บ้านสองชั้นสร้างใหม่ ตกแต่งให้เข้ากับบ้านเก่าข้างเคียง
การสร้างบ้านสักหลังนอกจากจะคำนึงถึงความสวยงามของดีไซน์บ้าน วัสดุที่ใช้ การตกแต่ง งบประมาณแล้ว ยังต้องคำนึงถึงอะไรอีกบ้างครับ หลาย ๆ ท่านอาจจะคิดว่าครบแล้วนี่นา ยังจะต้องมีอะไรให้คิดอีก คำตอบอยู่ที่บ้านหลังนี้ครับ เพราะที่นี่เป็นบ้านสร้างใหม่ในออสเตรเลีย แต่บริบทรอบข้างเป็นบ้านยุคเก่าตั้งแต่ช่วงปี 1950 หรือประมาณปี พ.ศ. 2493 การจะสร้างบ้านที่แวดล้อมด้วยสถาปัตยกรรมแบบเก่าให้โดดเด้งออกมาเป็นรูปลักษณ์แบบโมเดิร์นนั้นไม่ได้รับการอนุญาต ดังนั้นสถาปนิกจึงต้องทำการศึกษารูปแบบการนำเสนอ ทั้ง Form สัดส่วนของบ้าน และการเลือกใช้วัสดุที่ยอมรับได้ จนออกมาเป็นบ้านสองชั้นอารมณ์ไม้หลังสวย
ออกแบบ : Breath Architect
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
Stonewood คือ บ้านชื่อเข้ม ๆ เข้ากับสีน้ำตาลหลังนี้ ตั้งอยู่บนถนนที่มีต้นไม้เรียงราย ซึ่งเป็นเสน่ห์ของย่านชานเมืองด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ถนนเส้นนี้นอกจากมีต้นไม้สวย ๆ แล้วยังเป็นชุมชนที่เต็มไปด้วยบ้านยุคเก่าสร้างตั้งแต่ช่วงปี 1950 – 1960 เป็นพื้นที่มรดกทางสถาปัตยกรรม เมื่อ Breathe ต้องเข้ามาปรับปรุงบ้านจึงพบกับความยุ่งยากในการยื่นแบบปรับปรุงอาคาร เพราะที่ออสเตรเลียให้ความสำคัญกับภาพรวมของชุมชนมาก จนสถาปนิกลองใช้กลยุทธ์การทำเปลือกบ้านด้วยไม้ที่หน้าตาทันสมัยขึ้นแต่ไม่ฉีกออกจากบ้านหลังอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียง ดูกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม ทำให้แบบนี้ผ่านการพิจารณาในที่สุด
อาคารเดิมทำจากไม้ต้นศตวรรษที่ยี่สิบซึ่งอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมมาก มีทั้งปลวกและเชื้อราทำให้ไม้ผุพังยากต่อการปรับปรุง และถ้าจะทำจริง ๆ ก็เสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเยอะมาก เจ้าของบ้านที่มีสมาชิกในบ้านรวม 5 คน จึงตัดสินใจที่จะรื้อบ้านเดิมทิ้งแล้วสร้างใหม่ในพื้นที่เดิม ด้านหน้าตัวบ้านปิดทับด้วยงานไม้ดูคล้ายแผ่นอิฐ เข้ากันได้ดีกับบ้านข้าง ๆ ที่เป็นบ้านเก่าทำจากหิน Blue stone มีเฉลียงหน้าบ้านปูด้วยไม้ บริเวณกันสาดที่ยื่นออกมาเป็นโครงเหล็กสีดำตีระแนงไม้ ทำให้รู้สึกได้ถึงความแข็งแรงและความอบอุ่นเป็นมิตรไปพร้อม ๆ กัน
การออกแบบบ้านหลังนี้มีจุดที่น่าสนใจหลากหลาย นอกจากจะสร้างบ้านโดยยึดธีมของสีและวัสดุ โดยยึดความเข้ากันกับเพื่อนบ้านเป็นหลักแล้ว ภายในยังมีฟังก์ชั่นที่น่าสนุก อย่างเช่น ประตูที่ทำหน้าที่เป็นบานหน้าต่างในชิ้นเดียว เป็นประตูไม้ขนาดใหญ่ตีเว้นช่องให้เป็นหน้าต่างอยู่บนโครงเหล็ก ทำเป็น 2 บานปิดเข้าหากันได้จาก 2 ด้านของผนัง เมื่อต้องการความเป็นส่วนตัวก็ปิดได้โดยที่ยังเชื่อมต่อกับพื้นที่ภายนอกได้ผ่านช่องว่างระหว่างแผ่นไม้และช่องหน้าต่าง
พื้นปูหินอ่อนโทนสีเดียวกับโซฟาและหมอน เหลือง เทา ดำ ขาว เป็นลูกเล่นที่ใช้ชุดคู่สีมาทำให้บ้านดูมีสีสันของความสนุกกระจายอยู่ทั่วบ้าน ไม่ได้มีแต่ความอบอุ่นจากผนังไม้อย่างเดียว
ห้องครัวเป็นอีกหนึ่งสีสันของตัวบ้านที่ไม่หลุดธีมออกจากส่วนอื่น ๆ ในบ้าน ด้วยการใช้สีเฟอร์นิเจอร์และวัสดุตกแต่งโทนสี ดำ เหลือง ขาว เทา ได้ลงตัว เป็นไอเดียการตกแต่งน่ามองมาก ๆ เริ่มจากชุดตู้บิวท์อินบานไม้สีอ่อน ๆ ตามธรรมชาติของตัวเนื้อไม้ เข้าชุดกับไอซแลนด์ท็อปไม้ที่ดีไซน์ให้มีการลดมุมเข้ามารับกับโซนวางเก้าอี้นั่งทานอาหารได้จังหวะพอดิบพอดี ตรงจุดนี้สิ่งที่สะดุดสายตาที่สุดคือ splash back หรือส่วนตกแต่งผนังเหนือเตากันน้ำมันกระเด็นเปรอะเปื้อน ใช้กระเบื้องรูปร่างสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนมาใล่เฉดสีบริเวณมุม ทำให้ดูคล้ายลูกศรชี้ขึ้นลง เมื่อเปิดไฟยิ่งส่องสะท้อนความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น
ส่วนอื่น ๆ ของบ้านดูอ่อนโยนเป็นมิตร ด้วยการกรุไม้ทั้งไม้จริง ไม้อัดลายไม้ ประดับด้วยของแต่งบ้านทำจากไม้หลาย ๆ เฉดสี
ผนังหัวเตียงกรุไม้สีเข้มไปกันได้ดีกับชุดเครื่องนอนสีเทาขรึม ๆ แต่แอบเบรกความนิ่งของสีด้วย หมอนและผ้าห่มสีเหลือง-ขาว
การตกแต่งห้องน้ำด้วยตู้ไม้สี่เหลี่ยม ถูกลดทอนความแข็งลงด้วยผนังกรุด้วยกระเบื้องหกเหลี่ยมสไตล์เรโทรชิ้นเล็ก ๆ และกระจกทรงกลมขนาดใหญ่ ให้อารมณ์เหมือนย้อนกลับไปช่วงปี 1950-1970
Eames Chair รายละเอียดการตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่บอกเล่าเรื่องราวในห้องได้ดี เก้าอี้สไตล์นี้ออกแบบมาตั้งแต่ปี 1956 โดยสองสามีภรรยาชาวอเมริกันที่เป็นทั้งสถาปนิกและดีไซน์เนอร์ Charles และ Ray Eames ร่วมกันออกแบบเก้าอี้ให้เข้ากับสรีระของผู้ใช้ในยามนั่ง จนกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่มีความคลาสิคไร้ที่ติทั้งในแง่การใช้งานและความสวยงาม
ทุกมุมของบ้านนอกจากจะเข้ากับบ้านในภาพรวมแล้ว ในแต่ละจุดยังตกแต่งให้เข้ากันเป็นหนึ่งเดียว เช่น มุมทำงานเล็ก ๆ นี้ เน้นธีมสีขาว – ดำ และงานไม้ สถาปนิกจึงทาผนังห้องและภายในตู้วางของด้วยสีดำ วางเก้าอี้สีดำให้เข้าชุดกัน ตัดกับผนังสีขาวและท็อปโต๊ะทำจากไม้แผ่นใหญ่
การสร้างบ้านถ้าคำนึงถึงบริบทอื่น ๆ โดยรอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นลักษณะภูมิสถาปัตย์ ลักษณะของพื้นที่ ถ้ารวมไปถึงความเข้ากันได้กับบ้านข้างเคียง เหมือนบ้านหลังนี้ที่เอาใจใส่ต่อความรู้สึกโดยภาพรวมของชุมชนและเพื่อนบ้านก็คงจะดีมากๆ เลยครับ เพราะจะทำให้มีความกลมกลืนอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย และกลายเป็นความสวยงามในที่สุดนั่นเองครับ http://www.tb-credit.ru/microzaimy.html
