วัสดุปูพื้น
เลือกวัสดุปูพื้นภายในบ้านให้สวย ถูกใจ ถูกงบประมาณ
พื้นภายในบ้านรวมถึงพื้นห้องต่างๆ นับเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้บ้านของเราสวย น่าอยู่ น่าเดิน ปัจจุบันผู้ผลิตวัสดุปูพื้น ต่างได้แข่งขันกันพัฒนาผลิตวัสดุใหม่ๆมาให้ได้ใช้กัน ซึ่งหากจะถามกันว่า เลือกใช้วัสดุไหนดี คงเป็นเพียงคำถามที่ไม่มีคำตอบอย่างชัดเจน เนื่องด้วยวัสดุแต่ละประเภทล้วนมีคุณสมบัติที่แตกต่าง การเลือกใช้งานอย่างเหมาะสมนั้น จึงเป็นคำตอบที่พอจะเป็นแนวทางให้ผู้อ่านแต่ละท่าน ได้เลือกใช้กันตามไลฟ์สไตล์และความเหมาะสมทั้งกับพื้นที่ใช้งานและงบประมาณของตนเองครับ โดยในเนื้อหาชุดนี้ “บ้านไอเดีย” ได้คัดเลือกมาให้ 10 วัสดุยอดนิยมครับ (ไม่ได้เรียงเนื้อหาตามลำดับความนิยมนะครับ)
บทความ : บ้านไอเดีย
ภาพประกอบ : บ้านไอเดียแกลอรี่
1. วัสดุปูพื้น ไม้จริง : วัสดุธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คนไทยนิยมใช้ไม้มาตั้งแต่สมัยอดีตกาล เนื่องด้วยไม้ในอดีตเป็นวัสดุที่หาได้ง่าย ปลูกทดแทนได้ ไม้ที่นิยมนำมาใช้ทำพื้นเป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้เต็ง ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้สัก เป็นต้น สามารถนำมาใช้ได้ทั้งบ้านไม้และบ้านปูน กรณีเป็นบ้านไม้ใช้วิธีตอกยึดกับคานไม้ แต่ปัจจุบันนิยมสร้างบ้านปูนกันมาก โดยทำการเทพื้นคอนกรีตก่อน จากนั้นปูพื้นไม้ทับไปอีกทีด้วยกาวสำหรับงานปูพื้น เนื้อไม้จะให้ผิวสัมผัสที่สบายเท้า สีสันอบอุ่น ดูหรูหราอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ปัจจุบันนี้ไม้เริ่มหายากจึงมีราคาที่สูงมาก บ้านที่นิยมนำไม้มาเป็นวัสดุปูพื้นจึงมักเป็นบ้านหรู Luxury หรือบ้านชาวบ้านที่นำไม้ปลูกเองในชุมชนมาใช้งาน ส่วนบ้านทั่วไปนิยมใช้วัสดุทดแทนไม้ หรือไม้เทียมนั่นเองครับ
เหมาะกับพื้นที่ : ชั้นล่าง , ชั้นบน ไม่เหมาะกับห้องที่เปียกชื้นบ่อย
ราคา : ประมาณ 1,000 – 5,000 ต่อ ตร.ม. ขึ้นอยู่กับชนิดไม้
2. ปาร์เกต์ : ปาร์เกต์เป็นการนำไม้จริงชิ้นเล็กๆมาตัดให้มีขนาดเล็กสี่เหลี่ยมผืนผ้า ปาร์เกต์จะถูกกว่าไม้แผ่น เนื่องด้วยสามารถนำเศษไม้มาผลิตได้ แต่หากเป็นแผ่นไม้นั้นต้องใช้ไม้แผ่นใหญ่จึงหายากและราคาสูงกว่า การปูพื้นปาร์เกต์สามารถปูทับพื้นคอนกรีตโดยการยึดด้วยกาว การยึดติดด้วยกาวนี่เองทำให้ปาร์เกต์ไม่เหมาะกับพื้นที่ชื้นหรือเปียกบ่อยๆ นอกจากนี้ผิวสัมผัสของปาร์เกต์เกิดร่องรอยได้โดยง่าย จึงต้องระมัดระวังการเคลื่อนย้ายสิ่งของ หากดูแลรักษาอย่างดี พื้นปาร์เกต์ทนทานไม่น้อยเช่นกันครับ นอกจากไม้ปาร์เกต์แล้ว ยังมีพื้นไม้รางลิ้น ลักษณะการใช้งานใกล้เคียงกันแต่ไม้รางลิ้นขนาดกว้างกว่า ยาวกว่า ส่วนปาร์เกต์ขนาดเล็กกว่าแต่หนากว่าไม้รางลิ้นในบางรุ่น ปาร์เกต์นิยมขายเป็นมัด ส่วนไม้รางลิ้นขายเป็น ตร.ม.ครับ
เหมาะกับพื้นที่ : ชั้นบน ห้องนอน , ห้องนั่งเล่น , ห้องดูทีวี , ไม่เหมาะกับห้องเปียกชื้น
ราคา : ประมาณ 600 – 2,000 ต่อ ตร.ม. ขึ้นอยู่กับชนิดไม้
3. ปูพื้นบ้านด้วย ไม้ลามิเนต : สำหรับผู้อ่านที่ชอบลวดลายของไม้ แต่การเลือกไม้จริงอาจใช้งบที่สูงเกินไป วัสดุทดแทนไม้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกช่วยให้ประหยัดได้ คุณสมบัติเด่นของลามิเนตให้น้ำหนักที่เบา ทนรอยขีดข่วน ปลวกไม่กิน ให้ความสวยงามแบบเดียวกับไม้แต่ต้นทุนถูกกว่า ติดตั้งได้ง่ายหากตั้งใจฝึกกันสามารถติดตั้งได้ด้วยตนเองได้ หรือจะหาช่างมาปูลามิเนตก็หาได้ไม่ยากนัก ส่วนข้อเสียคือไม่เหมาะกับการใช้งานที่มีความเปียกชื้น หากทำน้ำหกใส่ควรเช็ดออกทันที ควรระวังช่วงหน้าฝน ไม่ควรเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ เพราะหากฝนสาดเข้ามา พื้นไม้ลามิเนตจะชำรุดเสียสภาพไปจากเดิมครับ
เหมาะกับพื้นที่ : ชั้นบน ห้องนอน , ห้องนั่งเล่น , ห้องดูทีวี , ไม่เหมาะกับห้องเปียกชื้น
ราคา : ประมาณ 300 – 1,500 บาท ต่อ ตร.ม.
4. วัสดุปูพื้น ไวนิล : วัสดุไวนิลหรือกระเบื้องยางหากเป็นอดีตเป็นวัสดุที่ไม่ได้รับความนิยมเอาซะเลย เนื่องด้วยลวดลายสีสันดูเป็นวัสดุราคาถูก (แต่ก็ถูกจริง) ปัจจุบันไวนิลได้มีการพัฒนาขึ้นมาก ผิวสัมผัสให้ลวดลายที่สวยงามใกล้เคียงกับธรรมชาติมากกว่าเดิม โดยเฉพาะลายไม้ที่ให้ผิวสัมผัสดีขึ้น คุณสมบัติเด่นของไวนิลสามารถกันน้ำได้เนื่องจากเป็นวัสดุยาง (PVC) ติดตั้งได้ง่าย ราคาถูก ซ่อมแซมได้ง่ายกว่าลามิเนต ข้อเสียอยู่ที่ผิวสัมผัสที่อาจจะไม่ทนทานมากนัก เป็นรอยขีดได้ง่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้าแต่ละแบรนด์
เหมาะกับพื้นที่ : ชั้นล่าง ชั้นบน ไม่เหมาะกับพื้นที่ใช้งานหนัก
ราคา : ประมาณ 250 – 1,000 บาท ต่อ ตร.ม.
5. วัสดุปูพื้น แกรนิโต้ : จัดเป็นวัสดุปูพื้นที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน โดยเฉพาะพื้นชั้นล่างของบ้าน แกรนิโต้เป็นการนำผงแกรนิตมาขึ้นรูปด้วยกระบวนการความร้อนสูงเพื่อให้เป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น หากเกิดรอยขีดสามารถขัดสีได้ ปัจจุบันมีให้เลือกขนาดใหญ่มากขึ้น โดยปกติมีขนาดมาตรฐาน 30×30, 60×60, 60×120 เซ็นติเมตร เหมาะอย่างยิ่งกับการนำมาใช้ร่วมกับพื้นที่ใช้งานหนัก มีการเดินผ่านบ่อยครั้ง หากมองผิวเผินแกรนิโต้ให้รูปลักษณ์ที่คล้ายกับกระเบื้อง แต่ความคงทนสูงกว่ามากครับ สำหรับข้อเสียพื้นแกรนิโต้ ให้ผิวสัมผัสที่ดูแข็ง และเย็นเท้า จึงอาจไม่เหมาะกับห้องนอน ห้องสำหรับการพักผ่อน
เหมาะกับพื้นที่ : ชั้นบน ชั้นล่าง โดยเฉพาะพื้นที่ใช้งานหนัก ทางเดิน , ห้องรับแขก , ห้องครัว
ราคา : ประมาณ 500 – 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับแบรนด์ คุณภาพสินค้า
6. หิน (แกรนิต หินอ่อน) : วัสดุหินเป็นอีกหนึ่งวัสดุธรรมชาติที่นิยมนำมาใช้ร่วมกับพื้นบ้าน มีจุดเด่นเรื่องความสวยงาม แข็งแกร่ง ทนต่อรอยขีดข่วนโดยเฉพาะหินแกรนิตให้ความทนทานมากกว่าหินอ่อน วัสดุหินมักให้ลวดลายที่ดูหรูหราแบบธรรมชาติ อายุการใช้งานยาวนาน สามารถเลือกตัดได้ตามขนาด ยิ่งขนาดใหญ่ยิ่งมีอัตราส่วนของราคาที่สูง แผ่นขนาดเล็กมีราคาที่ถูกลง โดยปกติมักพบเห็นได้ในบ้านหรูเนื่องด้วยราคาที่สูงกว่าวัสดุประเภทอื่นๆนั่นเองครับ
เหมาะกับพื้นที่ : ชั้นล่าง พื้นภายในบ้านทั้งหมด รวมทั้งท็อปเคาน์เตอร์ครัว ห้องน้ำ
ราคา : แบบสั่งตัด ราคา ตร.ม.ละ 1,000 บาทขึ้นไป แบบเป็นแผ่น ราคา ตร.ม.ละ 300 บาทขึ้นไป
7. ปูนขัดมัน : เป็นวัสดุเดียวที่แตกต่างจากวัสดุที่หยิบยกมาในบทความชุดนี้ เนื่องด้วยพื้นขัดมันไม่ได้เป็นวัสดุปูพื้น แต่เป็นวัสดุขัดร่วมเป็นเนื้อเดียวกับพื้นบ้าน ซึ่งได้รับความนิยมมาโดยตลอด โดยเฉพาะปีที่ผ่านมา บ้านสไตล์ Loft ได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมากจึงจำเป็นต้องพูดถึงกันสักนิดครับ พื้นปูนขัดมันหากให้งานดีและประหยัดควรทำในขั้นตอนเทพื้นซีเมนต์ ทำการฉาบขัดมันในช่วงปูนแห้งหมาด วิธีการช่างจะใช้ผงปูนซีเมนต์โรยขัดมันด้วยเกรียงเหล็ก ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความชำนาญสูง ปัจจุบันช่างขัดมันเก่งๆลดน้อยลงไป รวมทั้งความนิยมการใช้วัสดุอื่นๆมีมากกว่า การขัดมันแบบดั้งเดิมจึงไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่ยังมีให้เห็นตามบ้านเรือนชนบท รวมทั้งบ้านที่ชื่นชอบในสไตล์ดังกล่าวโดยเฉพาะ
เหมาะกับพื้นที่ : ชั้นบน ชั้นล่าง ห้องต่างๆรวมทั้งห้องน้ำ
ราคา : ขึ้นอยู่กับลักษณะงาน กรณีขัดมันหลังเทพื้นถูกกว่า
8. พรม : พื้นพรม นิยมใช้ร่วมกับห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ห้องที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัว เช่น ห้องดูทีวี ห้องอ่านหนังสือ พรมให้ผิวสัมผัสสบายเท้า ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา สามารถเก็บเสียงได้ดี ให้ความรู้สึกอบอุ่น หรูหรา แต่ก็นำพามาด้วยปัญหามากมาย เช่น ฝุ่น ทำความสะอาดได้ยาก พรมจึงอาจเหมาะกับการใช้งานเฉพาะส่วนมากกว่าใช้งานทั้งห้อง เช่น พรมปูรองพื้นโซฟา พรมปูรองพื้นใต้เตียง ซึ่งจะช่วยให้ห้องดูสวยงาม หรูหรามากขึ้นครับ
เหมาะกับพื้นที่ : ห้องที่มีฝุ่นน้อย , ห้องดูทีวี , เลือกใช้เฉพาะจุด
ราคา : ตร.ม. ละ ประมาณ หลักร้อยถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับแบรนด์สินค้า
9. หินขัด : ในอดีตนิยมใช้เป็นอย่างมากตามบ้านเรือนทั่วไปโดยเฉพาะบ้านจัดสรร แต่ปัจจุบันความนิยมลดน้อยลงไป เนื่องด้วยขาดช่างผู้ชำนาญการ จุดเด่นของหินขัดคือความแข็งแรงทนทาน สามารถตกแต่งลวดลายและสีสันได้ หินขัดทำด้วยปูนซีเมนต์ขาวผสมร่วมกับ หินเกล็ด(มวลวัสดุ) สีผสมซีเมนต์ หรือวัสดุอื่นๆตามความต้องการของลวดลาย ราคาไม่แพงนัก มีข้อเสียเรื่องรอยแตกร้าว เนื่องด้วยช่างขาดทักษะและความชำนาญ การเลือกช่างมาทำหินขัด จึงต้องดูผลงานกันให้ดีๆก่อนนะครับ
เหมาะกับพื้นที่ : ชั้นล่าง
ราคา : ตร.ม. ละ ประมาณ 500 – 700
10. กระเบื้อง : วัสดุยอดนิยมสูงสุดมาอย่างยาวนาน อาจเนื่องด้วยราคาที่ถูก มีให้เลือกหลายเกรด ลวดลายหลากลาย อาจเรียกได้ว่าทุกๆวัสดุที่เอ่ยมาข้างต้น มีลายในกระเบื้องทั้งหมด จนบางครั้งเองผู้เขียนยังรู้สึกอึ้งในจินตนาการของผู้ออกแบบแผ่นกระเบื้อง เช่น ปัจจุบันได้ทำลวดลายหญ้า ลายก้อนหิน ซึ่งคาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าคิดต่าง แถมยังได้ผลตอบรับดีอีกด้วย นอกจากลวดลายจะโดนใจแล้วกระเบื้องยังมีความทนทาน ทนน้ำ ทนไฟ ปลวกกินไม่ได้ ข้อเสียคือส่วนรอยต่อยาแนว ซึ่งอาจให้ร่องที่ไม่ละเอียดมากนัก ร่องกว้างกว่าแกรนิโต้ รวมทั้งการปูกระเบื้องมักเจอปัญหาปูไม่เรียบ ปูไม่ได้แนว ซึ่งเกิดจากกระเบื้องเกรดต่ำหรือช่างขาดประสบการณ์และความปราณีต
เหมาะกับพื้นที่ : ทุกพื้นที่
ราคา : ตร.ม. ละ ประมาณ 150 บาทขึ้นไป
จบกันไปแล้วสำหรับ 10 วัสดุปูพื้นภายในบ้านยอดนิยม เป็นข้อมูลเบื้องต้นที่น่าจะเพียงพอเพื่อให้ผู้อ่านนึกภาพออกว่า ควรเลือกวัสดุไหน ในตำแหน่งใดของบ้านดี รวมทั้งราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของเรา แต่หากราคาไม่ได้เป็นปัจจัยการเลือก วัสดุที่สวยงามทนทาน ย่อมให้ความคุ้มค่าในระยะยาวเช่นกันครับ ในบทความถัดไป จะขอพูดถึงวัสดุปูพื้นภายนอกกันบ้าง เช่น ทรายล้าง พื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย รออ่านกันนะครับ หรือหากคุณผู้อ่านสนใจเนื้อหาข้อมูลหัวข้อใด สามารถเสนอมาได้เช่นกัน สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ http://www.tb-credit.ru/microkredit.html
