เมนู

6 ข้อต้องรู้ เลือกซื้อผ้าปูที่นอน

เลือกซื้อผ้าปูที่นอน

6 ข้อต้องรู้ เลือกซื้อผ้าปูที่นอน

การนอนเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต คนทุกคนต้องนอน แต่จะนอนมากน้อยเท่าไหร่นั้นอาจขึ้นอยู่กับวัย ขึ้นอยู่กับระดับความขี้เซาของแต่ละคน สรุปโดยรวมแล้วแต่ละคนใช้เวลาในการนอน 5-8 ชั่วโมง/วัน หรือเทียบเท่ากับช่วงเวลา 1 ใน 3 ของแต่ละวัน และหากจะเปรียบเทียบโดยรวมระยะยาว หากคุณผู้อ่านอายุ 30 ปี จะเท่ากับว่า เราได้นอนมาแล้วถึง 10 ปี ซึ่งเป็นการใช้เวลานานมาก เพราะฉะนั้นแล้วจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆที่เป็นองค์ประกอบร่วมกับการนอนอย่างเป็นพิเศษ ทั้งบรรยากาศภายในห้องนอน เบาะนอน หมอน และชุดผ้าปูที่นอน ซึ่งจะเป็นเนื้อหาหลักของบทความชุดนี้ โดยจะพาคุณผู้อ่านมารู้ถึง 6 ข้อ ต้องรู้ กับการเลือกซื้อผ้าปูที่นอนกันครับ

1. เลือกสีและลวดลาย : สำหรับสีสันและลวดลายต่างๆนั้น โดยหลักแล้วอยากให้เลือกตามความชอบเป็นหลัก เพราะหากใจชื่นชอบแล้วก็ย่อมสวยทั้งหมด ใครจะว่าไม่สวยคงไม่สำคัญ เพราะห้องนอนจัดเป็นห้องแห่งความเป็นส่วนตัว น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้มาเห็น การเลือกตามความชอบจึงเป็นสิ่งสำคัญปัจจัยแรก แต่หากต้องการความสวยงามในแบบสากลนิยม จำเป็นต้องดูความเหมาะสมเพิ่มเข้ามา ซึ่งจะตกแต่งได้หลายรูปแบบ เช่น แต่งแบบโทนสีเข้ากัน , แต่งแบบโทนสีตัดกัน , แต่งเพื่อให้เชื่อมโยงกับอารมณ์ความรู้สึก , แต่งตามเพศ ตามวัย เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น ห้องนอนสีขาว ต้องการเลือกให้ลูกชายวัยรุ่น เด็กผู้ชายอาจเลือกเป็นโทนสีเข้ม น้ำเงิน เทา น้ำตาล หากเป็นลูกสาว อาจเลือกที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน เช่น สีชมพูอ่อน สีครีม สีฟ้าอ่อน สีขาว แต่จะเลือกสีไหน ลายใด หากให้ดีที่สุด ควรให้เจ้าของห้องมีส่วนสำคัญในการเลือกด้วย

2. จำนวนเส้นใย : เส้นใยของผ้าปูที่นอนหัวข้อนี้อาจเป็นเรื่องที่หลายท่านมักมองข้าม โดยการถักทอผ้าปูที่นอน แต่ละรุ่น แต่ละแบรนด์นั้นมีจำนวนเส้นใยแตกต่างกัน จำนวนของเส้นใยที่เหมาะสมจะให้ผิวสัมผัสที่นุ่มนวล เย็นสบาย และช่วยให้เนื้อผ้าคงทนมากขึ้น จะมีจำนวนเส้นใยอยู่ที่ 300 – 600 เส้นใย/ตารางนิ้ว นับว่าเป็นจำนวนที่ช่วยให้เกิดสัมผัสที่รู้สึกสบายกำลังดี (ผ้าปูที่นอนยิ่งมีเส้นใยที่มากจะทำให้ผ้ามีสัมผัสที่นุ่มนวล) ทั้งนี้ไม่ควรต่ำกว่า 200 เส้นใย และไม่มากเกิน 800 เส้นใย ซึ่งอาจจะมีราคาผ้าปูที่นอนที่แพงเกินความจำเป็น แต่ทั้งนี้จำนวนเส้นใยอาจไม่ได้เป็นคำตอบที่ดีเสมอไป จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ชนิดของเนื้อผ้าที่ใช้ทอ

3. ชนิดของเนื้อผ้า : เนื้อผ้าสำหรับผ้าปูที่นอน ปัจจุบันมีให้เลือกใช้กันเยอะมาก แต่ที่นิยมมากที่สุดในไทย จะเป็นผ้า Cotto ซึ่งให้ผิวสัมผัสที่นุ่มสบาย อีกทั้งคุณสมบัติป้องกันความร้อน อากาศเมืองไทยตลอดทั้งปีโดยรวมจะร้อนมากกว่าหนาว ผ้า Cotto จึงได้รับความนิยมมากที่สุด แต่จะมีแบบไหนกันบ้าง ดูรายละเอียดกันครับ

  • ผ้า Cotto 100% ชื่อภาษาไทยเรียกว่า “ผ้าฝ้าย” มีคุณสมบัตินุ่มเป็นพิเศษ ยิ่งซักยิ่งนุ่มและทนมาก แต่มีข้อเสียเรื่องยับง่าย ใช้เวลาในการรีด และมีราคาสูง เหมาะกับการนำมาใช้เป็นผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวม นอกจากนี้ ผ้า Cotton ยังให้ความรู้สึกเย็นสบาย ป้องกันความร้อน จึงเหมาะสมกับการใช้งานในประเทศไทย ช่วยให้ผู้ใช้หลับสบาย
  • ผ้าซาติน เป็นผ้าที่มีส่วนผสมของเส้นใยโพลีเอสเตอร์ 100% ทำให้เนื้อผ้ามีผิวสัมผัสที่นุ่ม ลื่น ดูสวยงาม ให้ความรู้สึกหรูหรา โรแมนติก โดยเฉพาะเมื่อสะท้อนกับแสงไฟในยามค่ำคืน แต่มีข้อเสียคือ เนื้อผ้าไม่ทนนัก เหมาะกับการนำมาทำเป็นผ้าคลุมโต๊ะ สเกิร์ตเตียง
  • ผ้า CVC ผ้าที่มีส่วนผสมระหว่างผ้า Cotton 50% และเส้นใยโพลีเอสเตอร์ 50% คุณสมบัติของเนื้อผ้าค่อนข้างเป็นกลาง เนื่องด้วยมีส่วนผสมในอัตราส่วนที่เท่ากัน ทำให้ผ้าไม่ยับง่าย อีกทั้งยังมีความนุ่มและทนทาน แต่จะทนน้อยกว่าผ้า Cotton เหมาะกับเป็นผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวม
  • ผ้า Contton Satin ริ้ว เป็นผ้าที่มีส่วนผสมของ Cotton 100% และมีริ้ว Satin หนา 1 นิ้ว สลับกันไปตลอดผืน ผ้าชนิดนี้นิยมมากในโรงแรม รีสอร์ท ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย ยิ่งซักยิ่งนุ่มและคงทนมาก ลวดลายสวยงาม ข้อเสียคือ ยับง่าย และมีราคาสูงกว่าผ้า Cotton เหมาะกับการนำมาใช้เป็นผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ปลอกผ้านวม
  • ผ้า TC ผ้าที่มีส่วนผสมของเส้นใยโพลีเอสเตอร์ 35% และ Cotton 65% เป็นผ้าที่ยับยาก เนื้อผ้าแข็งกระด่าง เหมาะกับการนำมาใช้เป็นสเกิร์ตเตียง เนื่องด้วยสเกิร์ตเตียงอยู่ด้านล่างของเตียง

4. ขนาดที่เหมาะสม : ผ้าปูที่นอนที่ดี ควรมีขนาดพอดีกับที่นอน เพื่อจะได้ความตึงเรียบอันสวยงาม โดยปัจจุบันขนาดของที่นอนในประเทศไทย จะมีมาตรฐานอยู่ 5 ขนาด และขนาดพิเศษนิยมสั่งทำ ใช้ในโรงแรม จะมีขนาด 7 x 6.5 ฟุต หรือมากกว่านั้น การเลือกซื้อผ้าปูที่นอนใหม่ จึงต้องวัดขนาดที่นอนก่อนเลือกซื้อ เพราะหากซื้อมาผิดขนาด เล็กไปย่อมสวมใส่ไม่ได้ ใหญ่ไปจะย่น ดูไม่สวยงาม

5. เลือกซื้อตามวิธีการดูแล : ผ้าแต่ละชนิด มีวิธีการดูแลรักษาเนื้อผ้าที่แตกต่างกัน การเลือกซื้อผ้าที่สอดคล้องกับเครื่องมือซักผ้าภายในบ้าน หรือวิธีการดูแลในแบบที่ผู้อ่านถนัด นับเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะผ้าบางชนิดมีคุณสมบัติดีก็จริงแต่ดูแลยาก ซึ่งการดูแลยากนี่เอง อาจทำให้ผู้ใช้ละเลยในการดูแล เป็นที่มาของอายุการใช้งานที่สั้นลง โดยปกติจะมีสัญลักษณ์ต่างๆ แสดงให้เห็นตรงป้ายผลิตภัณฑ์ ดั่งเช่นตัวอย่างต่อไปนี้

6. ซื้อเผื่อไว้ : ผ้าปูที่นอนเพียงชุดเดียวย่อมไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะวันที่ต้องนำไปซัก จำเป็นต้องมีชุดเครื่องนอนนำมาสลับใช้งาน หรืออาจมีเหตุฉุกเฉินที่ทำให้ผ้าเลอะเปื้อน การมีผ้าปูที่นอนสำรองเปลี่ยน เป็นสิ่งจำเป็นที่ได้ใช้งานสำรองแน่นอนครับ นอกจากการเผื่อไว้ใช้สำรองแล้ว การเปลี่ยนชุดเครื่องนอนใหม่เป็นลวดลาย สีสันอื่นๆ ยังช่วยให้ห้องนอนเปลี่ยนบรรยากาศไม่จำเจอีกด้วย

สำหรับ 6 ข้อดังกล่าวนี้ เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่จะช่วยประกอบการตัดสินใจ ตอนเลือกซื้อจริง ยังมีปัจจัยเสริมอื่นๆ ทั้งเรื่องของแบรนด์ เปรียบเทียบราคา แหล่งซื้อ ทั้งร้านค้า ห้างร้าน หรือปัจจุบันซื้อออนไลน์ก็สะดวกไม่น้อย เอาไว้เนื้อหาถัดไป บ้านไอเดียจะนำข้อมูลดีๆมาฝากให้อ่านกันต่อนะครับ สวัสดีครับ http://credit-n.ru/calc.html http://www.tb-credit.ru/kredit-na-kartu.html

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด ความรู้ คู่บ้าน


โพสต์ล่าสุด