เลือกรางน้ำฝนให้บ้าน
“เป็นปกติของมนุษย์เรา มักคิดถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใดเมื่อถึงเวลาจำเป็น” เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หลายบ้านที่ไม่มีรางน้ำฝนต้องเผชิญหน้ากับปัญหาปริมาณน้ำฝนไหลลงจากหลังคา ส่งผลให้พื้นดิน พื้นสวนบริเวณดังกล่าวเกิดการทรุดตัวลง ผนังบ้านที่เคยสวยงามเต็มไปด้วยคราบสกปรก เกิดราดำ วงกบหน้าต่างผุพัง ปิดไม่สนิทเนื่องด้วยอาการบวมน้ำ ยิ่งหากบ้านไหนต่อเติมกระทั่งชิดรั้ว น้ำฝนจากหลังคาบ้านเราไหลสู่พื้นที่บ้านข้างเคียง อาจส่งผลให้เกิดปัญหาบานปลายถึงขั้นฟ้องร้องให้รื้อถอนได้เลยครับ
นี่เป็นเพียงตัวอย่างปัญหาที่เกิดขึ้นได้เมื่อไม่มีวิธีป้องกันและรับมือในยามฝนตกครับ เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” พาไปรู้จักกับวัสดุที่ใช้ทำรางน้ำฝนแต่ละประเภท บอกเล่าข้อดีข้อเสียและประมาณราคามาให้ครับ
ผู้เขียน : อภิสิทธิ์ สุธาประดิษฐ์
รางน้ำฝนสังกะสี
สำหรับบ้านไหนต้องการลดงบประมาณในการติดตั้งรางน้ำฝน รางน้ำฝนชนิดสังกะสีเป็นคำตอบได้เป็นอย่างดี เพราะมีต้นทุนที่ถูกที่สุดก็ว่าได้ครับ รางน้ำฝนสังกะสีเป็นรางน้ำที่นิยมใช้กันมานาน สามารถหาช่างเหล็กในท้องที่ติดตั้งได้ง่าย โดยช่างจะนำแผ่นเหล็กสังกะสีมาพับหรือม้วนกลมและเชื่อมรอยต่อเพื่อทำเป็นรางน้ำฝน โดยมีความหนาให้เลือกหลายขนาด แต่แนะนำว่าควรเลือกความหนา 0.5 มิลลิเมตรขึ้นไป แม้รางน้ำสังกะสีจะมีต้นทุนต่ำ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความสวยงามและอาจเกิดปัญหารอยรั่วเมื่อสังกะสีเกิดสนิมครับ
ราคารางน้ำสังกะสี ประมาณ 200-400 บาท/เมตร
รางน้ำฝนสแตนเลส
เพิ่มความแข็งแกร่งทนทานขึ้นมาอีกนิดด้วยรางน้ำสแตนเลส โดยปกติสแตนเลสจะมีความคงทนสูงมากและไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสนิมครับ ปัจจุบันมาตรฐานเกรดสแตนเลสที่นิยมใช้ทำรางน้ำฝน มี 2 มาตรฐาน รางน้ำฝนสแตนเลส 201 และ รางน้ำฝนสแตนเลส 304 ทั้งสองมาตรฐานนี้หากมองจากภายนอกจะมองไม่ค่อยออกครับ ให้ผู้อ่านนึกถึงหม้อสแตนเลสคุณภาพดีที่ดูหนา หนัก ทน ส่วนใหญ่ผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 และหม้อสแตนเลสถูก ๆ ที่มีความเบา บาง เป็นเกรด 201 จึงควรเลือกสแตนเลสเกรดมาตรฐาน 304 ซึ่งจะมีคุณสมบัติทนกรด ทนด่าง ทำให้เหมาะกับการใช้งานร่วมกับน้ำฝน
จุดอ่อนของรางน้ำฝนชนิดนี้กลับไม่ได้อยู่ที่แผ่นสแตนเลส แต่อยู่ที่รอยต่อที่เกิดจากการเชื่อม ยิ่งหากช่างเชื่อมด้วยตะกั่วมักก่อให้เกิดรอยรั่วหรือเกิดการแตกหักภายหลัง จึงควรเชื่อมด้วยอาร์กอนจะได้ความคงทนสูงกว่า และจากการสังเกตบ้านที่ติดตั้งรางน้ำฝนสแตนเลส มักติดตั้งร่วมกับตัวยึดที่เป็นเหล็กทั่วไป ซึ่งเหล็กทั่วไปมีความคงทนน้อย ดังนั้นหากต้องการรางน้ำฝนสแตนเลส ควรมองหาร้านที่มีความเชี่ยวชาญด้านงานสแตนเลสโดยเฉพาะ และเลือกอุปกรณ์เสริมในการติดตั้งแบบสแตนเลสด้วยจะช่วยให้ทนทานยิ่งขึ้น
ราคารางน้ำสแตนเลส ประมาณ 500- 900 บาท/เมตร
รางน้ำเหล็กเคลือบอลูซิงค์ | เหล็กชุบกัลวาไนซ์
หากเปรียบเทียบความทนระหว่างสแตนเลสกับเหล็กเคลือบอลูซิงค์ สแตนเลสจะทนกว่าครับ แต่อลูซิงค์กลับเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่มวัสดุโลหะ นั่นเป็นเพราะโลหะอลูซิงค์มีน้ำหนักที่เบา สามารถนำมาทำสีให้เข้ากับบ้านของเราได้ อีกทั้งยังสามารถควบคุมคุณภาพจุดรอยต่อต่าง ๆ ได้ดีกว่าวิธีการเชื่อม โดยจุดเชื่อมต่อของงานอลูซิงค์ใช้วิธีการรัด Clamp และมีการซีลยาง ทำให้สะดวกต่อการติดตั้ง ควบคุมมาตรฐานได้
ส่วนข้อเสียที่เห็นได้ชัดของรางน้ำฝนอลูซิงค์ คือ ราคาที่สูงกว่า และหาแหล่งรับทำได้น้อย อีกทั้งมาตรฐานงานของวัสดุมีหลายเกรด จึงต้องเฟ้นหาแหล่งรับทำที่ได้มาตรฐาน มิเช่นนั้นอาจจะได้เหล็กเคลือบอลูซิงค์เกรดต่ำมาแทนครับ
ราคารางน้ำเหล็กเคลือบอลูซิงค์ ประมาณ 800-1,500 บาท/เมตร
รางน้ำฝนไวนิลสำเร็จรูป
อาจจะเรียกได้ว่า เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยุคปัจจุบันก็ว่าได้ เนื่องด้วยรางน้ำฝนไวนิล เป็นรางน้ำฝนแบบสำเร็จรูป จึงหาซื้อได้ตามร้านค้าวัสดุก่อสร้างทั่วไป โดยแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงและได้รับความไว้วางใจมากที่สุดเป็นรางน้ำฝนสำเร็จรูปเอสซีจี หรือที่เราคุ้นเคยกันในนาม Windsor นั่นเองครับ
ไวนิลเป็นวัสดุ uPVC นิยมนำมาใช้เป็นวัสดุก่อสร้างหลายส่วน ทั้งวงกบ ประตู หน้าต่างหรือแม้แต่งานหลังคา วัสดุไวนิลมีคุณสมบัติที่มีความยืดหยุ่น ทนทานสูง ไม่บิดงอ ไม่ก่อสนิม ทนต่อสภาพอากาศโดยเฉพาะน้ำ จึงเหมาะสำหรับงานรางน้ำฝนโดยเฉพาะ ลักษณะการผลิตจะสำเร็จมาจากโรงงาน ชิ้นส่วนต่าง ๆ จึงได้มาตรฐานสูง อีกทั้งยังมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกใช้งาน และมีสีให้เลือกเพื่อให้เหมาะสมลงตัวกับบ้านแต่ละสไตล์ เรียกได้ว่า จบ ครบในที่เดียว
ตัวอย่างรางน้ำฝนไวนิลเอสซีจี รุ่นสมาร์ท เน้นดีไซน์ที่เรียบหรู จุดเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่ฟังก์ชัน Double Protection ช่วยป้องกันน้ำฝนกระเด็นออกจากตัวราง ด้วยดีไซน์ Splash Guard และระบบ Over Flow สามารถป้องกันน้ำฝนไหลย้อนกลับเข้าเชิงชายและฝ้า มีให้เลือก 2 สี คือ สีขาว และสีน้ำตาลเข้ม จึงสามารถเลือกให้เข้ากับชายคาหรือหลังคาบ้านได้ง่ายมากขึ้น
ตัวอย่างรางน้ำฝนไวนิลเอสซีจี รุ่นเดอลุกซ์ ออกแบบให้มีตะขอแขวนรางซ่อนในรางน้ำฝน ทำให้ไม่เห็นรอยเชื่อมต่อ ดูเรียบสวยกลมกลืนไปกับตัวบ้าน ด้วยดีไซน์ Super Flow จึงสามารถระบายน้ำฝนได้อย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างอุปกรณ์เสริมของรางน้ำฝนไวนิลสำเร็จรูปเอสซีจี มีอุปกรณ์ข้อต่อ โซ่ระบายน้ำ และตะแกรงกันใบไม้มาให้ โดยโซ่ระบายน้ำเหมาะสำหรับจุดที่เจ้าของบ้านไม่ต้องการต่อท่อน้ำทิ้ง โซ่จะคอยควบคุมทิศทางของน้ำไม่ให้กระเซ็นเลอะไปทั่วบริเวณและลดแรงกระแทกของผิวน้ำ ลดการทรุดพังของหน้าดิน ส่วนตะแกรงกันใบ้ไม้จะช่วยลดการอุดตันและป้องกันนกเข้าไปทำรังครับ
ข้อเสียของรางน้ำสำเร็จรูปไวนิล ไม่ได้อยู่ที่วัสดุและอุปกรณ์ครับ แต่กลับอยู่ที่ช่างติดตั้ง หากช่างติดตั้งไม่ลงล็อก ไม่เรียบสนิท หรือมีขั้นตอนใด ๆ ที่ไม่สมบูรณ์ มักส่งผลต่อประสิทธิภาพในการระบายน้ำ จึงจำเป็นนอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการติดตั้งโดยช่างที่มีประสปการณ์ ซึ่งหากได้ช่างดี ๆ รางน้ำไวนิลหายห่วงทั้งเรื่องความทนและประสิทธิภาพได้เลยครับ
ราคารางน้ำไวนิล ประมาณ 500-1,000 บาท/เมตร