาเป็นผนัง 2 ชั้น มีฟาซาดและบานหน้าต่างชั้นนอกที่มีช่องว่างเล็ก ๆ อนุญาตให้แสง ลม และเสียงยังคงผ่านได้ ขยับเข้าไปจะเป็นผนังกระจกอีกหนึ่งชั้น ด้วยวิธีนี้ผู้อยู่อาศัยจึงสามารถรักษาความสัมพันธ์ระหว่างภายในและภายนอกบ้านได้ตามใจ หากต้องการเปิดรับลมรับวิวก็ขยับฟาซาดและบานกระจกให้เปิดกว้าง เมื่อต้องการแต่แสงไม่ต้องการลมเพราะกังวลเรื่องฝุ่นก็เปิดแต่ฟาซาด ในเวลาต้องการความสงบเป็นส่วนตัวก็ปิดบานทั้งหมด ก่อให้เกิดความหลากหลายและเอกลักษณ์ที่มีชีวิตชีวาของบ้าน

เสาบ้านเจาะช่องเปิดได้

มุมพักผ่อนตกแต่งไม้

การตกแต่งภายในเน้นความโปร่งโล่ง ด้วยการจัดแปลนแบบ open plan ลดผนังที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานออก เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่แต่ละชั้นให้กลายเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ สามารถรับแสงจากผนังด้านข้างและลมเข้ามาเติมความสบายภายในโดยไม่มีผนังทึบเป็นอุปสรรค

แปลนบ้านแบบ open plan

เพิ่มความโปร่งโล่งภายใน

บันไดของอาคารจะถูกจัดไว้ด้านข้างในลักษณะเป็นบันไดที่วนขึ้นไป เพื่อไม่ให้กินพื้นที่กลางอาคาร ดีไซน์บันไดเป็นแผ่นไม้ที่ไม่มีลูกตั้งสไตล์โมเดิร์นที่เอื้อให้แสงและลมเดินทางลอดผ่านช่องว่างเหล่านั้นได้ รอบ ๆ บันไดติดวัสดุกระจก ไม่ว่าจะเป็นผนังหรือแผงกันตก เพื่อให้ความใสลดอุปสรรคทางสายตาทำให้มองเห็นทะลุได้ จึงไม่รู้สึกว่าแต่ละชั้นถูกตัดขาดออกจากกัน และทำให้แสงกระจายได้ดีขึ้น ซึ่งจุดนี้แก้ปัญหาการขาดแสงและการสื่อสารระหว่างชั้นของบ้านตึกหลายชั้นได้เป็นอย่างดี

โถงสูงตรงบันได

ฟาซาดเปิดชนมุม

ผนังและหลังคาที่หายใจได้

ผนังกระจกชนมุมเพื่อมุมมองออกไปภายนอกโดยไม่มีเสากั้นกลาง ทำให้มองเห็นวิวทั้งสองด้านเชื่อมต่อกัน จากมุมนี้จะเห็นว่าหน้าต่างมี 2 ชั้น คือชั้นในเป็นบานกระจก เปลือกด้านนอกเป็นบานแผ่นเหล็กปั๊มรูกลมที่ทำหน้าที่หลายอย่าง ทั้งปกป้องตัวบ้านจากแสง ให้ความเป็นส่วนตัว และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผนัง สามารถเลือกฟังก์ชันได้ตามเหมาะสมกับสถานการณ์

มุมทำงานและซ้อมดนตรี

ด้านหน้าของอาคารบริเวณชั้นบน จะมีส่วนที่เป็นฟาซาดบานไม้เกล็ดรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูง ๆ เรียงกันหลายบาน ที่ทำหน้าที่เดียวกับบานเหล็กปั๊มรูกลม ทำให้บ้านเปิดรับลมหายใจได้ ไม่เหมือนบ้านตึกที่ก่อปิดทึบแบบเดิม ๆ

ห้องนอน

บันไดลอยตัว

ผนังบ้านเปิดได้

นอกจากผนังที่เปิดออกได้ตามสถานการณ์แล้ว ที่นี่ยังสร้างความเแปลกใหม่ด้วยการทำระบบหลังคาแบบเปิด-ปิดได้ เพื่อให้บ้านระบายอากาศร้อนออกจากบ้านได้มากอย่างที่ต้องการ และยังใช้จุดนี้เป็นเสมือนจุดสังเกตการณ์สำหรับชมวิวเมือง ทำให้บ้านน่าสนุกกว่าการอาศัยอยู่ในกรอบกล่องสูงแบบเดิม ๆ

หลังคาเปิดออกได้

บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย :  ในอาคารหลายชั้น การจัดการเรื่องแสงและการระบายอากาศเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับบ้านที่ผนังติด ๆ กันแบบตึกแถวมักจะมีปัญหาเรื่องการขาดแสงกลางอาคาร อาจจะปรับแก้ส่วนนี้ด้วยการ เจาะพื้นเพดานระหว่างชั้นออกบางส่วน แล้วใส่ช่องแสง skylight  เพื่อรับแสงตรง ๆ จากด้านบน การเปิดผนังหลาย ๆ ส่วน (ที่ไม่ติดกับอาคารอื่น) แล้วเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่ให้ความยืดหยุ่นในการรับแสง ลม มากขึ้น จะเป็นอีกวิธีที่ช่วยทำให้สุขอนามัยในอาคารดีขึ้น

แปลนบ้าน

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด แบบบ้าน


โพสต์ล่าสุด