บ้านครึ่งปูนครึ่งไม้
ความคิดที่ว่า “ไม้” เป็นวัสดุสร้างบ้านที่ให้ลุคเชย ๆ น่าจะค่อย ๆ เลือนหายไป เพราะการออกแบบบ้านยุคใหม่จะใส่องค์ประกอบของวัสดุอื่น ๆ อย่างเช่น คอนกรีต เหล็ก กระจก เพื่อสร้างความหลากหลายของพื้นผิว ตัดอารมณ์อบอุ่นของไม้ลงบ้างเพื่อลดทอนความแข็งและมักจะผสมผสานการดีไซน์ตัวบ้านที่เน้นเส้นสายตรงไปตรงมาเข้าไปด้วย ซึ่งองค์ประกอบทั้งหมดทำให้ “ไม้” ยังคงสร้างบรรยากาศเป็นมิตรและผ่อนคลายให้กับบ้าน แต่ภาพรวมดูร่วมสมัยมากขึ้น เพียงแค่เรามีมุมมองที่ต่างไปจากเดิม กล้าประยุกต์แนวคิดใหม่ ๆ ใส่เข้าไป แม้จะใช้วัสดุเหมือนเดิม แต่การสื่อสารอารมณ์ของบ้านย่อมแสดงออกมาอย่างแตกต่างเช่นกันครับ
ออกแบบ : Nikkimote Architect
ภาพถ่าย : Andy Macpherson
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อรับชมภาพขยายใหญ่
บ้านไม้โมเดิร์น ใส่ความหมายให้แตกต่าง
บ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ในบ้านเรามีให้เห็นอยู่ทั่วไปในทุกชุมชน แต่มักจะแบ่งชั้นบนเป็นไม้ ชั้นล่างเป็นปูน ใส่หน้าต่างบานทึบรอบ ๆ บ้าน ซึ่งทำให้ดูไม่มีจุดน่าสนใจ หลายบ้านนิยมตีไม้ฝาในแนวนอนเพราะทำได้ง่าย แต่ถ้าพลิกมุมมองใหม่มาติดตั้งไม้ในแนวตั้ง โดยตัดแบ่งเป็นเส้นเล็ก ๆ ตีชิดกัน หรือการเซาะร่องบังใบให้ผนังเรียบเป็นผืนเดียวกัน ปล่อยให้ไม้แสดงเฉดสีตามธรรมชาติ ไม่ต้องทาน้ำมันเคลือบเงาไม้ เสริมด้วยการเจาะช่องประตูหน้าต่างใส่กรอบวงกบโลหะสีดำ ก็ช่วยสร้างจุดโฟกัสสายตาบนผนังปูนเปลือยจืด ๆ
ลักษณะการแบ่งเส้นสายตาโดยใช้ตัววัสดุที่ต่างคุณสมบัติ อย่างไม้และปูนเปลือยที่ให้สีอ่อน-เข้มตัดกัน และออกแบบให้มีความลดหลั่น ใส่กันสาดสไตล์โมเดิร์นที่ยื่นออกมาตรง ๆ ไม่ต้องมีรายละเอียดรุงรัง ก็จะทำให้บ้านเกิดเส้นสายเรขาคณิตที่ชัดเจน เพิ่มมิติที่น่าสนใจขึ้น
ประตูบ้านแบบเดิมที่มักจะเป็นประตูบานลูกฟัก แบบเปิดออกหรือผลักเข้าทำให้บ้านดูเหมือน ๆ กันไปหมด บ้านหลังนี้จึงใส่ความต่างด้วยการติดประตูบานสไลด์เก็บเข้าด้านข้าง ทำจากไม้ตีเป็นแผ่นเรียบ ๆ แนบเนียนเป็นผืนเดียวไปกับผนัง วิธีการนี้ยังช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งานบริเวณหน้าและหลังประตู โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการดึงประตูหรือผลักเข้าจะชนกับสิ่งกีดขวาง
บ้าน open plan เปิดโล่ง โต๊ะทานข้าวพับเข้าผนังได้
ด้วยขนาดพื้นที่ที่ไม่กว้างนัก ภายในบ้านจึงใช้ผนังกระจกแทนวัสดุปิดทึบ เพื่อเปิดภายในให้เชื่อมต่อกับภายนอกจนเป็นเหมือนพื้นที่เดียวกัน และเปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาสร้างความสบายภายใน ชั้นล่าง open plan ไม่มีผนังทึบกั้น เชื่อมต่อพื้นที่ใช้งานหลากหลายฟังก์ชันเข้าด้วยกัน เช่น ครัวเล็ก ๆ ที่อยู่ใต้บันได โต๊ะทานอาหาร นอกเหนือจากนั้นเป็นพื้นที่ว่าง ให้สมาชิกในบ้านใช้งานได้ตามสะดวก การตกแต่งเน้นความน้อย ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ที่เกินความจำเป็น เพราะต้องการให้บ้านมีความยืดหยุ่นและโปร่งโล่งมากที่สุด
จุดที่น่าสนใจในบริเวณชั้นล่างอีกจุดหนึ่งคือ มุมทานข้าวที่เป็นโต๊ะแบบพับเก็บเข้าผนังได้ หากต้องการใช้ก็เพียงดึงลงมา เมื่อต้องการคืนพื้นที่ใช้งานในบ้านให้กว้างขึ้นก็พับเก็บขึ้นไปบนผนังตามเดิม วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้พื้นที่ในบ้านยิ่งกว้างขึ้นโดยไม่มีอุปสรรคกีดขวางแล้ว ยังเพิ่มความสนุกในการใช้งานด้วย
เปิดเชื่อมพื้นที่ระหว่างชั้น ให้ลมและแสงเดินทางถึงกัน
จากบันไดขึ้นมาเป็นชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องใต้หลังคา ทั้งนี้เพื่อให้พื้นที่ชั้นสองเชื่อมต่อกับชั้นล่าง จึงสละพื้นที่เพดานชั้น 2 ส่วนหนึ่ง เจาะให้เกิดช่องว่างเป็นพื้นที่ Double high เปิดให้แสงเดินทางจากข้างบนลงมาด้านล่างได้ และอากาศสามารถถ่ายเทได้ดีกว่า นอกจากนั้นก็ยังเป็นการเชื่อมปฏิสัมพันธ์ของสมาชิกที่ใช้ใช้ชีวิตอยู่คนละชั้นให้ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วย
บนชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องนอนจะเห็นรูปทรงหลังคาที่ไม่สมมาตร ด้านหนึ่งเฉียงในองศาที่มากกว่า อีกด้านหลังคาองศาความชันน้อยกว่ามาก ในส่วนหลังคาที่เฉียงมากเจาะช่องแสงสกายไลท์ขนาดใหญ่ เปิดทางให้แสงจากธรรมชาติส่องตรงช่องบันไดลงไปถึงด้านล่าง บริเวณผนังติดหน้าต่างบานเกล็ด เปิดระบายอากาศให้หมุนเวียน
ห้องนอนที่ยังคงคอนเซ็ปตกแต่งอย่างเรียบง่าย ด้วยการวางเตียง 1 หลัง ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินติดผนัง และส่วนที่น่าสนุกที่สุดคือ เบย์วินโดว์ที่ทำเป็นม้านั่งไม้ยาวจนสุดผนัง ตรงหน้าต่างตีกรอบไม้ตัดมุมเฉียงให้ภาพของเส้นเรขาคณิตที่ตัดเฉียงไปมา ตัดกับเส้นสายของโครงหลังคา ทำให้ห้องธรรมดามีมุมมองที่ไม่ธรรมดา
