บ้านร่วมสมัยสองชั้น

บ้าน ไม่ใช่เพียงสิ่งก่อสร้างที่ไร้ชีวิตชีวา แต่มีคนและความเคลื่อนไหวอยู่ในนั้น ระหว่างพื้นที่แต่ละตารางเมตรจึงต้องคิดให้สเปซตอบสนองการทำกิจกรรมของผู้อยู่อาศัยให้มากที่สุด สร้างบรรยากาศของความผ่อนคลาย ความไว้วางใจ ความอบอุ่นซึ่งอาจจะมาจากการได้ใ้พื้นที่ร่วมกันของครอบครัว หรือความอบอุ่นที่เกิดขึ้นจากองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น ดีไซน์บ้าน สี วัสดุ ของแต่งบ้านที่ประกอบเข้าไว้ด้วยกัน ในยุคสมัยที่ผ่านไปหลาย ๆ คนยังมีภาพจำเดิม ๆ ที่คุ้นเคยและอยากยกมาเก็บไว้ แล้วตีความใหม่ให้ทันสมัยขึ้น ซึ่งบ้านหลังนี้ตอบได้ในทุกสิ่งที่ว่ามา

ออกแบบ : S Pace Studio
ก่อสร้าง|ตกแต่งภายใน : K Kitrungruang
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านร่วมสมัยคลาสสิก สบาย และอบอุ่น

บ้านสร้างใหม่ขนาดพื้นที่ใช้สอย 235 ตร.ม. หลังนี้มีชื่อว่า “บ้านฟ้าบ่กั้น” สร้างอยู่ที่ อ.น้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ประเทศไทยของเรานี่เอง เป็นบ้านที่สะดุดตาตั้งแต่แรกเห็นด้วยดีไซน์หลังคาจั่วตกแต่งฟาซาดอิฐช่องลมร่วมสมัย แต่ละองค์ประกอบได้กลิ่นอายสถาปัตยกรรมยุคเก่าคลาสสิก แต่เข้ากันได้อย่างกลมกล่อมกับความเป็นโมเดิร์นที่แอบซ่อนอยู่ภายใน มองจากด้านหน้าบ้านจะสัมผัสได้ถึงแนวคิดที่เน้นนำเสนอความโปร่งโล่ง แนบชิดธรรมชาติ ปนความอบอุ่น มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อและตอบโจทย์ใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของยุคสมัยปัจจุบันได้ดี

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

จากทางรถวิ่งนำเข้าสู่บ้านสร้างเส้นสายตาที่พริ้วไหวน่าสนใจด้วยเส้นสายของพื้นคอนกรีตที่ไม่ได้ลาดเทเป็นแนวตรงๆ ปูกรวดเว้นที่ว่างโค้งรับเสาโรงรถที่เป็นเหมือนศาลาขนาดใหญ่ต้อนรับการมาถึงด้วยความเป็นมิตร จากโรงรถค่อย ๆ พาเชื่อมต่อเข้าสู่พื้นที่บ้านผ่านสวนและบันไดที่ต่อเนื่องกับเฉลียง ทำให้การเดินทางไม่ขาดตอน ผนังทึบที่ก่อด้วยอิฐแดงไม่ฉาบทับให้ความรู้สึกแบบบ้าน ๆ และเป็นธรรมชาติ

สวนและหลังคาเจาะรู ฟังก์ชันที่จัดใหม่ให้น่ามอง

หลังคาคือส่วนที่ต้องมิดให้มิดชิดป้องกันพื้นที่จากแดดฝน บ้านก็ส่วนบ้าน สวนก็ส่วนสวน ต้นไม้ที่สูงเกินหลังคาก็ต้องตัดทิ้ง แต่บ้านยุคใหม่หลาย ๆ หลังเลือกเจาะเป็นที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้า เพื่อปล่อยให้ต้นไม้ได้เติบใหญ่ผ่านช่องนั้น เป็นการเชื่อมโยงธรรมชาติกับตัวบ้านให้เป็นส่วนเดียวกันอย่างแนบสนิท

เปิดโปร่งชวนผ่อนคลายในชั้นล่าง

ชั้นล่างของตัวบ้านติดประตูบานเฟี้ยมและหน้าต่างกระจกที่เปิดออกได้กว้าง ครอบคลุมพื้นที่ทั้งสองด้านของตัวบ้านในห้องทานอาหารและห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นหัวใจหลักของบ้าน ผนังที่เปิดได้จนหมดรับแสงธรรมชาติและช่วยระบายอากาศ ให้สายลมธรรมชาติพาดผ่านเข้ามากล่าวทักทายได้ตลอดทั้งวัน ด้านหน้าของบ้านเป็นเฉลียงไม้ที่ชวนให้ออกมานั่งเล่นในวันที่อากาศดี ๆ หรือนอนเอกเขนกเล่นให้สบายใจ ถ้าอยากเดินเล่นกลางสนามหญ้า หรือปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ในโอกาสพิเศษก็ใช้ได้ง่าย ๆ เพียงเดินออกไปไม่กี่ก้าวก็พร้อมทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ชื่นชอบ

ห้องหนังสือ มุมพิเศษของคนรักการอ่าน

ห้องนั่งเล่นคือส่วนที่ทุกคนให้ความสำคัญมากที่สุด จากสัดส่วนพื้นที่ภายในที่มีขนาดใหญ่ เจาะเพดานเป็นโถงสูงแบบ Double space เชื่อมต่อพื้นที่แนวตั้งระหว่างชั้น 1 และชั้น 2 เข้าด้วยกัน ให้ความรู้สึกถึงความพิเศษกว่าพื้นที่อื่น ๆ ในชั้นเดียวกัน ผนังที่อัดแน่นไปด้วยหลังสือบนชั้นเต็มผนัง ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้ว่าเจ้าของบ้านรักหนังสือและการอ่านมากแค่ไหน เฉพาะมุมนี้ใครที่เป็นหนอนหนังสือก็สามารถขลุกใช้ชีวิตอยู่ได้เกือบทั้งวัน

พื้นที่ชั้นล่างเป็นส่วนกลางที่ใช้งานร่วมกัน ประกอบด้วย ห้องนั่งเล่นพักผ่อนที่ทำหน้าที่ห้องอ่านหนังสือไปด้วยในตัว ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว วางผังแบบ Open Plan ที่ไม่มีผนังทึบแบ่งสัดส่วน มีเพียงวัสดุปูพื้นที่แตกต่างชนิด เป็นจชตัวช่วยบ่งบอกขอบเขตการใช้งาน ทำให้บ้านดูโปร่งโล่งไม่มีผนังมากั้นให้เกิดอุปสรรคในการใช้งานและการไหลเวียนของอากาศ แสง รวมถึงการสัญจรภายใน

โต๊ะทานข้าวงานไม้ตกแต่งโคมไฟไม้ดีไซน์เก๋ๆ ชวนให้สะดุดตา ถัดไปอีกนิดเป็นห้องกระจกที่จัดเป็นครัวที่มีประตูบานเลื่อนกระจก เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่และปิดพื้นที่ยามประกอบอาหาร เป็นวิธีใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ทุกคนในบ้านมองเห็นกันและสามารถมีส่วนร่วมกันได้หมด ไม่มีส่วนไหนที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

ครัวใหม่ที่ใส่กลิ่นอายชนบทวันวาน

เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว U ที่หมุนตัวหยิบจับใช้งานได้รอบทิศทาง พื้นที่กว้างขวางพอที่จะเข้ามาช่วยทำครัวได้พร้อมกันหลายสเตชัน ผนังใส่ช่องเปิดเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งกรอบไม้หลาย ๆ บาน เลือกเปิดรับลมระบายอากาศได้เต็มที่ บนเตามีหวดกับหม้อนึ่ง ฝาชีไผ่สาน ของใช้ในครัวคู่บ้านชนบทตั้งแต่อดีต สานความทรงจำของความอบอุ่นจากรุ่นปู่ย่าตายายที่ส่งต่อมาให้หวนรำลึกถึง เป็นความน่ารักเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในครัวแบบตะวันตกที่ชวนให้ยิ้ม

ห้องนอนที่มีสวนในกล่องกระจก

ในด้านการตกแต่ง ทุกห้องจะเน้นโทนน้ำตาลแดงจากอิฐกับสีน้ำตาลเข้มจากไม้ มีแทรกสีขาวกับปูนเปลือยบ้างตามจังหวะที่เหมาสะมกับการใช้งาน ในห้องนอนก็เช่นกัน นักออกแบบสร้างองค์ประกอบต่างๆ ภายใน ไม่ว่าจะเป็น พื้นห้อง ผนังห้อง และเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จากไม้ ตกแต่งผนังส่วนหัวเตียงด้วยอิฐโชว์แนวดิบๆ ผนังฝั่งตรงข้ามเตียงเป็นบานบิวท์อินที่ซ่อนฟังก์ชันตู้เก็บของเอาไว้อย่างแนบเนียน และเจาะช่อง แบ่งเป็นพื้นที่นั่งทำงานอ่านหนังสือ เป็นการผสมผสานระหว่างวัสดุและฟังก์ชันเก่าและใหม่อย่างลงตัว

อีกด้านหนึ่งของห้องนอน แทนที่จะเป็นวัสดุปิดทึบเหมือนบ้านหลังอื่น ๆ แต่นักออกแบบกลับเลือกทำผนังกระจกโปร่งใส เพื่อเชื่อมต่อพื้นที่ห้องนอนเข้ากับกับระเบียงส่วนตัวที่จัดเป็นสวนกรวด ไม่ว่าจะฝนตกแดดออก ช่วงเช้าหรือช่วงค่ำ ฤดูกาลไหน ๆ เจ้าของห้องก็รับวิวทิวทัศน์ภายนอก มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติได้ตลอดเวลา

ห้องน้ำส่วนตัวที่สร้างไว้ในห้องนอน ตกแต่งด้วยปูนเปลือย ตัดเส้นสายตาด้วยกรอบไม้สีน้ำตาล ใส่เคาน์เตอร์ซิงค์ล้างมือด้วยหินอ่อนลายสวย แยกพื้นที่โซนแห้งและโซนเปียกด้วยผนังกระจกใส ทำให้ห้องดูโปร่งสว่าง ไม่แคบ มีความขัดแย้งที่ลงตัวจากความดิบกระด้าง ความหนาหนัก ความโปร่งเบา สัมผัสที่อบอุ่น และความหรูหราของวัสดุแต่ละชนิดที่นำมาประกอบกัน