บ้านเขตร้อนสูงหลายชั้นเย็นสบาย

คุณเชื่อเรื่องศาสตร์ฮวงจุ้ยหรือไม่ คำถามนี้อาจมีทั้งคนเชื่อและคนที่เห็นว่างมงาย แต่ทราบหรือไม่ว่าอันที่จริงแล้วเรื่องฮวงจุ้ยนั้นไม่ได้เน้นการติดตั้งสิ่งของแก้เคล็ด หรือจัดที่ทางให้รับทรัพย์ร่ำรวยแต่อย่างใด แต่เป็นศาสตร์ที่ให้ความสำคัญกับสภาวะแวดล้อม หรือการอยู่อาศัยให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทั้งแม่น้ำ ภูเขา ต้นไม้ ซึ่งมีส่วนทำให้บ้านมีสภาวะสบาย ไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้นที่เราจะเห็นซินแสปรับฮวงจุ้ยเกิดขึ้นมากมาย ในเวียดนามก็มีศาสตร์นี้แพร่หลายไปพร้อมกับการออกแบบบ้านเช่นกัน บ้านในบทความนี้ก็เป็นตัวอย่างที่น่าประทับใจด้วยภาพลักษณ์ที่เรียบง่าย เงียบสงบ และใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ยังคงเน้นความทันสมัยและยึดหลักฮวงจุ้ยตามแบบฉบับของชาวเวียดนาม

ออกแบบ : H.a Architects
ภาพถ่าย : Quang Dam
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านนี้ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของ นครโฮจิมินห์ โครงการนี้มีบริบทแวดล้อมดี ๆ หลายประการ เช่น พื้นที่เพียงพอสำหรับใช้งานได้อย่างเหมาะสม หน้าบ้านติดแม่น้ำทำให้มีพื้นที่ใช้สอยที่สดชื่นและมีวิวในอุดมคติ แม้ว่าในระหว่างการออกแบบและก่อสร้าง ทีมงานต้องพบกับความยากลำบากมากมายจากผลกระทบของ COVID-19 และงบประมาณที่ลดลง แต่ก็ยังมั่นใจในคุณภาพของโครงการ โดยเฉพาะเจ้าของบ้านให้ความสำคัญกับเรื่องฮวงจุ้ย ทีมสถาปนิกต้องปรึกษาหารือกันอย่างละเอียดถี่ถ้วนและใช้เวลานานในการเสนอแบบที่เหมาะสม ออกมาเป็นบ้านมีพื้นที่ 7×20 ม. พอเหมาะกับการจัดห้องตามความต้องการของเจ้าของบ้าน

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

แม้ศาสตร์การออกแบบจะมีพื้นฐานทางวิทยากศาสตร์เป็นหลัก แต่ในทางกลับกัน ก็ยังมีเจ้าของบ้านและนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ความสำคัญกับฮวงจุ้ยมาก ซึ่งสถาปนิกต้องดำเนินการภายในพื้นที่ใช้สอยให้เป็นไปตามหลักฮวงจุ้ยที่กำหนด เช่น ห้องนอน ห้องพักผ่อน ตู้เสื้อผ้า ต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เป็นต้น ด้วยโครงสร้างของบ้านที่ค่อนข้างหน้าแคบ จึงต้องขยายพื้นที่ขึ้นในแนวตั้ง ประกอบด้วย ชั้นใต้ดิน ชั้นล่าง ชั้นบน 2 ชั้น และชั้นดาดฟ้า พร้อมโรงจอดรถ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องนอน 4 ห้อง โดยที่มีรั้วบ้านเปิดรับวิวแม่น้ำหน้าบ้าน

ตัวบ้านได้รับการออกแบบให้มีช่องรับแสงขนาดใหญ่โดยรอบ ฟังก์ชั่นด้านหน้าและด้านหลังเชื่อมกันด้วยบันไดและระเบียงไม้ บ้านอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้โดยตรง จึงสามารถหลบแดดร้อนในวันที่แดดจ้าได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำลมธรรมชาติเข้าสู่ห้องนอนและห้องนั่งเล่นผ่านช่องรับแสงและหน้าต่างบานใหญ่ จากห้องครัวสามารถมองตรงไปยังแม่น้ำได้อีก บรรยากาศของบ้านจึงสบายและโปร่ง จนลืมไปเลยว่าสองข้างของบ้านเป็นคอนกรีตทึบๆ

สำหรับวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งบ้าน พื้นและผนังปูด้วยหินเจียรให้ความรู้สึกสดชื่น เพดานซีเมนต์ให่อารมณ์แบบชนบท และการตกแต่งภายในด้วยไม้วอลนัทสร้างความรู้สึกอบอุ่น ใกล้ชิด แต่ยังคงความหรูหราเล็ก ๆ จากงานหนังและหินอ่อนที่เข้ามาผสมผสาน

ลึกเข้ามาภายใน จะเห็นว่าพื้นที่ใช้งานถูกจัดวางรอบช่องแสงขนาดใหญ่ ที่สถาปนิกตั้งใจลดพื้นที่เพดานและพื้น เพื่อให้เกิดที่ว่างลดข้อจำกัดเรื่องการกระจายของแสงและระบบการไหลเวียนอากาศภายในของอาคารสูง ที่มักเทพื้นเพดานปิดทุกชั้นออกจากกัน ด้วยวิธีการนี้ทำให้เกิดโถงสูงหลายชั้นในบ้าน เหนือสุดบนหลังคาใส่ช่องแสง skylight ตรงกับจุดนี้ทำให้แสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านได้จากด้านบน ข้างพื้นที่ว่างยังทำเป็นห้องนอนผนังกระจกซ้อนกันขึ้นไป มองดูไกลๆ เหมือนห้องกำลังลอยตัวอยู่อย่างน่าสนใจ

จากห้องนอนข้างบนจะมองเห็นพื้นที่ใช้ชีวิตข้างล่าง และสามารถมองเห็นเลยออกไปจนถึงทางเข้าหน้าบ้าน ฝั่งตรงกันข้ามเป็นห้องทำงานที่เป็นผนังกระจกเช่นกัน จึงรู้สึกถึงความเชื่อมต่อถึงกันและกันได้ ส่วนห้องทำงานก็ชวนให้เพลิดเพลินกับวิวน้ำและต้นไม้ สร้างสมาธิในการทำงานได้อย่างดี

ห้องนอนใหญ่อีกห้องหนึ่ง ออกแบบเตียงเป็น Floor bed ทำฐานเป็นเหมือนแท่นขนาดใหญ่ แล้ววางฟูกขนาด 6 ฟุตลงไป เป็นจุดที่สะท้อนวัฒนธรรมการนอนของชาวเอเชียสมัยก่อนที่นิยมนอนกับพื้นหรือฟูกก่อนที่เตียงจะแพร่หลาย

เมื่อยามค่ำมาเยือน ดวงไฟตกแต่งบ้านที่เปิดพร้อมๆ กัน ทำให้ผนังบ้านที่เป็นปูนเปลือยขัดมันดูมีมิติขึ้น บริเวณสวนนอกบ้านก็สว่างไสวสวยงามด้วยสีของแสงตามจุดต่างๆ ให้ความรู้สึกที่ต่างจากช่วงกลางวันอย่างสิ้นเชิง