บ้านชั้นเดียว เชื่อมต่อธรรมชาติได้ทุกจุด
สำหรับโจทย์ของบ้านหลังนี้ เจ้าของซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านปฏิบัติการกู้ภัยทางทะเลและวิศวกรรม เลือกสถานที่สร้างบ้านใกล้สนามบินในวานานาปอร์บันดาร์ ระหว่างการระบาดของโควิด-19 สมาชิกครอบครัวได้หารือเกี่ยวกับแนวคิดและแผนการออกแบบบ้านในแง่มุมต่างๆ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการและไลฟ์สไตล์ ผลลัพธ์สรุปออกมาว่าบ้านต้องมีบรรยากาศผ่อนคลาย ภายในใช้ได้อย่างยืดหยุ่น ในขณะที่มีระยะห่างก็ยังรู้สึกใกล้ชิด นอกจากนี้ยังต้องเป็นมิตรกับพ่อแม่ที่เริ่มเข้าสู่ช่วงสูงวัยด้วย ข้อมูลเหล่านี้จึงถูกประมวลผลออกมาเป็นบ้านชั้นเดียวที่น่าอยู่ในพื้นที่ 826.8 ตารางเมตร
ออกแบบ: Dipen Gada and Associates
ภาพถ่าย: The fishy project
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
สืบเนื่องจากโจทย์ที่ได้ ทำให้สถาปนิกนำเสนอแบบบ้านชั้นเดียวทรงกล่องหลังคาแบน พื้นที่ไซต์ค่อนข้างใหญ่จึงการออกแบบบ้านให้ขยายออกไปในแนวนอนแทนแนวตั้ง เพื่อความสะดวกในการใช้งานสำหรับผู้สูงวัยด้วย ตลอดอาคารมีทางเดินยาวเข้าถึงกันได้ ทำให้เกิดการเชื่อมโยงทางสายตาที่ไร้รอยต่อ ในขณะเดียวกันก็สามารถแยกโซนการใช้งานออกเป็นสัดส่วนได้ง่าย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
รูปแบบของอาคารรูปทรงเรขาคณิต สีของบ้านที่เน้นโทนขาวตัดด้วยไม้สีน้ำตาลเข้ม และสีดำของงานเหล็กที่เรียบๆ ไม่หวือหวา การออกแบบภูมิทัศน์โดยรวมจึงสะท้อนถึงความเรียบง่ายของบ้าน โดยมีสนามหญ้าสีเขียวกว้างใหญ่ประดับด้วยพืชพื้นเมืองและหญ้าป่า สร้างสรรค์การผสมผสานระหว่างธรรมชาติและสถาปัตยกรรมได้อย่างลงตัว ผนังสีขาวที่สะดุดตาและประตูกระจกกรอบไม้สร้างบรรยากาศที่ทันสมัยและเป็นกันเอง
เมื่อเดินตามทางเดินที่มีผนังสีขาว Texture ขรุขระขนาดใหญ่ จะนำทางเข้ามาสู่ส่วนใช้งานสาธารณะประกอบไปด้วย ห้องนั่งเล่นเพดานสูงสำหรับต้อนรับแขก ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่นสำหรับครอบครัว รอบๆ บ้านมีผนังกระจกรับวิวและแสงธรรมชาติรอบด้าน ประตูกระจกขนาดใหญ่เปิดออกรับลมระบายอากาศและเชื่อมต่อออกไปยังเฉลียงมีหลังคาคลุมข้างนอก และอีกด้านออกไปสระว่ายน้ำได้
การตกแต่งภายในบ้านใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีกลางๆ และงานไม้ ดีไซน์รูปทรงเรขาคณิตมีมุมโค้งมนในสไตล์มินิมอล แม้ขนาดเฟอร์นิเจอร์จะใหญ่เพราะเตรียมไว้ให้รองรับจำนวนสมาชิกได้มาก แต่พื้นที่บ้านที่เปิดแบบ open plan ทำให้บ้านดูกว้างและลื่นไหล บ้านดูโปร่งโล่งสบายตาในแบบที่อยากได้ ทุกคนในบ้านสามารถใช้พื้นที่ทำกิจกรรมประจำวันได้แบบไม่รู้สึกอึดอัด ในส่วนของแขกจะแยกอยู่อีกด้านที่ดูเป็นทางการกว่า เป็นการแยกโซนสำหรับใช้งานที่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวด้วย
ในบ้านจะมีห้องนอนทั้งหมดสามห้อง โดยห้องนอนใหญ่ตั้งอยู่ติดกับสระว่ายน้ำและสวนหน้าบ้าน ห้องนอนอีกสองห้องตั้งอยู่ติดกัน โดยแต่ละห้องมีพื้นที่นั่งเล่นสบายๆ ข้างใน และระเบียงที่เปิดออกไปสู่สวนเซนที่ด้านหลัง วิธีการจัดโซนแบบนี้จะทำให้ง่ายต่อการใช้ชีวิตหากมีเหตุจำเป็นให้ต้องกักตัวหรือรักษาระยะห่าง ก็ยังมีพื้นที่นั่งเล่น ชมวิว พักผ่อน และยังคงมองเห็นหรือมีปฏิสัมพันธ์กับสมาชิกครอบครัวได้โดยไม่รู้สึกว่าถูกแยกตัดขาดแต่อย่างใด
สระว่ายน้ำยาวๆ ที่วางตำแหน่งให้อยู่ระหว่างห้องนั่งเล่นเพดานสูงและห้องนอนใหญ่ นอกจากเป็นพื้นที่กลางแจ้งให้ทำกิจกรรมออกกำลังกายแบบที่ชอบแล้ว ส่วนนี้ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างห้องนั่งเล่น-ห้องรับประทานอาหารและสวน สระที่เต็มไปด้วยน้ำใสสะอาดสะท้อนท้องฟ้า สร้างเอฟเฟกต์ทางสายตาที่น่าหลงใหลท่ามกลางฉากหลังของผนังสีขาวและปูนฉาบร่องมี texture ซึ่งเหมาะสำหรับการนั่งเล่นในวันที่อากาศไม่ร้อนจนเกินไป
ห้องน้ำ เป็นอีกหนึ่งจุดของบ้านที่น่าใช้งานมาก ๆ สำหรับคนที่ชอบใช้เวลาส่วนตัวเพลิน ๆ ในนี้ เพราะนอกจากกว้างมากจนเข้าไปนั่งเล่นได้แล้ว ยังถูกออกแบบมาอย่างสวยงามสะอาดตา ด้วยการจับคู่ระหว่างวันสดุสีโทนสีฟ้าและขาว ท่ามกลางความเรียบง่ายขององค์ประกอบน้อยชิ้น ยังมีหลังคาโปร่งแสงและฝักบัวแบบเปิดโล่งที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศของพื้นที่กลางแจ้งเข้าไป แทรกด้วยต้นไม้เขียวๆ เติมพลังความสดชื่นเหนือสิ่งอื่นใด คือ การแยกโซนแห้งเปียกออกจากกัน และเลือกวัสดุที่ไม่ลื่น ทำให้ผู้สูงวัยและเด็กใช้งานได้ปลอดภัยด้วย
แปลนบ้าน