บ้านสไตล์โมเดิร์น

ในทุกครั้งที่เจ้าของบ้านมอบหมายงานออกแบบให้สถาปนิก จะมีข้อกำหนดบางอย่างมาด้วยเพื่อให้บ้านออกมาตรงใจผู้อยู่อาศัยมากที่สุด บ้านหลังนี้ก็เช่นกัน “บ้านที่เราจะสบตากันได้ในทุก ๆ จุด” เป็นโจทย์สำหรับบ้านหลังนี้ สถาปนิกในเกาหลีใต้ Formative Architects ได้รับการติดต่อจากลูกค้า ซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาที่มีอายุประมาณ 40 ปลาย ๆ โดยมีคำขอพิเศษให้ออกแบบบ้านที่พวกเขาจะได้รับความสุขจากการแสดงตนของกันและกันตลอดเวลา ในขณะที่ดื่มด่ำกับชีวิตแบบชนบทอย่างช้าๆ

ออกแบบ : Formative Architects
ภาพถ่าย : Youngsung Koh
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

บ้านบนเนินที่เหมือนป้องปราการ

‘walden house’ เป็นชื่อโครงการนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่เนินขนาด 153 ตารางวาและมีความสูงรวม เจ้าของบ้านใฝ่ฝันที่จะใช้ชีวิตเงียบ ๆ ออกจากความวุ่นวายในเมืองได้ที่พื้นที่เล็ก ๆ ภรรยามีความปรารถนาที่จะใช้เวลาที่เหลือการดูแลสวนผักข้างสนามหญ้า คุณสามีสุขใจกับการดื่มกาแฟดริปที่ลงมือทำอย่างประณีตทุกเช้าพร้อมกับสูดความสดชื่นจากธรรมชาติ ภาพรวมของบ้านจึงเต็มไปด้วยลานกว้าง มีสวน มีต้นไม้ ใส่รั้วรอบขอบชิดปิดจากบริบทรอบ ๆ เหมือนป้อมปราการ แม้จะมีลักษณะเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของชุมชนจากห้องนอนใต้หลังคาจั่วและดาดฟ้าที่ยกสูงขึ้นได้ ทั้งคู่จึงเพลิดเพลินกับทัศนียภาพรอบบ้านและสวนกลางแจ้งได้เต็มที่

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

ครั้งแรกที่ได้ฟังความต้องการของเจ้าของที่ว่า ‘เราอยากจ้องมองกันและกันในทุกที่ของบ้าน’ เป็นใครก็คงคิดว่าฟังดูแปลก ๆ แต่สื่อสารได้ชัดเจน เพราะทั้งสองคุ้นเคยกับการใช้เวลาร่วมกัน และต้องการโครงสร้างเชิงพื้นที่ที่สะท้อนรูปแบบชีวิตที่สามารถปฏิสัมพันธ์กันได้ง่ายๆ ผังบ้านจึงสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของผู้คนที่อาศัยอย่างที่ตั้งใจ โดยออกแบบให้อาคารมีความโค้ง ให้บ้านมีการไหลเวียนที่ราบรื่นโดยไม่มีมุมที่แหลมคมในพื้นที่ใด ๆ วัสดุผนังกระจกใสช่วยเชื่อมต่อพื้นที่และมุมมองทางสายตาแบบไม่มีอุปสรรค

อาคาร 2 ชั้นหลังคาจั่วสูงที่อยู่ชิดริมสุดชั้นล่างมีประตูทางเข้าเปิดเข้าไปเป็นห้องอาบน้ำ ชั้นบนเป็นห้องนอน จากนั้นจะเป็นอาคารชั้นเดียวโค้งไปแนวที่กำหนดไว้ ลักษณะของห้องผนังกระจกที่โค้งนี้ ทำให้สมาชิกในบ้านมองเห็นกันได้ตั้งแต่ส่วนปลายสุดด้านหนึ่งไปยังอีกด้าน

บ้านผนังโค้งโอบล้อมสวน

โครงสร้างเชิงพื้นที่บ้านนี้แตกต่างจากบ้านในชนบททั่วไป คือ ในพื้นที่สี่เหลี่ยมสวยแบบนี้ แทนที่จะวางลานไว้ทางทิศใต้และอาคารทางทิศเหนือตามปกติ แต่บ้านหลังนี้กลับทำตัวบ้านชิดกำแพงด้านหนึ่งในบริเวณไม่กว้าง แล้วทำแนวโค้งล้อมคอร์ทยาร์ดโล่ง ๆ ที่กินพื้นที่พอ ๆ กับบ้าน เพื่อรับแสงแดดที่ส่องเข้ามาในสนามเข้าสู่ภายในได้ง่าย ๆ และทำให้บรรยากาศของบ้านมีชีวิตชีวาไม่อึดอัดจากสิ่งก่อสร้างที่เต็มพื้นที่

มองเห็นกันได้ ซึมซับสวนในทุกจุด

การขยายฟังก์ชั่นและพื้นที่ทั้งหมดของบ้านหลังนี้ ที่ค่อย ๆ ไหลโค้งไปตามแนวสร้างความต่อเนื่องของพื้นที่ทั้งหมดตั้งแต่ทางเข้า ประกอบด้วย ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องทานข้าว ที่เปิดมุมมองออกสู่คอร์ทยาร์ด ทุกพื้นที่จึงมีบทบาทเป็นจุดศูนย์กลางของบ้านที่สว่างและอบอุ่นเท่า ๆ กัน และทำให้คนมีส่วนร่วมกับธรรมชาติได้อย่างแนบสนิทในทุก ๆ วัน ในช่วงฤดูฝนก็เฝ้าดูเม็ดฝนที่หล่นจากขอบชายคา ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้ผลิ ก็มองเห็นความเปลี่ยนแปลงของต้นแอปริคอทที่อยู่ตรงกลางของลาน

ชายคาของบ้านยื่นออกไปประมาณ 1.2 ม. ~ 2 ม. ป้องกันแสงแดดในฤดูร้อนที่ส่องเข้ามาด้านใน ในวันที่อากาศดี ๆ ก็เปลี่ยนบรรยากาศออกไปนั่งด้านนอก ทำกิจกรรมได้เต็มที่ แม้ในขณะที่นั่งเล่น ทำอาหาร ก็ยังได้รับความสดชื่นจากพื้นที่กลางแจ้งนอกบ้าน ทุกพื้นที่ที่สะท้อนรูปแบบและจังหวะในชีวิตประจำวันของคู่รักที่ไหลลื่นไม่สะดุด สาารถเพลิดเพลินกับพื้นที่ภายนอกกับครอบครัวหรือแขกผ่านสวนภายในได้อย่างปลอดภัย โดยไม่มีการแทรกแซงของผู้อื่นและไม่จำเป็นต้องปิดม่านมู่ลี่ ในเวลาที่ต้องสื่อสารกับผู้คนในหมู่บ้านก็เพียงแต่เปิดประตูไม้ไผ่ออกไปเท่านั้น

มองเห็นวิวไกล ๆ จากในห้องนอน

ชั้นสองเป็นห้องนอนส่วนตัวบนห้องใต้หลังคา โครงสร้างของชั้นสองเป็นหลังคาทรงจั่วเตี้ยให้ความรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนในสถานที่ตั้งแคมป์ที่มีบรรยากาศสบาย ๆ และสวยงาม แต่สิ่งที่พิเศษคือช่องเปิดบนหน้าจั่วที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามที่สุดในบ้านได้ เมื่อนั่งบนเตียงซึ่งมีระดับที่แตกต่างกันก็สามารถชมวิวระยะไกลโดยไม่มีอุปสรรครบกวนของมุมมองในพื้นที่ของตัวเอง จากห้องนี้ยังสามารถเข้าสู่ชั้นดาดฟ้าผ่านประตูที่ซ่อนอยู่หลังห้องนอนได้ด้วย