โฮมและคาเฟ่ แยกสัดส่วนเป็นส่วนตัว

Anandah เป็นชื่อร้านอาหารพร้อมที่อยู่อาศัยในเมืองมิยาซากิ จังหวัดมิยาซากิ ประเทศญี่ปุ่น ออกแบบโดย Takeshi Ishiyaku Architects ซึ่งได้รับโจทย์ที่ท้าทายพอสมควร ทั้งการดีไซน์ให้อาคารรับกับภาพวิว บรรยากาศใกล้ทะเลที่สดชื่นปนร้อน ในขณะที่รูปร่างของที่ดินนั้นไม่ค่อยเป็นใจ เพราะไม่ใช่รูปทรงสี่เหลี่ยมสวยงามแบบที่ดินผืนอื่นๆ อีกทั้งยังต้องทำหน้าที่ 2 ฟังก์ชันไปพร้อมกัน คือเป็นทั้งสถานประกอบการและบ้านที่จะต้องทั้งเอื้อต่อการทำงานและยังคงความเป็นส่วนตัว

ออกแบบ : TAKESHI ISHIODORI ARCHITECTURE
ภาพถ่าย: Studio Marsh
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

อาคารไม้ 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 225.52 ตารางเมตรหลังนี้ ออกแบบมาสำหรับภูมิภาคที่มีภูมิอากาศกึ่งเขตร้อน เพื่อให้ได้สภาพแวดล้อมที่สะดวกสบาย สถาปนิกจึงออกแบบโครงหลังคาทรงจั่วให้มีหลังคาขนาดใหญ่ โดยพื้นที่ 40% ใต้หลังคาขนาดใหญ่เป็นเฉลียง สร้างพื้นที่กว้างขวางที่ผสมผสานภายในและภายนอกเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สิ่งนี้ทำให้อาคารไม้เรียบๆ ดูน่าดึงดูดใจที่ทำให้ลูกค้าสามารถดื่มด่ำกับสภาพแวดล้อมได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม ด้วยรูปทรงของที่ดินมีลักษณะหลายเหลี่ยม จึงเลือกใช้พื้นที่ตรงกลางทำอาคารแบบหักศอกตามรูปร่างที่ดินคล้ายๆ บูมเมอแรง เพื่อให้ได้พื้นที่อาคารมากขึ้น อีกทั้งส่วนหน้าที่เป็นห้องอาหารได้มุมเปิดเห็นวิวสถานที่ตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ของอาคารใกล้ทะเล แล้วใส่ที่ว่างขนาดใหญ่พร้อมกับเฉลียงเรียงยาวไป ให้แขกได้รับบรรยากาศโดยรวมทั้งสายลม กลิ่นไอทะเล ต้นปาล์ม ท้องฟ้าสีคราม และแสงแดดที่ส่องผ่านที่ส่องผ่านภูเขาและรางรถไฟ ให้ผู้มาเยือนได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่หลากหลาย

ด้วยการออกแบบตามแนวคิดแบบเปิดและเบลอกพื้นที่ในร่ม/กลางแจ้งที่ไร้ขอบเขต ผ่านผนังกจะจกขนาดใหญ่ทำให้อาคารหลังนี้ให้ความรู้สึกอิสระและเหมือนได้ปลดปล่อยจากข้อจำกัดใดๆ

อาคารนี้จะแบ่งสัดส่วนการใช้งานออกเป็นหลัก ๆ 2 ส่วน คือ ในโซนห้องอาหารและคาเฟ่จะรวมกันอยู่ในอาคารส่วนหน้ามาจนถึงบริเวณที่เลยจุดหักมุมมาเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ส่วนประกอบการค้ามีขนาดเล็กเกินไป ภายในวางโต๊ะอาหารเป็นจุด ๆ ในส่วนที่สามารถมองออกไปรับทัศนียภาพได้ในมุมต่างๆ กัน บางส่วนของห้องเจาะเพดานขึ้นเป็นโถงสูง (Double Space) ให้ความรู้สึกโปร่ง โชว์โครงสร้างเสา คาน ฝ้าเพดานไม้ มีบันไดไม้พาขึ้นไปสู่ชั้นลอยข้างบนที่มองเห็นข้างล่างได้ชัด ๆ

ใครที่ไม่ชอบนั่งในร้านเพราะชอบบรรยากาศแบบ outdoor รับลมชมวิวง่ายได้แบบไม่ต้องปะปนกับคนอื่น ก็แยกออกมานั่งตรงเก้าอี้และม้านั่งด้านนอกได้ตามอัธยาศัย

จากส่วนของร้านอาหารขยับมาทางด้านหลังจะมีส่วนที่เป็นผนังก่อทึบทาสีขาวๆ ซึ่งซ่อนประตูทางเข้าของโซนที่พักอาศัย บริเวณนี้จะอยู่ค่อนข้างไกลจากร้านพอสมควรและดูปิดแถมยังวางตำแหน่งประตูให้หันหน้าออกไปทางด้านข้างของถนน คนที่ใช้ชีวิตอยู่ภายในจึงยังรู้สึกได้ว่ามีความเป็นส่วนตัว แม้ว่าที่จอดรถของร้านของลูกค้าจะอยู่ตรงกับบ้านก็ตาม

สำหรับการตกแต่งบ้านก็ใช้ concept เดียวกับร้านอาคาร คือใช้งานไม้เป็นหลักทั้งไม้จริงและไม้อัด พร้อมกับมีส่วนของบ้านที่เจาะสร้างความต่อเนื่องขึ้นไปในแนวตั้ง ทำให้เกิดโถงสูงสองชั้น เชื่อมต่อสายตากับคนที่อยู่ชั้นบนได้อย่างใกล้ชิด ชั้นล่างมีพื้นที่นั่งเล่น ห้องทานข้าว และครัวที่จะตรงกับผนังครัวของร้านอาหารพอดี ในส่วนห้องน้ำ ห้องนอน จะใช้โครงสร้างแบบผนังเบาโดยกรุไม้อัดแยกเป็นห้อง ทำให้การก่อสร้างรวดเร็วกว่าการก่ออิฐฉาบ

ทางด้านหลังบ้านมีช่องเปิดขนาดใหญ่เชื่อมต่อออกมายังชานบ้าน ซึ่งปูด้วยไม้เป็นรูปตัว L และต่อเนื่องไปสู่สนามหญ้าเขียวๆ ที่ค่อนข้างกว้าง มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ชวนให้ออกมานั่งเล่น นอนเปลญวนพักผ่อนสบายๆ ในวันที่ร้านปิด