บ้านโมเดิร์นโครงสร้างเหล็กและคอนกรีต

ในโลกที่แทบทุกอย่างในรอบตัวต่างก็ถูกตีความหาความหมายใหม่ ๆ บ้านก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ผู้คนมองเข้าไปด้วยคำถามมากมาย จากเดิมที่เป็นสิ่งก่อสร้างเพื่อหลบแดดฝน พักอาศัย ก็ถูกใส่ความคิดหาสิ่งที่คาดหวังจะเห็นข้างใน เพื่อให้บ้านที่ตอบทุกโจทย์ที่ผู้อยู่อาศัยต้องการ บ้านโมเดิร์นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ประกอบด้วย คอนกรีตและเหล็ก ได้รับการตีความใหม่โดยโอบกอดลักษณะเฉพาะของพื้นที่เอาไว้อย่างเข้าใจ สำหรับโครงการนี้แรงบันดาลใจคือ กลับไปที่แก่นแท้ของบ้าน พร้อมๆ กับยกระดับศักยภาพของที่ดินสู่สถานะการเป็นศิลปะของการอยู่อาศัย

ออกแบบ : Stemmer Rodrigues
ภาพถ่าย : Gabriel Konrath
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านโมเดิร์นกลมกลืนภูมิทัศน์

Casa Frame (Frame House) เป็นชื่อโครงการบ้านที่ตั้งอยู่ใน Novo Hamburgo ประเทศบราซิล สถาปนิกออกแบบด้วยความเคารพในสภาพภูมิประเทศที่ไม่ราบเรียบ เต็มไปด้วยก้อนหินขนาดใหญ่ แล้วมองหาวิธีการสร้างบ้านทันสมัยที่สวยงาม รวมพื้นที่ภายในกับภายนอกเข้าด้วยกันด้วยความกลมกลืนระหว่างการก่อสร้างและภูมิทัศน์ วัสดุที่ใช้เป็นโครงสร้างเหล็กที่เอื้อต่อการทำคานยื่นยาวและก่อสร้างได้ง่ายบนพื้นที่ที่เป็นเนิน สลับกับผนังกระจก คอนกรีต และไม้ที่มารวมกันอย่างมีสไตล์ในจุดเดียว

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ตัวอาคารเป็น 2 ชั้น โดยส่วนพื้นดินที่อยู่ระดับล่างมีโรงจอดรถและทางเข้า ที่โชว์แผ่นคอนกรีตดิบ ๆ ทั้งพื้นและเพดานที่เห็นแนวแม่แบบเป็นริ้วลายแบบไม่ฉาบทับ รอบ ๆ เปิดโล่งให้เห็นแนวก้อนหิน สวน ต้นไม้ที่แทรกแซม ช่วยลดทอนความรู้สึกแข็งกระด้างของวัสดุได้ดี ต้อนรับการเข้ามาด้วยบรรยากาศของธรรมชาติ

ยกบ้านเหนือเนิน ได้มุมมองเพลิน ๆ เพิ่มขึ้น

พื้นที่ใช้สอยหลักถูกยกขึ้นเหนือเนินดินด้วยเสาเหล็กหันหน้าไปทางทิศใต้ แทนที่จะปรับหน้าดินให้ราบเรียบเสมอกัน แล้วจัดระเบียงโล่ง ๆ ขยายต่อออกมาจากห้องนั่งเล่นผนังกระจก เชื่อมพื้นที่พักผ่อนรอบ ๆ บ้าน เจ้าของบ้านชื่นชอบการออกแบบนี้ เพราะนอกจากช่วยกระตุ้นการมีปฏิสัมพันธ์กับธรรมชาติ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านแล้ว ยังทำให้มั่นใจได้ว่าพื้นที่หลักของบ้านจะได้รับมุมมองที่ดีที่สุด เป็นการแก้ปัญหาเรื่องความไม่สม่ำเสมอของพื้นที่ได้อย่างชาญฉลาก

ผนังบ้านที่เป็นกระจกบนชั้นสองทำให้ห้องส่วนนั้นรับแสงได้ดี จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการสร้างฉากกั้นกรองแสง แต่หากติดตั้งแบบติดตายก็จะไม่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน นักออกแบบจึงออกแบบให้ฟาซาดเป็นบานไม้ระแนงที่สามารถเลื่อนไปมาได้ ไม่ว่าแสงจะส่องมาต้องตรงกับบริเวณไหนก็ไม่เป็นปัญหา จุดนี้แสดงให้เห็นถึงการจัดการอย่างเข้าใจและสอดคล้องกับสภาพภูมิอากาศ

แทรกธรรมชาติบ้านผ่อนคลาย

อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่น คือ การจัดภูมิทัศน์ของบ้านที่พยายามสอดแทรกธรรมชาติเข้าไปในทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นโรงจอดรถ ที่ว่างชั้นล่าง หรือแม้แต่บริเวณลานบนดาดฟ้ายังเป็นธรรมชาติด้วยการจัดสวนกรวด ปลูกพืชพันธุ์พื้นเมืองให้ความรู้สึกปลอดโปร่งและความรู้สึกสงบสบายในแบบเซนปนกับความสดชื่นมีชีวิตชีวาสไตล์ทรอปิคอล

มุมนั่งเล่นเอาท์ดอร์แขวนเปลชิงช้าเบาะหนานุ่มเอาไว้ที่ระเบียง เชิญชวนให้ออกจากอาคารมาเอนกายสบาย ๆ ในช่วงบ่ายชมวิว มองท้องฟ้า และใคร่ครวญถึงเรื่องราวชีวิตที่ผ่านไปในแต่ละวัน

ไม่มีขีดจำกัดของภายนอกภายใน

คำจำกัดความของคำว่า “ภายใน” และ “ภายนอก” มีผนังเป็นตัวแบ่งขอบเขตที่ชัดเจน แต่ด้วยแนวคิดที่สถาปนิกต้องการหลอมรวมสิ่งที่อยู่ภายในกับสิ่งที่อยู่ภายนอกเข้าไว้ด้วยกัน จึงต้องขจัดอุปสรรคมุมมองทางสายตาให้เกิดความเป็นอิสระมากขึ้นด้วยการลดผนังทึบลง แล้วเพิ่มผนังกระจกใสที่ช่วยเบลอขอบเขตทั้งสองเข้าไว้ด้วยกัน นี่คือความตั้งใจกระตุ้นให้เกิดมุมมองที่แตกต่างกันว่าการพักผ่อนคืออะไร ผู้อยู่อาศัยควรต้องได้รับอะไรบ้าง ผลจึงออกมาเป็นบ้านที่เต็มไปด้วยที่ว่างและพื้นที่นั่งเล่นโปร่งสบายขนาดใหญ่

ห้องครัวยังคงคอนเซ็ปความโปร่งโล่งด้วยการติดผนังกระจกรอบบริเวณ ทุกครั้งที่เข้ามาทำครัวจะได้รับทัศนียภาพธรรมชาติรอบตัวไปพร้อม ๆ กัน สร้างความสุนทรีให้เกิดขึ้นทุกครั้งที่สะบัดตะหลิว สำหรับการตกแต่งผสมผสานความโมเดิร์นเรียบง่ายเข้ากับความรู้สึกอบอุ่นเป็นธรรมชาติ โดยใช้วัสดุปิดผิวเคาน์เตอร์ครัวและไอส์แลนด์สีส้มอมน้ำตาลแทนงานอิฐ และสีฟ้าแทนความหมายของท้องฟ้า เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับบ้านแต่ไม่ฉูดฉาด

พื้นที่ห้องซักรีดกว้างขวางและได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี ด้วยการตกแต่งผนังด้านหนึ่งเป็นหน้าต่างทั้งหมด ทำให้มีแสงแดดส่องถึงและให้ความรู้สึกโล่งกว้างของสเปซเล็ก ๆ นอกจากนี้ยังกรุท็อปเคาน์เตอร์และผนังด้วยพื้นผิวเซรามิกสีน้ำเงิน – เทาที่เก๋ไก๋ มีตู้เก็บของและชั้นวางของมากมายเพื่อจัดเก็บสิ่งที่ใช้ในการซักรีดทั้งหมด ห้องนี้จึงเต็มไปด้วยความสวยงามพร้อมๆ กับตอบโจทย์สิ่งที่จำเป็นต่อบ้าน