บ้านโมเดิร์นมีคอร์ทยาร์ดกลางบ้าน
“สถาปัตยกรรมที่ดีต้องผูกโยงผู้คนให้เชื่อมต่อกับธรรมชาติ” คำกล่าวนี้พิสูจน์ด้วยตัวเองได้จากโครงการบ้านที่ผุดขึ้นมากมาย เมื่อลองเปรียบเทียบดูระหว่างบ้านที่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้าง กับบ้านที่แบ่งพื้นที่ปันให้ต้นไม้ได้เติบโต จะสัมผัสได้ว่าบรรยากาศในการอยู่อาศัยจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งบ้านแต่ละหลังก็มีความสัมพันธ์กับธรรมชาติในระดับต่างๆ กัน ขึ้นอยู่กับบริบทและพื้นที่ว่าจะเอื้อให้บ้านอยู่ร่วมกับต้นไม้ น้ำ สวน ได้มากน้อยเพียงใด บ้านหลังนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโปรเจ็คที่ออกแบบโดยพยายามฟื้นคืนสัมพันธภาพระหว่างคน บ้าน กับธรรมชาติมากขึ้น ในขณะที่บ้านก็ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ผลงานจึงออกมาเป็นบ้าน be (hide) ที่ซุกซ่อนพื้นที่ชีวิตและต้นไม้อยู่หลังกำแพงทึบ
ออกแบบ : Touch Architect
ภาพถ่าย : Soopakorn Srisakul
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านหลังนี้ปลูกในพื้นที่ 100 ตารางวาภายในหมู่บ้านนวธานี บึงกุ่ม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯ หมู่บ้านนี้พิเศษตรงที่เต็มไปด้วยต้นไม้เก่าแก่ขนาดใหญ่ เจ้าของจึงต้องการสร้างสัมพัทธภาพระหว่างต้นไม้ที่มีอยู่กับสถาปัตยกรรม เพื่อให้ต้นไม้เป็นส่วนหนึ่งของบ้าน รูปร่างของอาคารจึงได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงแนวต้นไม้ที่มีอยู่ พร้อมกับจัดฟังก์ชั่นที่ลงตัวพอดี เช่น ใส่ช่องว่างระหว่างต้นไม้ใหญ่สองต้นที่ด้านหน้าของกำแพงยาวแปดเมตร กำหนดทางเข้าของรถให้อยู่ด้านซ้ายเพื่อไม่ให้ทับซ้อนไม้ยืนต้นอยู่ด้านหน้าขวามือ นอกจากนี้ ยังมีต้นที่ใหญ่ที่สุดคือต้นหูกวางอยู่ตรงกลางของไซต์ ใช้เป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนตัวภายใน
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
เพื่อให้บ้านมีความแตกต่างอย่างน่าสนใจ ดีไซน์ที่เห็นจากภายนอกจึงนำเสนอในสไตล์โมเดิร์นโทนสีเทาเข้มและสีน้ำตาล จากทางเข้าหลักจะมองไม่เห็นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน ที่ถูกซ่อนปิดกั้นสายตาด้วยกำแพงทึบที่หน้าบ้าน ดึงดูดผู้คนให้โฟกัสสายตาไปยังต้นไม้ใบเขียวสูงตระหง่านที่มีผนังสีดำสะท้อนแสงเป็นพื้นหลังแทน ในทางตรงกันข้าม เมื่อได้เดินผ่านหลังกำแพงทึบเข้ามาจะรู้ว่าภายในกลับเป็นเหมือนโลกอีกใบที่เต็มไปด้วยอาคารที่โปร่งเบาเต็มไปด้วยหน้าต่างกระจกมากมาย
จากโรงรถจะมีทางเดินที่ต้อนรับด้วยความเป็นธรรมชาติ เชื้อเชิญให้เข้าสู่ตัวอาคารผ่านบันไดยกระดับขึ้นจากพื้นเล็กน้อย เข้าสู่โถงแบบ Privacy Foyer เล็ก ๆ ที่ไม่ได้เปิดกว้าง สามารถใช้นั่งพักผ่อนชมวิวนอกบ้าน พบปะคุยงานแบบไม่เป็นทางการได้ ค่อย ๆ ไล่ระดับความเป็นส่วนตัวไปอย่างช้า ๆ เมื่อผ่านส่วนหน้านเข้ามาจะเป็นมุมซ้อมเปียโน ที่ต่อเนื่องกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร แพนทรี และครัว
ผังอาคารภายในจะจัดเป็นรูปตัว L โอบล้อมต้นหูกวางขนาดใหญ่ในพื้นที่เอาไว้ โดยจัดให้ชั้นล่างของปีกอาคารหนึ่งเป็นห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และครัวที่รวมอยู่ด้วยกันในจุดเดียว เพื่อให้สมาชิกในบ้านได้มีปฏิสัมพันธ์กันได้อย่างใกล้ชิด โดยใส่ความพิเศษที่พื้นที่นั่งเล่นเจาะโถงสูงขึ้นไปเป็น Double Space ติดกระจกใสสูงจากพื้นถึงเพดาน ทำให้ห้องนั่งเล่นดูโปร่งมากขึ้น และเปิดมุมมองเชื่อมสู่พื้นที่กลางแจ้งภายนอกในมุมมองที่กว้างและสูงไปพร้อม ๆกัน
ที่ว่างระหว่างอาคารและข้างบ้านใช้ในการปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มความสดชื่นกับมุมมองสีเขียว และยังช่วยลดความร้อนให้กับบ้านได้ด้วย เมื่อมีสวนอยู่หลายๆ จุดของบ้านสถาปนิกจึงไม่พลาดที่จะจัดวางตำแหน่งช่องเปิดให้สามารถมองเห็นได้จากหลากหลายโซน ไม่ว่าจะเป็นครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ หรือแม้แต่บันไดบ้านก็เชื่อมต่อทะลุออกไปมองเห็นทัศนียภาพได้ทั้งตอนขึ้นและตอนลง
ห้องนอนที่อยุ่บนชั้นลอยและชั้นสองของบ้าน จะมีส่วนของผนังกระจกที่ตั้งใจให้เปิดมุมมองต่อเนื่องถึงส่วนอื่น ๆ ของบ้าน แม้จะอยู่กันคนละชั้นก็ยังรู้สึกว่าไม่ถูกตัดขาดออกจากกัน และที่สำคัญคือทุกห้องต่างก็ต้องมีส่วนร่วมกับธรรมชาติได้เท่า ๆ กัน ซึ่งสถาปนิกทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ลองจินตนาการว่าระหว่างที่กำลังทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ ล้างหน้า แล้วมองออกไปเห็นกิ่งก้านของต้นไม้ที่กำลังไหวด้วยแรงลม ในบางวันสีสันของใบก้เริ่มเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีส้มอมแดง คงรู้สึกว่าชีวิตช่างเต็มไปด้วยความสุนทรีจนต้องเผลอยิ้มออกมาด้วยความสุขใจ เป็นบ้านที่ซ่อนตัวตน ซ่อนพื้นที่สีเขียว แต่ไม่สามารถซ่อนความสุขที่ล้นออมาในทุกตารางเมตรของบ้านได้เลย
แปลนบ้าน