
บ้านฟาซาดไม้
Casa Thomé Beira da Silva เป็นโครงการที่อยู่อาศัยพื้นที่รวม 1,800 ตร.ม. ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของบราซิลใกล้กับเมืองหลวงของปารานา ออกแบบโดยMarcos Bertoldi Arquitetos บริษัทสัญชาติบราซิลที่มีสำนักงานในเมือง Curitiba และ São Paulo เจ้าของบ้านต้องการที่อยู่อาศัยที่ผสมผสานกับธรรมชาติ ซึ่งขยายไปถึงสวนและสามารถทลายข้อจำกัดระหว่างการตกแต่งภายในและภายนอกได้ แนวคิดนี้จึงเป็นที่มาของบ้านที่เปิดผนังได้กว้างเหมือนไม่มีผนัง และยังมีส่วนประกอบของบ้านที่ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ทางสายตาที่น่าสนใจกับ Facade ที่ดูเหมือนลายลูกไม้ห่อหุ้มให้บ้านสวย
ออกแบบ : Marcos Bertoldi Arquitetos
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านนี้ตั้งอยู่ในกูรีตีบา ใกล้ชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล ตั้งแต่วินาทีแรกที่มาถึงบ้านนี้ จะเห็นภาพภายนอกที่ชวนประทับใจกับอาคารทรงกล่องบนเนินลาดเอียงเล็กน้อย ต้อนรับการมาถึงด้วยองค์ประกอบของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นสนามหญ้าเขียว ๆ มีแผ่นทางเดินหินนำทางสู่ตัวบ้าน แนวต้นไม้ทั้งหน้าบ้านและป่าพื้นเมืองอยู่ด้านหลัง บ้านหลังนี้ยังโดดเด่นด้วยผนังไม้เรียบๆ สีน้ำตาล เหนือขึ้นไปเป็นฟาซาดแผ่นไม้ซิกแซก ที่ดูแล้วด้านหน้าค่อนข้างปิดแต่กลับสร้างการตกแต่งที่เต็มไปด้วยแสงภายใน
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
เจ้าของบ้านอยากได้รูปแบบการสานของเครื่องจักสานญี่ปุ่น และเพิ่มช่องว่างและรอยแยกเข้าไป ผลที่ได้คือการเล่นแสงและเงาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะถูกฉายเป็นภาพต่าง ๆ ในพื้นที่ภายใน บนผนัง พื้น และองค์ประกอบทั้งหมดของโครงการ ซึ่งรูปแบบจะเปลี่ยนไปตลอดทั้งวันและตามฤดูกาลของปี
จากถนนหน้าบ้านมีผนังไม้ที่ปิดบังประตูทางเข้าและสร้างทางเดินที่คดเคี้ยวไปยังทางเข้าหลักของบ้าน ใกล้กับทางเข้าสู่ตัวบ้าน มีสระน้ำที่สว่างไสวด้วยสกายไลท์กรอบเหล็กสีดำอันน่าทึ่ง ตั้งอยู่ภายในตู้ไม้ที่ด้านหนึ่งของทางเข้า ก่อตัวเป็นลักษณะที่น่าสนใจในช่วงเริ่มต้นของผัง ทำให้มีแสงสะท้อนจากช่องรับแสงด้านบนเล่นไปตามพื้นผิว จากตรงนี้ จะมีพื้นที่จะแยกออกไปสู่ห้องสำหรับครอบครัวและห้องอ่านหนังสือด้านหนึ่งและห้องครัวอีกด้านหนึ่ง นำไปสู่ด้านหลังที่เปิดกว้าง
จากโจทย์ที่เจ้าของอยากได้บ้านที่ยื่นออกไปในสวน ที่เหมือนไม่มีขอบเขตระหว่างภายในและภายนอก โดยมีพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่ใช้สอยในระดับเดียวกับโซนกลางแจ้ง ทีมงานจึงทำผนังเป็นประตูกระจกบานเลื่อนสูงเต็มความสูงที่ซ่อนเข้ากับผิวผนังไม้ ทำให้แทบมองไม่เห็นผนังกระจกที่ห่อหุ้ม โดยใช้กระจกลามิเนตและกระจกคอมโพสิตที่มีความหนาต่างกัน เป็นผลให้ผนังเปิดออกอย่างสมบูรณ์
ในเมืองกูรีตีบาเป็นเมืองหลวงทางตอนใต้ที่สำคัญของบราซิล ตั้งอยู่เหนือระดับน้ำทะเล 950 ม. จึงมีอุณหภูมิต่ำที่สุดในบราซิล และทุกห้องถูกจัดวางให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ยกเว้นห้องนอนใหญ่ซึ่งหันหน้าไปทางป่าพื้นเมืองทางทิศตะวันตก ความท้าทายใหญ่ในโครงการนี้ คือ การประนีประนอมกับคำขอจากเจ้าของที่ต้องการการสร้างชายคาที่กว้างขวาง เพื่อขยายพื้นที่ใช้สอยด้านนอกห้องและคลุมปกป้องบ้านจากสภาพอากาศ ปัญหาคือองค์ประกอบนี้อาจทำให้เกิดอุปสรรคในการเข้ามาของแสงและดวงอาทิตย์ ทำให้สภาพแวดล้อมมืดลง ทีมงานจึงแก้ไขด้วยการสร้างโซลูชันบ้านความสูงสองเท่า และเปิดรับแสงและแสงแดดตลอดทั้งวันผ่านช่องเปิดเหนือชายคาและผนังรอบบ้าน เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นที่อยู่อาศัยมีแสงสว่างจากด้านบนตลอดทั้งปี
จุดที่ต้องโฟกัสสายตาในส่วนนี้ คงต้องยกให้บันไดวนขนาดใหญ่ ซึ่งสถาปนิก Marcos Bertoldi กล่าวว่าบันไดเป็นจุดสำคัญในการก่อสร้าง “มันเป็นองค์ประกอบหลักในการจัดองค์ประกอบภาพ เป็นมุมมองสำหรับพื้นที่หลักทั้งหมด ตั้งแต่ทางเข้า ห้องหลัก และส่วนหมุนเวียนด้านบนที่นำไปสู่ห้องนอน” การออกแบบบันไดเวียนพร้อมตู้ไม้ที่แผ่ลงมาจากชั้นบน จึงเป็นราวกับงานประติมากรรม ที่เพิ่มการเคลื่อนไหวให้กับอาคารริมสระน้ำ ในฐานะที่เป็นองค์ประกอบที่เป็นจุดเด่นอีกประการหนึ่งของการออกแบบ ที่ดูเคลื่อนไหว พริ้ว ลื่นไหล ซึ่งจะขัดแย้งกับความรู้สึกตรงไปตรงมาในการออกแบบทางเรขาคณิตส่วนใหญ่ให้เกิดความสมดุล
ด้านพื้นที่ใช้สอย สถาปนิกออกแบบให้ห้อง Living กว้างๆ มีพื้นที่นั่งเล่นหลายแห่งที่นี่ รวมถึงพื้นที่รับประทานอาหารที่ใช้ต้อนรับแขกเป็นทางการ ห้องรับแขกเล็กๆ และห้องสำหรับครอบครัวที่มีบรรยากาศสบายๆ พื้นที่เหล่านี้สามารถรวมเข้าด้วยกันในพื้นที่เดียว โดยมีผนังไม้ที่เลื่อนเปิดปิดได้ เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อหรือปิดให้เป็นสัดส่วน ซึ่งจุดนี้ก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของสถาปนิก ที่ต้องการสร้างการจัดวางห้องนั่งเล่นที่ยืดหยุ่น ทำให้การใช้งานระหว่างภายในทำได้อย่างง่ายดาย บ้านมีพื้นที่กว้างขวางสำหรับการสังสรรค์
ไม่เพียงพื้นที่ living ที่ได้มุมมองจากสนามหญ้า สระว่ายน้ำกลางแจ้งเท่านั้น แต่ในห้องครัวก็ยังถูกออกแบบให้มองออกไปยังลานสวนในบ้านที่จัดเอาไว้ให้ความสดชื่นเขียวชอุ่ม ครัวจึงไม่ใช่ห้องที่ถูกแยกออกไปต่างหากถูกตัดขาดจากฟังก์ชันอื่นๆ และไม่มีโอกาสได้สัมผัสบรรยากาศดีๆ อีกต่อไป
ชั้นบนสุดของบ้านถูกปกคลุมด้วยระบบฟาซาดไม้รูปร่างแบบก้างปลาสานโปร่งๆ ซึ่งครอบคลุมภายนอกเพื่อลดแสงส่วนเกิน สร้างความเป็นส่วนตัวให้ส่วนใช้งานในบ้านที่ต้องการ และยังเป็นองค์ประกอบตกแต่งภายในด้วย ขณะเดียวกันก็กำหนดขอบเขตของเฉลียงและระเบียงที่ทอดยาวไปตามแนวเส้นรอบวงของอาคาร
ห้องนอน 3 ห้อง จัดไว้ที่ชั้นบนสุด แต่ละห้องมีห้องน้ำในตัวและระเบียง จัดไว้ตามทางเดินชั้นลอยที่มองเห็นห้องนั่งเล่นข้างล่างได้ ทั้งหมดนี้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเปิดมุมมองสู่ถนนได้ สุดทางเดินเป็นห้องนอนหลัก ซึ่งเป็นห้องนอนเดียวที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก มองเห็นสระว่ายน้ำและป่าธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไป ภายในตู้เสื้อผ้าแบบวอล์กโคลสขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมากและอ่างอาบน้ำในตัว การตกแต่งทันสมัยและโฉบเฉี่ยวผสมผสานความรู้สึกเป็นธรรมชาติ เป็นการประกบรวมความร่วมสมัยและความรู้สึกแบบเขตร้อนได้อย่างลงตัว
ในตอนกลางวันแสงธรรมชาติจะมีความสำคัญทั่วทั้งสถาปัตยกรรม แต่บทบาทของแสงธรรมชาติจะเปลี่ยนไปหลังจากพระอาทิตย์ตกดิน ในตอนกลางคืน การออกแบบแสงไฟของบ้านจะเข้ามามีบทบาทแทน เปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นโคมไฟขนาดใหญ่ผสานแสงและไม้ให้เป็นหนึ่งเดียว
บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย : การควบคุมแสงนั้นมีผลอย่างมากต่อการสร้างสภาวะสบายให้เกิดขึ้นในบ้าน สำหรับบ้านในเขตหนาวควรเพิ่มช่องแสงขนาดใหญ่และใช้วัสดุกระจกใส เพื่อดึงแสงธรรมชาติให้เข้าไปสร้างความอบอุ่นภายใน ในขณะเดียวกันสำหรับบ้านเขตร้อน แม้จะต้องการหลีกเลี่ยงแสง แต่แสงธรรมชาติก็ยังมีความจำเป็น จึงควรมองหาทิศทางในการติดตั้งกระจกในทิศที่แสงมีคุณภาพไม่ทำให้บ้านร้อน เช่น ทิศเหนือ ทิศตะวันออก หากจำเป็นต้องติดในทิศที่รับแสงมาก ๆ อย่าง ทิศตะวันตก อาจแก้ไขด้วยการใส่ฟาซาดช่วยกรองแสง ติดม่านมู่ลี่ หรือใส่แนวต้นไม้ช่วยเพิ่มร่มเงา
|
แปลนบ้าน