บ้านและสวน
ในขณะที่แนวทางการสร้างบ้านสำหรับบางคนจะเน้นเพิ่มพื้นที่ในบ้านและลดสวนลง แต่ House for a Garden กลับทำในสิ่งตรงกันข้ามแทน เพราะสถาปนิก Retallack Thompson เห็นว่า สวนไม่ได้เป็นองค์ประกอบที่สร้างบรรยากาศให้กับบ้านเท่านั้น การมีต้นไม้ในบ้านยังดีต่อสุขภาพและช่วยดึงสมาชิกในบ้านให้ออกมาเปลี่ยนอิริยาบถไม่อุดอู้อยู่แต่ในบ้าน จึงวางกรอบให้บ้าน โดยลดพื้นที่ใช้งานในตัวอาคารลง แล้วเพิ่มเส้นสายตาให้กับใบไม้รอบๆ ทำให้ทุกวันของการใช้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น
ออกแบบ : Retallack Thompson
ภาพถ่าย : Benjamin Hosking
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
สำหรับบ้านนี้ ก่อนหน้านี้เจ้าของเคยอาศัยอยู่ในทาวน์เฮาส์ซึ่งมีพื้นที่ปลูกต้นไม้จำกัด จึงต้องการบ้านที่รองรับการจัดสวนแบบที่ชอบ และมีโจทย์คือสวนต้องไปด้วยกันกับบ้านอย่างใกล้ชิด หลังตัดสินใจเลือกบ้านที่สร้างตั้งแต่ยุคสหพันธ์ใน Lilyfield ซึ่งพอมีพื้นที่ว่างด้านหลัง สถาปนิกจึงเข้ามาปรับปรุงแปลนภายในบ้านเก่าให้ใช้งานสะดวกขึ้นและต่อเติมโซนใหม่ที่แต่งแต้มด้วยพื้นที่สวนในอุดมคติให้สอดคล้องกับฟังก์ชั่นของพื้นที่มากที่สุด
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
แนวคิดในการออกแบบบ้านนี้ มาจากไอเดียที่ว่า เรามักจะคิดว่าการมีชีวิตที่ดีนั้นเป็นเรื่องของขนาด แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่สำคัญกว่าเป็นเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก ทีมงานจึงสร้างโซนใหม่เป็นบ้านไม้ทรงกล่องสีอ่อนๆ ที่ขนาดไม่ใหญ่ ทุกพื้นที่พิจารณาแล้วว่าเพียงพอสำหรับการใช้งาน โดยแบ่งบ้านออกเป็นโซนต่างๆ ที่ชัดเจน อาทิ ห้องนอน ห้องนั่งเล่นที่ใช้งานได้อเนกประสงค์ ไม่ว่าจะ ชมวิว อ่านหนังสือ หรือฟังเพลง โซนครัวและพื้นที่ทานอาหาร โดยแต่ละห้องเชื่อมต่อกับสวนที่มีลักษณะแตกต่างกัน เช่น สวนดูนกพันธุ์พื้นเมืองของออสเตรเลียด้านหน้า สวนผลไม้บริเวณลานข้างครัว เป็นต้น
จากห้องนั่งเล่นจะมีพื้นที่ต่างระดับลงมาเป็นโซนครัว ที่บิลท์ติดกับผนังเป็นเส้นตรงเว้นพื้นที่เป็นทางเดินเล็ก ๆ แล้วอ้อมไปอีกด้านเป็นโต๊ะทานข้าว จากโซนนี้เราจะเห็นผนังกระจกโค้งๆ โอบล้อมพื้นที่สวนเหมือนมีตู้โชว์ใส่ต้นไม้นานาพันธุ์เอาไว้ใจกลางบ้าน ทำให้ทุกๆ ฟังก์ชันและทุกการเคลื่อนไหวในบ้านมองเห็นสวนได้หมด ผนังกระจกนี้ไม่ได้เป็นแบบติดตาย แต่จะสามารถเปิดรับแสงและการระบายอากาศตามธรรมชาติ บ้านจึงรับความสดชื่นจากต้นไม้ แสง ลม ได้ ไม่ใช่ซึมซับเพียงความสวยงามของพืชที่ปลูกไว้
การตกแต่งภายในใช้วัสดุง่าย ๆ อาทิ ไม้อัด คอนกรีตเปลือย กระเบื้องแผ่นเล็ก ๆ กระจก โทนสีที่นุ่มนวลไม่ฉูดฉาด สร้างบรรยากาศของความผ่อนคลายและเงียบสงบ ช่วยให้โฟกัสของบ้านยังคงอยู่ที่สวน โดยมีบ้านเป็นตัวอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตท่ามกลางภูมิทัศน์ที่อุดมสมบูรณ์ตามโจทย์ที่ต้องการ
ห้องนั่งเล่นเก่าที่ไม่เห็นแสงสว่างของวันมานานนับศตวรรษ ปัจจุบันกลายเป็นห้องรับประทานอาหารที่เต็มไปด้วยแสงระยิบระยับ เจ้าของบ้านชอบเคลื่อนไหวไปรอบๆ พื้นที่นี้มาก ๆ เพราะนอกจากจะได้สังเกตสีสันของสวนและแสง ที่เปลี่ยนแปลงไปในขณะอ่านหนังสือ ฟังเพลง กำลังเตรียมอาหาร หรือทานข้าว ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงของวัน เมื่อแสงตะวันเริ่มจางลงและแสงไฟในสวนสว่างขึ้นก็จะให้บรรยากาศที่เปลี่ยนไปในอีกรูปแบบหนึ่ง
สำหรับคนที่อายุมากขึ้นบางคนจะนอนไม่ค่อยหลับ และมักจะตื่นขึ้นมาช่วงเช้ามืดเหมือนเจ้าของบ้าน อาจจะชอบช่วงเวลาประมาณตี 4 หรือตี 5 เมื่อมีพระจันทร์เต็มดวงอาบพื้นที่ด้วยแสงสีเงิน การได้นั่งใช้เวลาเงียบๆ มองดูพระจันทร์ค่อยๆ ลับไปพระอาทิตย์ยามเช้าเปล่งแสงสว่างขึ้นมาแทนที่สร้างรู้สึกที่พิเศษมาก ๆ โซนนี้ของบ้านจึงตอบโจทย์ชีวิตที่ให้ความคุ้มค่ากับการเสริมเพิ่มขึ้นมา
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : ถ้าเปรียบเทียบกันระหว่างบ้านที่เน้นสร้างตัวอาคารในพื้นที่กว้าง ใส่พื้นที่ใช้สอยให้มากที่สุดจนเหลือบริเวณรอบๆ สำหรับจัดสวนหรือปลูกต้นไม้น้อยๆ กับบ้านที่ยอมลดขนาดลงสักนิดหลีกทางให้มีโซนใช้ชีวิตกลางแจ้งมากขึ้น บรรยากาศของบ้านจะแตกต่างกันมาก เพราะส่วนของอาคารจะให้ความรู้สึกแข็งกระด้าง ขาดชีวิตชีวา แต่ถ้ารอบๆ บ้านมีต้นไม้ มีสวน และทำประตูเลื่อนเปิดเชื่อมต่อเข้าถึงกันได้ง่ายๆ จะสร้างประสบการณ์ในการใช้ชีวิตที่น่าประทับใจและเต็มไปด้วยคุณภาพ ทั้งต่อตัวผู้อยู่อาศัยและตัวบ้านเองด้วย |