original U

ออกแบบห้องแต่งตัว ให้เหมาะกับสิ่งที่เป็น

เรามักได้ยินคำกล่าวที่ว่า ห้องนอน เป็นห้องที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนแต่ละบุคคลมากที่สุด แต่หากให้เจาะรายละเอียดลึกไปกว่านั้น สิ่งที่บ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ ความแตกต่างของแต่ละบุคคลได้อย่างชัดเจน คือ ตู้เสื้อผ้าหรือ Walk-in Closet พื้นที่บรรจุของใช้ส่วนตัว ทั้งเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ แว่นตา และ Accessories ต่าง ๆ ที่ขึ้นอยู่กับการแต่งกายของแต่ละบุคคล

การออกแบบโซนแต่งตัวและพื้นที่จัดเก็บ จึงไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ขึ้นอยู่กับความเป็นตัวตนของบุคคลนั้น ๆ ก่อนจะออกแบบจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสำรวจไลฟ์สไตล์และของใช้ส่วนตัวอย่างละเอียด เพื่อสามารถวางแผนการจัดเก็บได้อย่างเป็นระเบียบและใช้งานสะดวก เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” นำแนวทางการออกแบบห้องแต่งตัว ทั้งขนาด สัดส่วน ฟังก์ชัน เพื่อสร้างห้องแต่งตัวในแบบฉบับ original U ตอบโจทย์ในสิ่งที่ฉันเป็น พร้อมกับนำตัวอย่างห้องแต่งตัวสวย ๆ จากโชว์รูม SB Design Square มาให้ชมเป็นแนวทางครับ

สนับสนุนโดย : SB Design Square

สำรวจความเป็น original U

ห้องแต่งตัวของแต่ละบุคคล ย่อมมีความแตกต่าง บางท่านเน้นการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่เน้นเครื่องแต่งกาย ขอแค่มีพื้นที่จัดเก็บเล็ก ๆ ภายในห้องนอนอย่างเป็นระเบียบก็เพียงพอ บางท่านของใช้เยอะขึ้นมาหน่อย อาจแบ่งซอยพื้นที่ภายในห้องเพื่อกั้นโซนห้องแต่งตัวออกจากห้องนอน แต่สำหรับท่านที่ชื่นชอบการแต่งตัวเป็นชีวิตจิตใจ อัปเทรนด์ อัปแฟชั่นสดใหม่อยู่เสมอ การมีห้องแต่งตัวแยกไว้อีกห้องใกล้ ๆ ห้องนอน ย่อมตอบโจทย์การใช้งานจริงได้ดีกว่า ภาพรวมของประเภทห้องแต่งตัว จึงแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ตามขนาดและฟังก์ชันการใช้งาน ดังนี้

1. ห้องเล็ก พื้นที่จำกัดก็จัดได้

สำหรับผู้อ่านที่เน้นความเรียบง่าย อาศัยอยู่ในคอนโดหรือห้องนอนมีพื้นที่จำกัด การออกแบบที่สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด คือ การ Built-in จัดวางตู้เสื้อผ้าและมุมแต่งตัวให้เต็มพื้นที่ด้านใดด้านหนึ่ง โดยเน้นออกแบบให้ตู้ดูเรียบเนียนไปกับผนัง ซึ่งปัจจุบันสามารถเลือกหน้าบานตู้ให้สอดรับกับสไตล์ของห้องได้อย่างหลากหลาย จะช่วยให้ตู้ดูพรางตาไปกับห้อง แลดูกว้าง ไม่อึดอัด

เช่น ห้องสไตล์ Modern Luxury เหมาะกับการติดหน้าบานเป็นกระจกที่ให้ความรู้สึกหรูหราและส่องสะท้อนพื้นที่ให้มีความลึกกว้างขึ้นกว่าเดิม หรือห้องสไตล์คันทรี่ เหมาะกับตู้ไม้บานเปิดเป็นช่อง ๆ สลับบานตู้ลูกฟักที่ดูอ่อนโยน

ห้องนอน Modern Luxury หน้าบานตู้เสื้อผ้ากลมกลืนกับดีไซน์ห้อง

สิ่งสำคัญในการออกแบบ Built-in ตู้เสื้อผ้าภายในห้องนอน คือการจัดการกับความเป็นระเบียบ และป้องกันฝุ่นที่เกิดจากผ้า ควรอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกตู้ชนิดมีหน้าบานปิดเท่านั้น และจะดียิ่งขึ้นหากเลือกหน้าบานระบบ Soft Close ช่วยลดเสียงกระทบเวลาเปิดปิด โดยเฉพาะห้องที่ต้องนอนร่วมกัน 2 คน จะไม่รบกวนต่อกันครับ

2. ห้องขนาดกลาง แบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วน

หากขนาดห้องนอนมีความกว้างเพียงพอที่จะแบ่งพื้นที่ เช่น มีขนาด 4×6 เมตรขึ้นไป การแบ่งกั้นห้องแต่งตัวเป็นพื้นที่เล็ก ๆ แยกจากห้องนอน จะช่วยให้ห้องนอนดูเป็นระเบียบ จัดการกับระบบต่าง ๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยตำแหน่งที่ใช้แบ่งกัน ควรเลือกพื้นที่ระหว่างโซนห้องนอน กับ ห้องน้ำ จะช่วยให้การใช้งานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ตรงตามพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน

การกั้นห้อง สามารถทำได้หลายวิธี หลายวัสดุ ทั้งการเลือกใช้ผนังเบา ผนังกระจก หรือแม้แต่การทำ Built-in ปิดกั้นพื้นที่ไปในตัว จะช่วยให้เกิดพื้นที่จัดเก็บทั้ง 2 ด้าน ส่วนสำคัญคือการเว้นพื้นที่ทางเดิน โดยให้เผื่อความกว้างของพื้นที่ทางเดินไว้ประมาณ 80 cm ขึ้นไป ส่วนความลึกของตู้ โดยปกติแล้วจะมีขนาด 60 cm หากห้องนอนมีพื้นที่เหลือ 1.6 เมตรขึ้นไป ก็สามารถกั้นพื้นที่แต่งตัวภายในห้องนอนได้แล้วครับ

ห้องแต่งตัวอยู่ด้านหลังของเตียงนอน กั้นโซนด้วยพาทิชั่น แอบซ่อนตู้เสื้อผ้าไว้อย่างน่าสนใจ

อีกหนึ่งข้อดีของการกั้นพื้นที่ จะช่วยให้ห้องนอนไม่ได้รับผลกระทบจากการจัดเก็บเสื้อผ้า จึงสามารถออกแบบในลักษณะเปิดโล่งได้ เพื่อให้เข้าไปหยิบใช้งานเสื้อผ้าได้ง่ายโดยไม่ต้องเผื่อระยะบานตู้ หรือหากต้องการใส่หน้าบานตู้ ควรเลือกบานสไลด์เลื่อน เพื่อไม่ให้เปลืองพื้นที่เปิดหน้าบาน และเลือกบานวัสดุกระจกเงาเป็นบางส่วน เพื่อสะท้อนให้ห้องกว้างและยังทำหน้าที่สะท้อนรูปร่างอันสวย หล่อ ของเราอีกด้วยครับ

3. ห้องขนาดใหญ่ จัดแยกอย่างจัดเต็ม

สำหรับผู้อ่านที่รักการแต่งตัวเป็นชีวิตจิตใจ เป็นนักสะสมไอเท้มบนเรือนร่างหรือมีของใช้ส่วนตัวเป็นจำนวนมาก การแยกห้องแต่งตัวออกจากห้องนอน จะช่วยรองรับการใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ส่วนขนาดห้องจะกว้างใหญ่แค่ไหน ขึ้นอยู่กับปริมาณของใช้แต่ละบุคคล ก่อนออกแบบจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนับของใช้ที่ต้องการจัดเก็บทุกชิ้น ทั้งรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า เครื่องประดับ ชุดเครื่องนอน และอื่น ๆ ที่จำเป็น โดยให้แยกโซนการจัดเก็บไว้อย่างชัดเจน ชิ้นไหนใช้บ่อยเลือกตำแหน่งที่หยิบสะดวก ชิ้นไหนนาน ๆ หยิบมาใช้ที อาจเลือกเก็บไว้บนที่สูง หรือปิดหน้าบานเพื่อกันฝุ่นไว้ย่อมดีครับ

ตัวอย่าง Walk-in Closet แบบสองฝั่งหรือเป็นรูปตัว U ที่เหลือพื้นที่ตรงกลาง หากจะวางตู้เครื่องประดับ (Island) ต้องเว้นพื้นที่ทางเดินข้างๆ อย่างน้อยที่สุด 80 cm ทั้งสองด้าน เพื่อไม่ให้กีดขวางทางเดินและง่ายกับการดึงลิ้นชักหรือเปิดบานหยิบของได้อย่างไม่ติดขัด

ห้องแต่งตัวโดยปกติจะมีการใช้งานร่วมกับห้องน้ำ จึงควรอยู่ใกล้กับห้องน้ำ อาจจะกั้นกลางระหว่างห้องน้ำ จะช่วยลดความชื้นจากห้องน้ำ ไม่ให้เข้าสู่ห้องนอนได้อีกด้วย

Tips : จัดเก็บอย่างไร ให้เพียงพอตลอดกาล

ปัญหาใหญ่ของห้องแต่งตัว มักไม่ได้เกิดขึ้นหลังจากทำห้องแต่งตัวเสร็จใหม่ แต่ปัญหามักเกิดขึ้นเมื่อผ่านพ้นไปหลายปี เพราะยิ่งนานวัน ปริมาณไอเท้มเครื่องแต่งกายจะยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นทวีคูณ ส่งผลให้พื้นที่จัดเก็บไม่เพียงพอและอาจรุกราม รกสายตาไปถึงห้องนอนได้ ผู้เขียนจึงขอเสนอ กฎ 1 ข้อ ที่ได้มาจากคุณคนโด มาริเอะ ผู้เขียนหนังสือ “ชีวิตดีขึ้นทุก ๆ ด้าน ด้วยการจัดบ้านแค่ครั้งเดียว” ภายในหนังสือมีแนวคิดในการจัดบ้านมากมาย แต่มีแนวคิดหนึ่งที่น่าสนใจ ช่วยให้พื้นที่จัดเก็บเพียงพอตลอดกาลได้ นั่นคือ “ของทุกชิ้นต้องมีพื้นที่อยู่ และหากมีของชิ้นใหม่เข้ามาเพิ่ม นั่นหมายถึงว่า ต้องยอมสละของชิ้นเก่าออกก่อน เพื่อรองรับของชิ้นใหม่มาแทนที่”

กฎข้อนี้ ไม่เพียงแค่ช่วยจัดการพื้นที่จัดเก็บได้อย่างอยู่หมัด แต่ยังช่วยเตือนสติให้เราคิดพิจารณาก่อนซื้อมากยิ่งขึ้น และช่วยให้เรากำจัดของใช้ที่ไม่จำเป็นจากชีวิตออกไป เพราะของใช้ในตู้หลาย ๆ ชิ้น อาจเป็นของที่ไม่ได้ใช้มานานหลายปี การไม่ได้ใช้มีค่าเท่ากับไม่มี หาวิธีกำจัด อาจด้วยการบริจาค ขายมือสอง หรืออื่น ๆ ย่อมเกิดประโยชน์กว่ามากครับ

เพราะไลฟ์สไตล์ ความเป็นส่วนตัวของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน การออกแบบห้องแต่งตัวของแต่ละคน จึงไม่อาจเหมือนกันได้ จำเป็นต้องดีไซน์ให้เป็น ออริจินัล ยู เพื่อให้เกิดการใช้งานที่ลงตัวพร้อมกับดีไซน์ที่ถูกใจ ห้องแต่งตัวแม้จะเป็นพื้นที่เล็ก ๆ แต่นับเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตในแต่ละวัน

สำหรับผู้อ่านที่ต้องการห้องแต่งตัวในแบบฉบับ original U แต่ยังไม่รู้ว่าจะออกแบบอย่างไร ให้ลงตัว สามารถเข้ามาปรึกษาได้ฟรี ที่ SB Design Square ทุกสาขา ที่นี่ไม่ได้มีแค่เฟอร์นิเจอร์สําเร็จรูปแบบลอยตัวให้เลือกเท่านั้น แต่ยังมีบริการออกแบบโดยอินทีเรียดีไซน์เนอร์มืออาชีพ (ฟรี) สามารถสั่งทําเฟอร์นิเจอร์ Built-in ในแนวคิด Customized Series ให้คุณสามารถปรับเปลี่ยน ขนาด ดีไซน์ของหน้าบาน และฟังก์ชันภายในตู้ได้ตามความต้องการ ตรงกับการใช้งานจริงมากที่สุด พร้อมมีตัวอย่างห้องแต่งตัวจริงให้ดู ให้สัมผัส ในเนื้อหาชุดนี้เป็นเพียงบางส่วนภายในโชว์รูม SB Design Square เท่านั้นครับ