บ้านผนังอิฐช่องลม

อิฐ เป็นวัสดุก่อสร้างราคาไม่แพงที่อยู่คู่บ้านมานานจากรุ่นสู่รุ่น เดิมนั้นการใช้อิฐก่อจะเห็นร่องรอยการเรียงตัวและปูนที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อ ทำให้บ้านดูไม่เรียบร้อยจึงต้องฉาบเรียบและทาสีทับ แต่มาในอีกยุคสมัยกลับปรับเปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ ลองเปิดโชว์แนวอิฐและเรียงในรูปแบบที่ต่างออกไป อิฐก็จะสร้างอารมณ์และหน้าที่ใหม่ๆ ให้บ้าน อย่างบ้านหลังนี้ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของงานออกแบบทางสถาปัตยกรรม ที่แสดงออกถึงเจตจำนงในการสร้างความเคารพต่อบริบทที่ให้คุณค่ากับวัสดุบ้านๆ ไปพร้อมกันกับการตีความให้แตกต่างอย่างลงตัว บ้านจึงดูเหมือนงานศิลป์ชิ้นใหญ่ที่ศิลปินบรรจงบรรเลงอย่างสวยงาม

ออกแบบ : Dishna Thilanka Architects
ภาพถ่าย : Ganidu Balasooriya Photography
เนื้อหา : บ้านไอเดีย

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

Rustic canvas เป็นอาคารสองชั้นพื้นที่กว่า 223 ตารางเมตรนี้ สร้างอยู่ใน Ingiriya ประเทศศรีลังกา ออกแบบโดย Dishna Thilanka Architects สถาปนิกที่ถนัดในการหยิบจับวัสดุธรรมดาในท้องถิ่นอย่าง อิฐ ไม้ และคอนกรีต มีสร้างบ้านแบบ Tropical Space ล้อมโครงสร้างด้านหน้าด้วยฟาซาดงานก่ออิฐเป็นช่องลมเต็มผืน อิฐแบบดั้งเดิมถูกนำมาคิดใหม่ทำใหม่จากที่ต้องก่อและฉาบทับมาเป็นม่านบังแดดที่จัดวางเป็นลวดลายทึบสลับโปร่งเพื่อกรองแสง สร้างความเงียบสงบ และผลักดันขีดจำกัดของวัสดุที่ดูเหมือนเชยสร้างเป็นบ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

จากสเต็ปบันไดปูนเปลือยหน้าบ้านจะพบกับประตูไม้สีน้ำตาลแดงบานใหญ่ เปิดทักทายผู้มาเยือนอย่างเป็นมิตร อีกด้านหนึ่งของบ้านเป็นประตูบานชัตเตอร์ที่ปล่อยให้อากาศไหลผ่านได้ เหนือส่วนนี้ขึ้นไปจะเป็นแผงอิฐช่องลมและกระจกโปร่งรับแสงสว่างให้เติมเต็มชีวิตชีวาในบ้าน เหนือบริเวณนี้เป็นช่องว่างโถงสูงที่ตกแต่งด้วยงาน Sculpture ทำจากเหล็กที่ดูเหมือนเหมือนนกกำลังโบยบินผลงานของศิลปิน Pathmal Yahampath

ภาพรวมของการตกแต่งภายในบ้านที่เห็นตรงหน้า มีทั้งพื้นผิวปูนเปลือยดิบ ผนังอิฐโชว์แนวไม่ฉาบทับ อิฐช่องลม กระจกใส เหล็กสีดำให้เส้นสายที่คมชัด เฟอร์นิเจอร์งานไม้ ทุกอย่างที่ว่ามาต่างกันด้วยสี ผิวสมบัติ คุณสมบัติ แต่กลับส่งเสริมกันและกันให้มีความสมดุลของจังหวะความทึบ โปร่ง หนัก เบา อบอุ่น แข็งแกร่ง ที่สอดประสานกันอย่างลงตัว

สำหรับโปรเจ็คนี้ไม่ใช่เพียงที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่เจ้าของบ้าน Nilusha Weerakkody ยังเป็นศิลปินวาดสีน้ำด้วย จึงแบ่งสรรพื้นที่เอาไว้เป็นสตูดิโอสำหรับทำงานอยู่อีกด้านหนึ่งของห้องนั่งเล่น ซึ่งห้องนี้จะตกแต่งง่ายๆ ด้วยปูนเปลือย มีแผงอิฐช่องลมเต็มพื้นที่ด้านหนึ่ง สำหรับใช้กรองแสง สร้างความเป็นส่วนตัวขณะทำงาน แต่เมื่อแสงลอดผ่านช่องว่างเหล่านี้ ความเรียบง่ายของการตกแต่งภายในกลับมีชีวิตชีวาด้วยการเล่นแสงและเงา สร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์งานศิลป์ทุกวัน

ลึกเข้ามาข้างในจะเป็นห้องทานข้าวที่ตกแต่งผนังด้วยอิฐวางแพทเทิร์นแบบเรียงสลับธรรมดา และแบบที่นูนออกมาสร้างมิติแบบ 3D ให้กับบ้าน เหนือจุดนี้จะถูกเจาะเพดานเพื่อเชื่อมต่อในแนวตั้งให้ต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้ในบ้านสามารถเติบโตทะลุขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านและรับแสงจากสกายไลท์บนหลังคาได้พอดี ตรงจุดนี้จึงเหมือนเป็นการยกพื้นที่สวนกลางแจ้งเข้ามาเก็บไว้ในบ้านแบบ inside out-outside in

ช่องว่างโถงสูงเหนือห้องทานข้าวที่ทะลุถึงชั้นบน ตรงกับจังหวะของช่องแสง ทำให้บ้านสว่างลดข้อจำกัดของแสง ที่บ้านตั้งแต่สองชั้นขึ้นไปส่วนใหญ่มักถูกพื้นเพดานกั้นทำให้บ้านมืดและอับ การเปิดช่องว่างยังช่วยให้อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่ที่สูงและไหลออกนอกบ้านได้ดี บ้านจึงมีสภาวะสบายและประหยัดไฟฟ้าในช่วงกลางวัน แถมยังช่วยให้การปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในบ้านที่อยู่ต่างชั้นทำได้ง่ายและใกล้ชิดมากขึ้น

การคำนึงถึงบริบทแวดล้อมของสภาพที่ตั้ง สภาพอากาศ ก็เป็นหนึ่งในหัวใจที่สำคัญของการออกแบบทางสถาปัตยกรรม ในบ้านเขตร้อนชื้นหรือทรอปิคอลหลังนี้ก็เช่นกัน สถาปนิกพยายามออกแบบโดยสร้างความสัมพันธ์ต่อสภาพแวดล้อม ด้วยการให้ความสำคัญกับการระบายอากาศ การกรองแสง ขณะที่อิฐช่วยรักษาอุณหภูมิภายในให้เย็นในฤดูร้อน และลดระดับความชื้นได้ช่วงฤดูฝน