
บ้านฟาซาดไม้
ถ้าถามว่าวัสดุในการสร้างบ้าน อะไรที่ดูแตกต่างกันที่สุดทั้งผิวสัมผัส ความรู้สึก และคุณสมบัติ แต่เมื่อเอามาวางอยู่รวมกันแล้วไปกันได้ดีที่สุด หนึ่งคำตอบนั้น ก็คงจะมีคอนกรีตและไม้อยู่ด้วย เพราะทั้งสองอย่างมีสิ่งที่ต่างกันสุดขั้วอย่างที่โจทย์ถาม คอนกรีตที่เนื้อสัมผัสขรุขระ สีเทา ให้ความรู้สึกหนัก แข็ง และเย็นชืด ส่วนไม้นั้นเป็นวัสดุธรรมชาติที่มีสีหลากเฉดจากอ่อนไปถึงเข้ม มีลวดลายสวยงาม ให้ความรู้สึกอบอุ่นและนุ่มนวล เมื่อนำวัสดุทั้งสองชนิดมาประสานรวมกันเป็นบ้านกลับทำให้เกิดความสมดุลย์อย่างน่ามอง เหมือนอย่างบ้านโมเดิร์นหลังนี้ในประเทสบราซิล ที่โครงสร้างหลักเป็นคอนกรีตโอบทับด้วยฟาซาดไม้ บ้านจึงดูแข็งแรงแต่เป็นมิตร
ออกแบบ : Jobimcarlevaro
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขนาดใหญ่
Bravos House ออกแบบขึ้นในปี 2013 เริ่มก่อสร้างในปีเดียวกัน และเพิ่งเสร็จออกสู่สายตาในปีค. ศ. 2015 ตั้งอยู่ที่ Brava Beach เมือง Itajaí ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศบราซิล พื้นที่ใช้งานทั้งหมด 937 ตารางเมตร เป็นอาคาร 3 ชั้น ตัวบ้านสร้างด้วยวัสดุหลักคือคอนกรีตและไม้ ส่วนที่ให้วิวสวยที่สุดของบ้านอยู่ด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นที่ตั้งของชายหาด Costa Brava จึงจัดให้มีบริเวณที่นั่งเล่นอยู่ชั้นกลางให้เห็นวิว ห้องนอนชั้นบนสุด และโรงรถอยู่บริเวณชั้นใต้ดิน ทั่วบริเวณมีพื้นที่สีเขียวอยู่รอบ ๆ ทางเข้าสู่ตัวบ้านทำได้สองทางคือ ขึ้นจากโรงรถ และบันไดคอนกรีตที่เชื่อมพื้นที่ตั้งแต่สวนหน้าบ้านขึ้นไป
สระน้ำตั้งอยู่บนชั้นสอง ซึ่งเป็นส่วนขยายของพื้นที่รับแขกและพื้นที่ทานอาหารออกมากลางแจ้ง ช่วยให้พื้นที่บ้านมีความเป็นกันเอง ในขณะเดียวกันก็เป็นผลดีต่อการจัดภูมิทัศน์ให้กับบ้าน ตัวบ้านจึงครบมีทั้งความแข็งกระด้าง อ่อนโยน และพริ้วไหว ในจุดนี้สถาปนิกติดแผงไม้กันแดดที่เรียงตัวในแนวตั้ง ซึ่งสามารถหมุนเปิดหรือปิดเพื่อความเป็นส่วนตัวขณะที่กำลังเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งในบ้าน จึงไม่ต้องกังวลกับสายตาบุคคลภายนอก
บ้านนี้โดดเด่นที่การออกแบบตัวบ้าน และการผสมผสานวัสดุให้ออกมาสมดุลย์ ตัวอาคารที่มีโครงสร้างหลักเป็นคอนกรีตที่ดูแข็ง เรียบ นิ่ง ถูกลดความกระด้างลงด้วยงานไม้ที่โอบคลุมบ้านอยู่โดยรอบ Facade ไม้นี้เป็นมากกว่าเปลือกบ้าน เพราะช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้บ้านขึ้นอีกระดับ สถาปนิกออกแบบให้มีลักษณะปิด แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเปิดให้เกิดช่องว่างได้ เพื่อให้บ้านได้รับลมและแสงสว่างลอดเข้ามาได้สะดวก ที่นี่ใช้ไม้เนื้อแข็งพื้นเมืองสีน้ำตาลเข้มเป็นปราการให้บ้าน เพราะมีคุณสมบัติที่ทนกับสภาพอากาศเอาท์ดอร์ได้ดี
แสงที่ลอดผ่านระหว่างแผ่นไม้ จะทำให้เกิดเงาตกกระทบบนพื้นผิว ซึ่งอาจจะเปลี่ยนรูปร่างไปตามการหักเหของแสง เป็นเสน่ห์และลูกเล่นที่ทำให้บ้านสนุกกับมิติของแสงและเงา
บ้านโชว์ผนังคอนกรีตดิบ ๆ แม้จะไม่ทาสีและไม่ฉาบทับแต่ก็เปล่งประกายความสวยงามของเนื้อวัสดุ ในอดีตร่องรอยของฟองอากาศ เส้นกริดไลน์ รูน็อต เคยเป็นข้อด้อยที่ต้องกลบทับ แต่ถ้ามองดูด้วยสายตาที่กำลังมองเห็นธรรมชาติของวัสดุก็จะกลับกลายเป็นจุดเด่นขึ้นมาทันที
บ้านคอนกรีตจะดูไม่เย็นชาและกระด้างเกินไป ก็ต้องเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นด้วยงานไม้ ซึ่งวัสดุทั้งสองนี้ต่างกันสุดขั้ว แต่เมื่อนำมารวมตัวกลับส่งเสริมกันและกันได้ดี ของตกแต่งในบ้านก็สำคัญเช่นกัน ที่นี่เลือกใช้โต๊ะแบบล้อเข็นใส่ของเป็นช่อง ๆ ดูน่ารักปนคลาสสิค ผนังบ้านติดชั้นวางของลอยตัวทำจากไม้สีเรียบ ๆ ชุดเดียวก็ช่วยเติมบรรยากาศที่ทั้งน่ารัก เรียบ แต่มีสไตล์ให้บ้าน
การออกแบบที่คิดเอาไว้ตั้งแต่แรกว่าต้องการเบลอของเขตระหว่างพื้นที่ใช้งานภายในและภายนอกบ้าน ทำให้สถาปนิกเลือกใช้วัสดุโปร่งใสอย่างกระจกเข้ามาเป็นตัวช่วยในการลบขอบเขตของสองพื้นที่ ให้เชื่อมต่อภายใน-ภายนอกได้สนิท เมื่อก้าวออกจากห้องนั่งเล่นเพียง 2-3 ก้าวก็จะออกมาสู่ชานที่ติดกับสระว่ายน้ำ วางเบาพรองนั่งตัวหนานุ่มเพื่อย้ำความรู้สึกนุ่มนวลให้กับพื้นที่ ลดความแข็งของอาคารคอนกรีตได้ดี