เมนู

คลินิกผู้สูงวัยในญี่ปุ่น คนไข้อุ่นใจเหมือนได้อยู่บ้าน

ออกแบบคลินิค

คลินิกสไตล์โมเดิร์น

หลายครั้งที่เรารู้สึกเจ็บป่วย แต่เมื่อนึกถึงรูปลักษณ์อาคารและสิ่งแวดล้อมในสถานพยาบาลหรือคลินิก ที่ชวนให้รู้สึกหดหู่และน่ากลัว ก็พาลทำให้ไม่อยากไปหาหมอเสียอย่างนั้น ยิ่งในผู้ป่วยเป็นผู้สูงวัยที่ไม่คุ้นกับการไปต่างที่ต่างถิ่น การได้ไปพบแพทย์ในบรรยากาศที่สบาย ๆ เหมือนอยู่ที่บ้าน ก็จะช่วยเรื่องกำลังใจได้ค่อนข้างมาก คลินิกที่จะพาไปเยี่ยมชมในเนื้อหานี้ออกแบบมาให้เหมือนอุโมงค์สีขาวรูปร่างตัว L ในความเรียบ ง่าย ปนสวยงามนั้นมีลูกเล่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ และความเป็นกันเองที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกประทับใจในทุกครั้งที่มา

ออกแบบHKL Studio
ภาพถ่าย : Shinkenchiku-shaTetsu Hiraga
เนื้อหาบ้านไอเดีย

โมเดิร์นหลังคาจั่วอสมมาตร

คลินิกที่อุ่นใจเหมือนได้อยู่บ้าน

คลินิกรูปบ้าน Asahicho Clinic ที่ให้การดูแลทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยสูงอายุนี้ ตั้งในเขตชานเมืองของเมืองชายฝั่งบนคาบสมุทรโบโซ ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไป 30 ไมล์ (ประมาณ 48.2 กิโลเมตร) จากกรุงโตเกียว ออกแบบโดย Hkl Studio จุดประสงค์คือ ให้ผู้ป่วยสูงอายุรู้สึกคุ้นเคยเหมือนอยู่บ้านมากขึ้น Hikalu Tanabe สถาปนิกได้ประดิษฐ์อาคารออกมาเป็นชุดของซุ้มหลังคาสามเหลี่ยมแบบอสมมาตรที่เลียนแบบหน้าจั่วของบ้าน เพื่อช่วยปกปิดขนาดและวัตถุประสงค์ของอาคาร ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้บ่อยสำหรับอาคารทางการแพทย์โดยมีตัวอย่าง เช่น ศูนย์ดูแลผู้ป่วยมะเร็งในเดนมาร์ก และบ้านพักดูแลรักษาแบบประคับประคองในลอนดอน

คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขยายใหญ่

แปลนบ้าน

ภาพจำลองอาคารจะเห็นว่ารูปร่างของคลินิกเป็นตัว L ด้านหน้าแคบและค่อย ๆ ขยายพื้นที่กว้างขึ้นตรงส่วนโค้งกลางอาคาร แล้วเรียวออกไปทางด้านหลังที่โอบตึกข้างเคียงอยู่ แต่ละส่วนของอาคารมีลักษณะเป็นเหมือนข้อปล้องต่อ ๆ กัน หลังคาค่อย ๆ สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงกึ่งกลางของอาคา รมองจากด้านข้างจะเหมือนอุโมงค์ทางเดินสีขาวที่ชวนให้รู้สึกตื่นเต้น

ช่องแสงระหว่างผนังกับหลังคา

ทุกองค์ประกอบคิดมาอย่างดี

ส่วนของหลังคาที่เป็นรูปจั่วแบบอสมมาตรองศาลาดเอียงไม่เท่ากัน และมีความสูงเหลื่อม ๆ กัน นอกจากจะสร้างมิติแปลกใหม่ให้หลังคาแล้ว ช่วงที่อยู่ระหว่างหลังคาแต่ละส่วนสถาปนิกติดตั้งกระจกที่ตั้งอยู่ระหว่างผนังกับหลังคา เกิดเป็นช่องแสงช่วยให้แสงสามารถทะลุผ่านอาคารได้ ในขณะที่จำกัดมุมมองผ่านเข้าสู่ภายใน

ช่องแสงสี่เหลี่ยมแนวตั้งบนผนัง

ด้านหลังของอาคารปิดทึบเพื่อความเป็นส่วนตัว มีช่องแสงแนวตั้งด้านข้างรับแสงและเชื่อมต่อสายตากับภายนอกได้

ผนังกระจกโปร่ง ๆ ด้านหน้า

ดีไซน์ให้ผ่อนคลายลดความกดดัน

จากด้านหน้าจะเห็นผนังกระจกที่ติดจากพื้นถึงเพดาน ช่วยเบลอขอบเขตระหว่างภายนอกและภายในเห็นทิวทัศน์จากด้านล่างถึงท้องฟ้า ใกล้ ๆ ประตูวางชุดโต๊ะเก้าอี้แบบบ้าน ๆ ต้อนรับการมาอย่างอบอุ่น จากนั้นจึงเป็นตู้ล็อกเกอร์และล็อบบี้ที่ค่อย ๆ เคลื่อนลึกเข้าไปข้างใน การเปลี่ยนแปลงแบบนี้ก่อให้เกิดช่องว่างที่มีสัดส่วนที่เหมาะสม ตั้งแต่ทางเข้าที่สะดวกสบายไปจนถึงพื้นที่ที่มีความสูงสองเท่าสำหรับรอพบแพทย์ ซึ่งจะช่วยลดความรู้สึกกดดันต่อสภาพแวดล้อมโดยรอบได้อย่างดี

ผนังกระจกเปิดออกสู่สวน

ม้านั่งรอพบแพทย์และล็อคเกอร์ในคลินิก

ลืมเก้าอี้พลาสติกที่ยึดติดกับโครงเหล็กที่คุ้นตาในคลินิกทั่วไปได้เลย เพราะที่นี่เลือกใช้ม้านั่งไม้สไตล์มินิมอลเบาะหุ้มผ้า และเก้าอี้ไม้ดีไซน์เก่ ๆ แทน ตอกย้ำความตั้งใจที่จะทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงความเป็นบ้านให้มากที่สุด

ม้านั่งและล็อบบี้

คำนึงถึงความอบอุ่นและปลอดภัย

บริเวณแผนกต้อนรับที่มีความสูงสองชั้นตรงบริเวณปีกของอาคารทำมุมตั้งฉากกับถนน ทำให้มองเห็นความเคลื่อนไหวภายนอกได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ห้องตรวจจะถูกวางไว้ด้านหลังของคลินิกเพื่อให้มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น การตกแต่งภายในเน้นการใช้โทนสีอ่อน ๆ อย่าง สีขาว สีเทา และใช้งานไม้เสริมในทุกจุด นอกจากจะดูทันสมัย สะอาดถูกสุขอนามัยแล้ว ยังเพิ่มความสงบในจิตใจปนไปกับความรู้สึกอบอุ่น

ล็อบบี้ต้อนรับแขก

ภายในคลินิก

เพื่อให้ผู้ป่วยสูงอายุและผู้พิการสามารถเข้าถึงได้ห้องพักผู้ป่วยได้ง่าย จึงจัดให้ส่วนใช้งานสำหรับผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ที่ชั้นล่างของคลินิก ในขณะที่พื้นที่ของเจ้าหน้าที่ตั้งอยู่ที่ชั้นบนแทน ทำให้สะดวกสบายมาก ๆ ส่วนห้องตรวจอยู่ลึกเข้าไปด้านในหลบสายตาจากผู้คนที่ผ่านไปมา แต่ไม่ได้รู้สึกลึกลับน่ากลัว ภายในที่กว้างขวางสามารถขยับเลื่อนรถเข็นพาผู้ป่วยไปชมวิวสวนได้ในหลาย ๆ จุด ธรรมชาติที่แทรกทุกช่วงว่างของอาคารช่วยเพิ่มความสดชื่นสบายตา ลดความวิตกกังวลระหว่างที่รอพบแพทย์ได้เป็นอย่างดี เป็นการออกแบบที่คำนึงถึงผู้ป่วยมาเป็นอันดับ 1

ห้องรอพบแพทย์

ทางเดินชั้นบน

สำหรับชั้นบนที่เป็นห้องทำงานของบุคลากรในคลินิก จัดเอาไว้ที่ชั้นบนมีระเบียงทางเดินข้าง ๆ และราวกันตกโปร่ง ๆ สามารถมองลงมายังชั้นล่างผ่านโถงสูงสองชั้นที่เชื่อมพื้นที่แนวตั้งเข้าไว้ด้วยกัน

ช่องแสงสกายไลท์

ตกแต่งภายในโมเดิร์นมินิมอล

อาคารสีขาวตกแต่งไฟสวยๆ ยามค่ำ

ภาพด้านข้างอาคารจะเห็นว่าหลังคาและผนังมีบางจังหวะที่เหมือนถูกตัดเฉือนเว้าเข้าทำให้เกิดช่องว่าง ซึ่งสถาปนิกจะใช้ประโยชน์ตรงจุดนี้ทำเป็นคอร์ทยาร์ดปลูกต้นไม้และโรยรอบ ๆ ด้วยกรวดสีขาว ผนังทั้งสองด้านที่หันหน้าเข้าหาสวนเปลี่ยนจากผนังทึบเป็นกระจก ทำให้ได้รับมุมมองของธรรมชาติได้เท่า ๆ กัน

บ้านไอเดียแชร์ไอเดีย :  สำหรับอาคารที่ใช้ผนังกระจกและผนังสีขาวทาเป็นหลัก สีขาวเป็นโทนที่กลาง ๆ ที่ช่วยให้ภายในดูสว่าง ลดปัญหาความรู้สึกที่ทำให้อึดอัด ช่วยให้รู้สึกถึงความผ่อนคลาย เหมาะแก่การพักผ่อน และสะท้อนความร้อนได้ดี  เป็นโทนสีพื้นฐานที่ทำให้ทุกองค์ประกอบลงตัวโดยไม่ต้องทำอะไรมาก แต่ในความใสของกระจกและสีขาวเรียบสะอาดนั้นบางครั้งก็ทำให้ดูนิ่ง ไม่มีชีวิตชีวา วิธีการเพิ่มมุมมองที่แตกต่างของบ้านหรืออาคารสามารถทำได้ด้วยการใช้ไฟตกแต่ง ยามค่ำเมื่อเปิดแสงไฟ ความสว่างและสีของแสงที่ส่องกระทบผนังสีขาว และส่วนที่ส่องทะลุกระจกออกมาจะทำให้อาคารธรรมดา ๆ ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าช่วงกลางวัน และสร้างบรรยากาศให้สิ่งก่อสร้างดูต่างไปจากที่เคยเห็นได้เป็นอย่างดี

แปลนอาคาร

คุณคิดเห็นอย่างไรกับบทความนี้ ?

Advertorial

ดูทั้งหมด

โพสต์ล่าสุดในหมวด แบบบ้าน


โพสต์ล่าสุด