กั้นห้องทำงานในคอนโด
ไลฟสไตล์ของคนเมืองรุ่นใหม่เปลี่ยนไปแล้ว จากที่ต้องเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศเกือบทุกวันต่อสัปดาห์ ก็ทำงานระยะทางไกลผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น จะทำงานจากบ้าน co working space หรือคาเฟ่ก็ได้ โดยเฉพาะหลังการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ต้องรักษาระยะห่างระหว่างผู้คนทำให้ต้องทำงานจากที่บ้านเป็นเวลานาน สิ่งนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เจ้าของบ้านหลายๆ คนใส่พื้นที่ออฟฟิศส่วนตัวลงในบ้าน อาจจะแยกเป็นบ้านหลังน้อยในสวน ห้องที่ต่อเติมใหม่ หรือแบ่งกั้นมุมเล็กๆ ของบ้านเป็นห้องทำงาน เนื้อหานี้ “บ้านไอเดีย” มีรูปแบบการตกแต่งแบ่งพื้นที่ในห้องชุดเล็ก ๆ มาฝากกันครับ
ออกแบบ: Ray Interior Design
เนื้อหา: บ้านไอเดีย
คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่
ห้องชุดขนาด 49.5 ตารางเมตรนี้อยู่ในซานฉง นิวไทเป สถาปนิกทำโครงร่างแปลนโดยยึดตามสิ่งที่เจ้าของบ้านที่เป็นคู่รักกันชอบ เช่น ต้องมีพื้นที่การออกกำลังกาย เพราะทั้งคู่ต่างก็มีนิสัยในการออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการฝึกยกน้ำหนัก โยคะ fly หรือห่วงลอยฟ้า นอกจากนี้ยังต้องการห้องอ่านหนังสือและทำงาน โดยใช้แนวคิดการตกแต่งแบบร้านกาแฟสไตล์อังกฤษเรโทรที่เรียบง่ายแต่คลาสสิค ทีมงานจึงเลือกโทนสีขาว เขียวหม่น ดำ ผสมกับการติดเส้นคิ้วบนผนังและบานตู้ สร้างบริบทแบบ English Retro
ความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของห้องอ่านหนังสือและพื้นที่สาธารณะ จะถูกกำหนดจากลำดับการให้ความสำคัญกับฟังก์ชันต่างๆ อาทิ ในห้องนั่งเล่นนอกจากจะคิดเรื่องขนาดของโซฟาแล้ว ยังต้องคำนึงถึงรัศมีการหมุนของโยคะ Fly เพียงอย่างเดียวก็ต้องอยู่ที่ 190-200 เซนติเมตร และต้องทำผนังไว้สำหรับติดกระจกแบบเต็มตัว ดังนั้น ห้องนั่งเล่นจึงต้องใช้พื้นที่มากที่สุดเป็นอันดับแรก
เมื่อมีเวลาว่างหลังจากทำงานทั้งสองคนจะทานข้าวที่บ้าน ดูหนังฟังเพลง ออกกำลังกายด้วยกัน และชวนเพื่อนมาแวะเที่ยวพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
ในแปลนเดิมจากด้านหน้าลึกเข้าไปจะเป็นพื้นที่สาธารณะที่แคบและลึก ถูกแทนที่ด้วยครัวแบบเปิดบิลท์เคาน์เตอร์ติดผนังแค่ด้านเดียว ทำให้เหลือพื้นที่อีกด้านกั้นเป็นห้องทำงานแบบกึ่งเปิดครึ่งไม้ครึ่งกระจก ทำให้พื้นที่การทำงานเป็นสัดส่วน มีสมาธิ แต่ยังคงมองเห็นส่วนอื่นๆ ของบ้านได้โดยไม่ทำให้ภายในแคบลงมากนัก ด้านนอกมีเคาน์เตอร์บาร์และเก้าอี้ให้นั่งด้านนอก ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นร้านกาแฟตรงหัวมุมถนนที่มักจะพบได้ในประเทศโซนยุโรป
ครัวเล็ก ๆ มีครบฟังก์ชันที่ต้องการ ขนาดและการใช้งานพอเหมาะพอดีสำหรับผู้อยู่อาศัยหลักเพียง 2 คน จึงไม่จำเป็นต้องใช้ครัวใหญ่มาก
ห้องกระจกนี้เป็นพื้นที่ที่ทั้งคู่ชอบที่สุด เพราะสามารถปรับเปลี่ยนใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะทำงาน อ่านหนังสือวาดภาพ หรือแม้กระทั่งปักผ้า และช่วงเวลาแห่งการสร้างสรรค์อื่นๆ ด้วย ชีวิตประจำวันทุกประเภท บาร์รับประทานอาหารที่ยื่นออกมา และการออกแบบให้นั่งตรงข้ามกันช่วยเพิ่มปฏิสัมพันธ์ ทำให้ยังสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ได้ในขณะที่กำลังทำงานของตัวเอง
ทางเข้าห้องนอนเพิ่มมุมมองเก๋ๆ ด้วยการใช้วัสดุลายหินขัดสีเทาในส่วนล่างของผนังและประตู ตัดกับผนังสีขาวและพื้นไม้ให้สัมผัสของธรรมชาติ
ในห้องนอนเลือกใช้สีโทนอ่อน อาทิ ขาวออฟฟไวท์ ครีม ให้ความรู้สึกละมุนผ่อนคลาย เพดานส่วนเหนือหัวเตียง ใส่ลูกเล่นของการทำฝ้าโค้งใส่ไฟซ่อน สร้างบรรยากาศที่ชวนให้พักผ่อนอย่างสบาย
