สมัยใหม่ สวยเฉียบ สวยนานไม่ตกยุค
บ้านโมเดิร์นหลังนี้ดูเผิน ๆ ไม่น่าเชื่อว่าสร้างมาตั้งแต่ช่วงปี 1970 ซึ่งการออกแบบลักษณะอาคารทรงเหลี่ยมแบบนี้ยังใหม่มาก เจ้าของเดิมเป็นคู่สามีภรรยานักสะสมศิลปะร่วมสมัย ในลอสแอนเจลิส ชื่อ Edwin Janss Jr. และภรรยาของเขา Ann ได้มอบหมายให้สถาปนิกชื่อดัง Frank Gehry, FAIA ออกแบบบ้านเดิมให้ในช่วงทศวรรษที่ 1970 ซึ่งขณะนั้นวิสัยทัศน์ในแบบของ Gehry ยังไม่เป็นที่ยอมรับเต็มที่ ที่นี่เป็นโครงการบ้านเดี่ยวแห่งแรกของเขา ตอนนี้เวลาล่างเลยมาหลายสิบปีบ้านหลังนี้ยังดูทันสมัยแม้จะต้องปรับปรุงในบางส่วน ก็พิสูจน์ได้แล้วว่าสายตาของสถาปนิกสามารถอ่านแบบบ้านสำหรับอนาคตได้อย่างแม่นยำครับ
ออกแบบ : Danbrunn
เนื้อหา : บ้านไอเดีย
บ้านโมเดิร์นทรงสี่เหลี่ยมธรรมดาหลังนี้ ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานได้ดีขึ้นในปี 2017 โดยทีมงาน Dan Brunn Architecture ซึ่งอ้างอิงจากแปลนเดิม แต่แก้ไขบางจุดให้รับแสงได้ดีและดูกว้างขวาง จนได้มาเป็นบ้านที่สามารถใช้เป็นสถานที่สำหรับจัดงานเลี้ยง การระดมทุน และการจัดงานศิลปะส่วนตัว รวมถึงผลงานของศิลปินร่วมสมัยอื่น ๆ ด้วย สุนทรีย์ศาสตร์แห่งความเรียบง่ายแต่แฝงด้วยรายละเอียดน่าสนใจมีให้พบเห็นทุกจุดในบ้าน เริ่มต้นจากการเพิ่มช่องรับแสงใหม่ เพื่อให้แสงธรรมชาติสามารถส่องเข้าไปได้ถึงห้องครัวและพื้นที่ใช้สอยภายในบ้าน และใช้ไม้ คอนกรีต และกระจกเป็นวัสดุหลักที่จะกำหนดรูปแบบการใช้งานและอารมณ์ของสถาปัตยกรรม
ความแตกต่างระหว่างอาคารเดิมกับส่วนที่ปรับปรุงใหม่คือ ความโปร่ง สว่าง เป็นสัดส่วนและน่าสนุก ทีมงานทุบผนังบ้านบางส่วนออก เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานโล่ง ๆ ภายใน จัดพื้นที่แบบ Open Space เปิดกว้างรวมเอาหลากหลายส่วนการใช้ชีวิต เช่น มุมครัว โต๊ะทานอาหาร มุมนั่งเล่น เข้ามาอยู่ด้วยกันอย่างต่อเนื่องไว้ในจุดเดียว ผนังบ้านใช้สีขาวช่วยส่องสะท้อนผลงานที่ติดประดับบนผนังให้ยิ่งโดดเด่น บนเพดานสกายไลท์ที่มีขนาดใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากลางพื้นที่นั่งเล่นช่วยเพิ่มจุดรับแสงจากภายนอกเข้ามาทำให้ในบ้านเต็มไปด้วยแสงสว่าง ใส่ลูกเล่นให้บ้านด้วยการติดกำแพงสีขาวที่หมุนรอบ พลิกปิดเปิดโชว์ห้องมัลติฟังก์ชั่นที่ทำเป็นห้องอ่านหนังสือ หรือดึงเตียงออกมาใช้เป็นห้องนอนก็ได้
ผนังห้องที่เป็นกลไลเปิด-ปิดได้ ทำให้พื้นที่เชื่อมต่อกันเป็นโถงขนาดใหญ่ ไม่มีผนังทึบปิดตาย บ้านจึงไม่ดูอึดอัดสามารถเดินทะลุไปได้ทุกที่
ภายในห้องอเนกประสงค์จะเห็นชั้นวางของสีขาวบิวท์เต็มผนัง และมีช่องว่างขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ซึ่งแอบซ่อนเตียงที่ผลักเก็บเข้าไปในผนังได้ ในตอนกลางวันที่ใช้เป็นพื้นที่นั่งเล่น หรือโชว์งานศิลปะก็พับเตียงเก็บไว้ ช่วยรองรับการทำงานและขยายพื้นที่แสดงผลงานศิลปะให้มากขึ้น โดยไม่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกตะขิดตะขวางใจว่าล้ำเข้าไปในห้องพักผ่อนส่วนตัว
ส่วนที่สะดุดตาที่สุดในโซนพักผ่อนคือ การตีกรอบพื้นที่ด้วยไม้ขนาดใหญ่ติดริมหน้าต่าง ทำให้มุมนี้กลายที่ที่นั่งริมหน้าต่างขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา และผนังกระจกก็เป็นตัวช่วยเปิดต่อเชื่อมความสดชื่นจากภายนอกเข้ามาสู่ภายในจนเหมือนนั่งอ่านหนังสือในสวน
มุมครัวและจุดรับประทานอาหารมีแสงสว่างเข้ามาได้อย่างพอเหมาะ ชุดครัวสีขาวจึงถูกกลืนหายไปกับผนังสีเดียวกัน ส่วนชุดโต๊ะทานอาหารใช้สีน้ำตาลจากไม้ธรรมชาติกับสีดำ เข้ามามาช่วยทำให้บ้านมีความหลากหลายของสีสัน เพิ่มจุดตัดสายตาด้วยงานศิลป์รูปวงกลมสีดำบนผนัง
ถัดจากมุมทานอาหาร จะเป็นบันไดขึ้นสู่ชั้นสอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ของบ้าน ด้วยรูปแบบของราวบันไดไม้วอลนัทที่ทำด้วยมือ จัดเรียงให้มีรูปร่างเฉียง ๆ สลับกันเหมือนรูปร่างอุโมงค์ ทำให้เกิดไดนามิก ดูกระเพื่อมเคลื่อนไหว เล่นแสงและเงาได้ตลอดทั้งวัน เป็นบันไดในรูปแบบใหม่ ๆ ดูสวยงามราวกับเป็นประติมากรรมหนึ่งชิ้น ที่ไม่เคยได้เห็นกันมาก่อน
จากบันไดขึ้นมาสู่ชั้นสอง จะมีพื้นที่ว่างเปิดออกสู่ท้องฟ้า เหมือนเป็นระเบียงกลางแจ้ง สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนสบาย ๆ เป็นส่วนตัว ต่อเชื่อมตัวบ้านเข้ากับธรรมชาติ จุดนี้สามารถเชื่อมต่อมุมมองทางสายตาไปยังจุดอื่น ๆ ได้ เพราะกั้นด้วยกระจกใส
ห้องนอนหลักจัดตกแต่งด้วยโทนสีขาวเรียบง่าย คอนเซ็ปเหมือนชั้นล่าง ตัดความนิ่งด้วยสีดำและพื้นไม้ ตกแต่งด้วยแจกันใส่ดอกไม้สีสดให้โดดเด้งออกมาจากพื้นผนังสีขาว เพียงเท่านี้ก็ทำให้ห้องดูสดใส
แปลนบ้าน