
3 วิธีลดดอกเบี้ยบ้าน
จากการสำรวจข้อมูลและได้พูดคุยกับสมาชิกบ้านไอเดียหลาย ๆ ครั้ง เกี่ยวกับวิธีการซื้อบ้าน ทำให้ทราบว่า หลายท่านยังมีความเข้าใจผิดด้านการเงิน 2 เรื่อง นั่นคือความเข้าใจที่ว่า “การเก็บเงินก้อนเพื่อซื้อบ้าน ประหยัดเงินมากกว่าการผ่อนธนาคาร” ซึ่งไม่จริงเสมอไป เพราะหากใช้เวลาเก็บออมเงิน 10 ปี บ้านในทำเลเดิมอาจมีมูลค่าสูงกว่าเดิมหลายเท่าตัว แต่การเลือกผ่อนบ้านจะช่วยให้ผู้ซื้อ สามารถซื้อในราคาปัจจุบันได้
และอีกประเด็นที่คนจำนวนไม่น้อยเข้าใจผิด คิดไปเองว่า “การผ่อนบ้านต้องใช้ระยะเวลายาวนานถึง 30 ปี หรือต้องเป็นไปตามแผนการชำระที่ธนาคารกำหนดไว้ให้” ในความเป็นจริงแล้ว ผู้เป็นเจ้าของบ้านหรือผู้ขอสินเชื่อบ้านจากธนาคาร สามารถกำหนดระยะเวลาผ่อนบ้านได้ด้วยตนเอง และไม่จำเป็นต้องผ่อนชำระค่างวดตามตารางที่ธนาคารกำหนดไว้ ในเนื้อหาชุดนี้ “บ้านไอเดีย” นำ 3 วิธี ที่จะช่วยให้ผู้อ่าน ลดดอกเบี้ยบ้านได้ถึงหลักล้าน ปิดหนี้ธนาคารได้ไวกว่าเดิมมาฝากกันครับ
สนับสนุนโดย : กรุงศรี รีไฟแนนซ์
โดยปกติการผ่อนค่างวดบ้านให้กับธนาคาร นิยมผ่อนในระยะเวลา 20-30 ปี วิธีการนี้จะทำให้เจ้าของบ้านเสียดอกเบี้ยประมาณ 1 เท่าตัวจากราคาบ้าน หรือเทียบเท่ากับว่า เจ้าของบ้านจ่ายเงินค่าบ้าน 2 หลัง แต่กลับได้เป็นเจ้าของแค่หลังเดียว และตัวแปรสำคัญที่ทำให้ดอกเบี้ยสูง คือ ระยะเวลาในการผ่อนชำระค่างวดนั่นเองครับ การผ่อนบ้านที่ดีจึงไม่ควรผ่อนตามกำหนดการต่าง ๆ ที่ธนาคารกำหนดไว้ แต่สามารถลดค่าผ่อนบ้านด้วย 3 วิธีการนี้
3 วิธีลดดอกเบี้ยบ้าน งบไม่บาน จ่ายดอกถูก
1. ลดดอกเบี้ยบ้าน ด้วยการเพิ่มค่างวดในการผ่อนบ้าน
โดยปกติทุก ๆ ปี รายได้ของคนเราจะสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานประจำที่ทางบริษัทปรับเงินเดือนให้ในแต่ละปี หรือบางท่านเรียนรู้ที่จะหารายได้เพิ่มหลาย ๆ ช่องทาง ทำให้ภาพรวมรายได้สูงขึ้นตามลำดับ รายได้ที่สูงขึ้นนี่เอง เป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เราผ่อนค่าบ้านหมดไวขึ้น โดยให้นำส่วนต่างของรายได้ดังกล่าวไปเพิ่มค่างวดผ่อนบ้านครับ เช่น ปกติผ่อนบ้านเดือนละ 15,000 บาท ผ่านมา 5 ปี รายได้สูงขึ้นจากเดิม 3,000 บาทต่อเดือน ผู้อ่านอาจจะนำเงิน 2,000 บาทไปเพิ่มค่างวด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดดอกเบี้ย ลดระยะเวลาผ่อนได้ดีกว่าเดิมมากครับ
ตัวอย่าง กรณีผ่อนแบบปกติ
ตัวอย่างการคำนวณนี้ เปรียบเทียบให้เห็นกรณีขอสินเชื่อบ้าน โดยมีเงินต้นทั้งหมด 2 ล้านบาท หากผ่อนเดือนละ 15,000 บาท จะต้องแบ่งชำระทั้งหมด 331 งวด หรือประมาณ 27 ปี 7 เดือน โดยมียอดรวมทั้งเงินต้นและเงินดอก ประมาณ 4.96 ล้านบาท
ตัวอย่าง กรณีเพิ่มเงินผ่อนเดือนละ 2,000 บาท
แต่หากผู้กู้ เพิ่มยอดชำระเดือนละ 2,000 บาท รวมเป็นเงิน 17,000 บาทต่อเดือน จะเหลือระยะเวลาผ่อนบ้านประมาณ 231 งวด หรือ 19 ปีกับ 4 เดือน และคงเหลือยอดหนี้บ้านเพียง 3.92 ล้านบาท หรือลดไปจากเดิมประมาณ 1 ล้านบาทเลยครับ
2.โปะเงินต้น เพื่อลดดอกเบี้ยบ้าน
เมื่อมีบ้านเป็นของตนเอง สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือการวางแผนการเงิน ในแต่ละปีผู้ขอสินเชื่อจำเป็นต้องวางเป้าหมายไว้ว่า อยากมีเงินเก็บประมาณเท่าไหร่ เมื่อมีเป้าหมายแล้ว กระบวนการจัดสรรต่าง ๆ จะค่อย ๆ ตามมาเองโดยอัตโนมัติ เช่น อาจงดการซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ลดโปรแกรมเที่ยวประจำปี หรือลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นออกไป พร้อมกับหาช่องทางรายได้เพิ่มหรือแม้แต่เงินโบนัสประจำปีที่ทางบริษัทให้มา เมื่อนำมารวมกับเงินออมจะได้เงินก้อนที่สามารถนำมาใช้โปะเงินต้นได้ครับ
การโปะเงินค่างวดผ่อนบ้าน แตกต่างจากการเพิ่มค่างวดในแต่ละเดือน การโปะเงินต้นจะใช้วิธีใส่เงินก้อนเข้าไปทบกับเงินต้นในการผ่อนบ้าน ซึ่งการลดเงินต้นนี่เอง จะทำให้ดอกเบี้ยบ้านลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้น เมื่อเริ่มผ่อนบ้านแล้ว นอกจากจะหาเงินมาผ่อนบ้านตามค่างวดประจำ ควรอย่างยิ่งที่จะเก็บเงินเสริม เพื่อให้มีเงินก้อนสำหรับทบเงินต้นครับ
3.รีไฟแนนซ์ปรับดอกเบี้ย ผ่อนบ้านสบายใจ
โดยปกติอัตราดอกเบี้ยบ้าน จะเป็นไปตามโปรโมชั่นที่ธนาคารกำหนดไว้ สำหรับการขอสินเชื่อบ้านในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบดอกเบี้ยถูกในระยะสั้นและลอยตัวในระยะยาว เช่น ธนาคารจัดโปรโมชั่นผ่อน 3 ปีแรก ดอกเบี้ย 0 – 3% แต่หลังจากปีที่ 3 เป็นต้นไป จะใช้วิธีคำนวณดอกเบี้ยตามสภาพเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้น ๆ ซึ่งโดยค่าเฉลี่ยปัจจุบันมีอัตราดอกเบี้ยประมาณ 6-7 % ทำให้ผู้กู้ต้องแบกรับค่าดอกเบี้ยมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว และจุดนี้เองทำให้มีกระบวนการรีไฟแนนซ์มาทดแทนครับ
การรีไฟแนนซ์ คือการขอสินเชื่อใหม่ เพื่อนำเงินที่ขอกู้ใหม่ไปปิดหนี้เก่า หากดอกเบี้ยใหม่ถูกลง จะช่วยลดผลรวมของหนี้ได้ดีกว่าเดิม แต่ทั้งนี้ผู้ขอสินเชื่อจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคัดเลือกโปรโมชั่นจากธนาคารต่าง ๆ พร้อมกับวิเคราะห์อย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจได้ว่า การรีไฟแนนซ์จะช่วยลดหนี้ได้จริง ในเนื้อหาชุดนี้ ขอยกตัวอย่างการคำนวณ โดยอิงจากอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ของธนาคารกรุงศรี ในแคมเปญ กรุงศรีรีไฟแนนซ์ มาให้เห็นเป็นตัวอย่างครับ
ตัวอย่างการคำนวณรีไฟแนนซ์
โปรโมชั่นกรุงศรีรีไฟแนนซ์ ในปีแรกมีดอกเบี้ยต่ำ 0.75% ต่อปี นาน 1 ปี และดอกเบี้ย 3 ปีแรก เฉลี่ยประมาณ 3% (เฉพาะบ้านพักอาศัย บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม ทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียม) พร้อมกับฟรีค่าประเมินหลักประกัน ซึ่งโดยปกติจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 บาท หรือขึ้นอยู่กับธนาคารนั้น ๆ โดยผู้กู้สามารถกู้ได้ 95% ของวงเงินกู้ที่ได้จากการประเมินหลักประกัน
ตัวอย่างโปรโมชั่นดังกล่าวนี้ ทางกรุงศรีรีไฟแนนซ์ได้คำนวณมาให้ กรณีมียอดเงินกู้คงเหลือ 3 ล้านบาท หากทำการรีไฟแนนซ์กับกรุงศรีรีไฟแนนซ์ ในระยะเวลา 25 ปี สามารถประหยัดดอกเบี้ยตลอดสัญญา ประมาณ 1.77 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขไม่น้อยเลยครับ
* หมายเหตุ : ทางธนาคารได้คำนวณเปรียบเทียบจากอัตราดอกเบี้ยคงที่ 6% ต่อปี และมีค่าเงินผ่อนชำระต่อเดือนเท่า ๆ กัน ส่วนการคำนวณดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ลดลง คิดจากอัตราดอกเบี้ย 2.95% ต่อปี
ทั้ง 3 ข้อที่แนะนำไว้ข้างต้นนี้ เป็นวิธีการสำคัญของการลดดอกเบี้ยบ้าน ช่วยให้ผู้ผ่อนปิดหนี้บ้านไวยิ่งขึ้น อ่านมาถึงจุดนี้แล้วอย่าเพิ่งเครียดไปกับการผ่อนบ้านนะครับ ในทางกลับกัน อยากให้ผู้ผ่อนรู้สึกสนุกไปกับการชำระค่างวดในแต่ละงวด เพราะทุก ๆ ครั้งที่เราได้จ่ายค่างวด ได้โปะ หรือได้รีไฟแนนซ์ ทั้งเงินต้นและเงินดอกได้ลดไปจำนวนมาก ฝึกที่จะวิเคราะห์ คำนวณให้เป็น คิดซะว่าการผ่อนครั้งนี้เป็นเสมือนการเล่นเกมที่ต้องผ่านด่านแต่ละด่านไปให้ได้ ยิ่งผ่านไวแค่ไหนโอกาสของชัยชนะย่อมอยู่อีกไม่ไกล ขอให้สนุกกับการผ่อนบ้านนะครับ ^_^ http://www.tb-credit.ru/microkredit.html